นปช. ลัทธิอุบาทว์ในประเทศไทย

[sunny]

การนำเลือดไปเทที่สภา ไม่มีผลใด ๆ ต่อการยุบสภา สั่นคลอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ รวมทั้งอำนาจอำมาตยา

แต่...กลับเป็นผลลบต่อ นปช.เอง และ 3 เกลอหัวแข็ง แกนนำ นปช.ก็ตอบไม่ได้ว่าต้องการให้เกิดอะไร
และอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ทำเช่นนั้น What fot & For what

คำตอบที่ได้จากแกนนำคือ เป็นความคิดที่เกิดขึ้นกระทันหันหลังจากกลับจากราบ 11 ซึ่งไม่จริง
เพราะเต้นเจาะเลือดตั้งไว้ก่อนที่จะไปราบ 11

สายการข่าวกุมารทองรายงานว่า แผนการเจาะเลือดเอาไปเทหน้ารัฐสภา ฯลฯ ได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่ 12 มีค.2553 (ก่อนจะมีการเคลื่อนพล)

พยานหลักฐานอันเห็นประจักษ์และพิสูจน์ได้คือ เต็นท์พยาบาลที่จะใช้ในการบริจาคเลือดติดแอร์
ได้ถูกติดต่อและกำหนดก่อนที่จะกำหนดวันเคลื่อนพล ทั้งยังได้ทำการติดตั้งเรียบร้อยก่อนวันที่ 14 มีนาคม

ข้อพิสูจน์เชิงประจักษ์กรณีปลุกเร้าให้ผู้ร่วมชุมนุมเจาะเลือดได้พูดไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าเตรียมการไว้ก่อนเป็นweek เพราะอะไร ?

ก็เพราะว่าหลักฐานมันฟ้อง เนื่องจากเต๊นท์ติดแอร์เช่าไว้เพื่อเจาะเลือดมันก่อนหน้า และมาตั้งก่อนวีระยื่นคำขาดครั้งแรก ย่อมแสดงว่าแกนนำ 3เกลอหัวแข็ง ย่อมรู้อยู่ก่อน(เขาเรียกว่าประสงค์ต่อผล)

แต่การนำผู้ร่วมชุมนุมเดินขบวนไปราบ11 ก็เพียงเพื่อให้ดูเหตุการณ์เจือสมเป็นแรงกระตุ้นเข้าสู่แผนเจาะเลือด (พฤติกรรมนี้ทางสากลเรียกว่า สะกดจิตฝูงชน)

การกระทำที่เกิดขึ้นนั้น จึงกลายสภาพเป็นลัทธิ ไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง...รัฐปราบได้ไม่ละเมิดสิทธิ หรือ ละเมิดบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเคลื่อนไหวแบบประชาธิปไตย (เพราะเสื้อแดงกลายเป็นลัทธิ จึงไม่ได้รับการคุ้มครอง)

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนนี้ก็เพื่อแปรสภาพให้ นปช.กลายเป็น ลัทธิอุบาทว์โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นศาสดาเจ้าลัทธิ นำเอาสาวก(ชาวเสื้อแดง) มาเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งจากกรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะถูกเจ้าของประเทศที่พำนักอยู่เนรเทศ ฯลฯ ได้ทันทีเพราะเป็นบุคคลอันตราย(และขณะนี้จะเห็นได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ถูกจำกัดไม่ให้ใช้ประเทศที่พำนักดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมืองไปแล้ว จึงไม่สามารถPhone In ได้ตามที่เคยเป็น )

กรณีการเจาะเลือดเพื่อทำพิธีไสยศาสตร์นี้ พ.ต.ท.ทักษิณเอง ได้ทักท้วงไปยังแกนนำเรื่องทำไมต้องเจาะเลือดเอาไปเท มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย (ปรากฏในTweter ของทักษิณเองด้วย) แต่ 3แกนนำกลับไม่สนใจ ประเด็นอยู่ที่ว่าใครเป็นคนเสนอIDEA แน่ล่ะ คน ๆ นั้นต้องมีอิทธิพลต่อแกนนำสูงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จึงทำให้ปฏิบัติการเทเลือดหน้าสภาคงดำเนินต่อไป และขณะนี้ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างจนไม่อาจแก้ไข

การกระทำที่เกิดขึ้นของกลุ่ม นปช. เป็นลักษณาการณ์ของ "ลัทธิอุบาทว์"นอกกฎหมาย

เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มคนที่เข้าร่วม นปช.ที่เพิ่มขึ้น และเริ่มเข้าสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลไทยในทั่วทุกที่

อีกทั้งการกระทำในการเจาะเลือดแล้วนำไปเทตามสถานที่ต่างๆ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล หรือที่ทำการพรรค ปชป.

ถือเป็นพิธีกรรมทางลัทธิอย่างหนึ่ง และ 3 เกลอหัวแข็งแกนนำนปช. ยังได้นำกรณีทำพิธีไสยศาสตร์ที่นำเลือดไปราดหน้าทำเนียบ ได้ก่อให้เกิดผลเลวร้ายกับผู้ที่ถูกกระทำอย่างไรบ้าง บนเวทีสะพานผ่านฟ้า
ด้วยความภาคภูมิใจ และแกนนำเช่นจตุพร ก็รับลูกสานต่อถล่มเรื่องลูกชาย รมต. ตายเพราะพิธีกรรมสาดเลือดหน้ารัฐสภา

ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ที่ ฮ.มีปัญหาเนื่องจากเจอพายุลูกเห็บ

หรือแม้กระทั่ง พล.อ.เปรม ต้องเข้า รพ.กะทันหัน

การประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเหล่าแกนนำ ต่อผลของการทำพิธีไสยศาสตร์สาดเลือดนั้น

เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า การเคลื่อนไหวของ นปช. ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยตามนัยแห่งรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการเคลื่อนไหวลักษณะของลัทธิอุบาทว์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๑ ว่าด้วย "ประทุษร้าย" ซึ่ง ระบุฐานความผิดชัดเจนว่า " หมายถึงการกระทำใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะกดจิต หรือวิธีอื่นใดอันคล้ายคลึงกัน " การกระทำพิธีทางไสยศาสตร์ของ นปช.ดังกล่าว จึงจัดเข้าองค์ประกอบสมบูรณ์โดยมิอาจภาคเสธ

ทั้งยังเป็นที่สงสัยกับกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุมที่มาโดยบริสุทธิใจ ซึ่ง 3 เกลอหัวแข็งแกนนำเสื้อแดง ได้ประกาศว่า จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมไม่มีสองมาตรฐาน ประชาธิปไตยอันแท้จริงของประชาชนชาวไทย ซึ่งได้ค่อย ๆ เลือนหายไป กลายเป็นว่า...ให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ จะยุบสภาเมื่อไรก็ได้....(แล้วจะระดมคนให้มาชุมนุมหาพระแสงด้ามง้าวทำไม...??)

[sunny]

ทั้งหมดไม่อาจวิเคราะห์เป็นอย่างอื่นได้ในกรณีเจาะเลือดนี้ล้วนเป็นแผนเบ็ดเสร็จที่ได้มีข้อตกลงกันไว้เรียบร้อย

นั่นคือ อภิสิทธิ์อยู่ในตำแหน่งและมั่นคงขึ้น อำมาตย์ไม่กระเทือน แต่ เสื้อแดงกลายเป็น "ลัทธิอุบาทว์" เหมือน ลัทธิจิมโจน ที่ให้เหล่าสาวกกินยาตาย

ฉะนั้น สภาพของ นปช.ขณะนี้ได้แปรสภาพเป็น ลัทธิอุบาทว์ไปแล้วโดยองค์ประกอบ และพฤติกรรม อันมีการถ่ายทอดภาพออกไปทั่วโลก(พิธีเทเลือดหน้าสภา=บางพวกว่าเป็นพิธีซาตาน ฯลฯ) ทำให้ นปช.กลายเป็นCult ไม่ผิดอะไรกับ ลัทธิโอม ชินริเกียว ที่ปลุกระดมให้เหล่าสาวก ใส่ไซยาไนท์ในท่ออากาศสถานีรถไฟใต้ดิน คนบริสุทธิ์ตายเป็นร้อย รัฐบาลญี่ปุ่นต้องนำกำลังเข้ากวาดล้างจนสิ้นซาก

กรณีการเคลื่อนไหวเร้าเร่ง ให้ประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุม ด้วยเป้าหมายโค่นล้มอำมาตย์ และเรียกร้องประชาธิปไตย แต่กลับกลายนำผู้ร่วมชุมนุมมาเจาะเลือดทำพิธีไสยศาสตร์ ทำให้แทนที่จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย กลายเป็นการเคลื่อนไหวของพวกบ้าลัทธิอุบาทว์ที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้วไม่ผิดกันแม้แต่น้อย






นั่นหมายถึงผู้สนับสนุนเสื้อแดงต่างแดนในประเทศต่าง ๆ ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำ ว่าเป็นสาวกลัทธิอันตรายของประเทศนั้น และจะถูกจับตาเป็นพิเศษ ทั้งยังเป็นข้อตกลงสากล ทื่รัฐ(รวมทั้งประเทศไทย) มีความชอบธรรมที่จะกำจัดลัทธิอุบาทว์เช่นว่านี้ ให้สิ้นซากไป




ซึ่งเมื่อภาพการเอาเลือดไปทำพิธี แทนที่จะเป็นเรื่องประชาธิปไตย ที่จะได้รับการสนับสนุนจากองกรสิทธิมนุษยชนและ Freedom Org จากทั่วโลก....พลิกนิดเดียวเท่านั้น ก็สิ้นสุดของเรื่อง

....ในส่วนของประเทศไทย การใช้กำลังเข้าปราบปราม สังหาร หรือกำจัดขั้นเด็ดขาดรัฐบาลก็สามารถใช้อำนาจทางกฏหมาย เข้าปราบปรามได้ไม่ต้องกลัวการต่อต้าน หรือการประณามจากนานาอารยประเทศว่าทำร้ายประชาชนที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะหลักฐานและพฤติกรรมที่ 3 แกนนำเสื้อแดงได้นำเหล่าสาวกลัทธิอุบาทว์ได้กระทำสำเร็จครบองค์ประกอบแล้ว

ใคร คำถามคือ ใคร คือผู้วางแผนที่แสนจะแยบยล และอำมหิตเลือดเย็นเช่นนี้ ???
..........................................

แม้ว่าใครจะเห็นอภิสิทธิ์เลวอย่างไร แต่การตัดสินใจไม่ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามผู้ที่เข้าร่วมลัทธิอุบาทว์(เจาะเลือดบูชายัญ) ของ นปช.ในทันทีทันควันนั้น

ก็ถือเป็นการกระทำที่น่าพิจารณาว่าเป็นเพราะมีความสงสารเมตตาประชาชน หรือว่าไม่กล้าใช้อำนาจกันแน่ เพราะตามกฎหมายสากล รัฐบาลสามารถที่กำจัดและปราบปรามลัทธิอุบาทว์ได้ทันที

แม้แต่พวกสิทธิมนุษยชนก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือใดๆได้

ว่าไปแล้วหากจะให้ดี ต้องนำเลือดที่เจาะออกมา ไปเขียนเป็นจดหมายเลือดเพื่อเรียกร้อง

นอกจากจะได้ลงกินเน็ตส์บุ๊คแล้ว ยังเป็นการเรียกร้องที่อยู่ในกรอบของความเป็นประชาธิปไตย

จึงไม่แปลกใจที่ทำไม คนกรุงเทพฯ และใกล้เคียง จึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่ม นปช.

เนื่องด้วยเพราะคนกรุงเทพฯ และใกล้เคียง เป็นคนที่มีความคิด และการศึกษาสูง

มองออกว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดีต่อประเทศชาติ

โดยเฉพาะในแนวทางของการเรียกร้องในรูปแบบประชาธิปไตย

......... แต่จะอย่างไรก็ตาม โดยความเป็นรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจบริหารประเทศให้อยู่อย่างเป็นปกติสุข จึงมิอาจปล่อยให้ "ลัทธิอุบาทว์" เผยแพร่และกระจาย ปลุกปั่นเร่งเร้าเหล่าสาวกให้ก่อความไม่สงบภายในประเทศได้เนิ่นนานเกินกว่าการที่จะแก้ไขได้ต่อไป

...และนี่คือที่มาของการนำกำลังทหารเต็มอัตรา เข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อล้อมกรอบปิดเส้นทางหลบหนีของเสื้อแดง ที่ได้แปรสภาพเป็นลัทธิอุบาทว์ไปแล้ว ขณะกองกำลังของทหารทั้งหมดพร้อมที่จะดำเนินการ เพียงรอคำสั่งจากรัฐบาลอภิสิทธิเท่านั้น

..........................

[sunny]

เป้าประสงค์ของนายวีระและพรรคพวกที่ได้รับมอบหมายมาจากผู้ที่จ้างวาน

ก็คือการรวมพลคนที่เห็นต่างทางด้านการเมือง ให้ออกมาเป็นส่วนหนึ่งหรือเหยื่อของลัทธิอุบาทว์

เพื่อให้ง่ายต่อการปราบปราม โดยที่ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องจากองค์กรใด

การปราบปรามในครั้งนี้ ไม่ได้มีผลเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

แต่ยังมีผลรวมไปถึงผู้ที่สนับสนุนอยู่ต่างประเทศ

ก็หวังแต่เพียงว่า รัฐบาลคงไม่เอาประเด็นนี้มาใช้ในการปราบปรามกลุ่ม นปช.

[sunny]

.......เข็มนาฬิกากำลังหมุนไป ใกล้เข้าสู่ ...27 มีนา....วันฆ่าพิราบ....!!???

[สุมาอี้]

ไปอ่านเจอมาครับ

นปช ลัทธิอุบาทว์ ยุคใหม่

by amalit1990 » Mon Apr 13, 2009 7:47 pm

มูลนิธิครอบครัวอเมริกัน" (เอเอฟเอฟ) เป็นองค์กรในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องอันตรายของลัทธิต่างๆ อย่างจริงจัง และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลัทธิอุบาทว์เอาไว้คร่าวๆ ว่า

1. จะยกย่องบูชาตัวผู้นำลัทธิอย่างสุดขั้ว ห้ามสาวกตั้งคำถามต่อตัวผู้นำโดยเด็ดขาด

2. ชักจูงให้มีการหาสาวกใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

3. ผู้นำลัทธิจะออกคำสั่งกำหนดวิธีคิด รวมทั้งพฤติกรรมทุกอย่างของสาวก ไม่ว่าสาวกจะทำอะไรก็ตามต้องขออนุญาตจากผู้นำ

4. ลัทธิจะเชิดชูกลุ่มของตนว่ามีความดีงาม โดดเด่นเหนือกว่าคนนอกลัทธิ

5. ผู้นำลัทธิคือความจริงสูงสุด ไม่อยู่ใต้อำนาจใดๆ

6. สาวกต้องหาเงินเข้าลัทธิและยอมสละเวลาอย่างไม่จำกัดให้ลัทธิ

7. คำสอนของลัทธิจะชักจูงว่า เราทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ (Ends Justify Means) เช่น ตั้งมูลนิธิลวงโลกเพื่อนำเงินมาทำบุญกับลัทธิเป็นเรื่องถูกต้อง

8. สาวกจะถูกชักจูงให้คบหาแต่เฉพาะกับคนพวกเดียวกันในลัทธิเท่านั้น

9. ผู้นำลัทธิจะทำให้สาวกรู้สึกละอายในตัวเอง เพื่อที่จะควบคุมได้ง่าย

ถ้าใครก็ตามพบเจอกับสภาพแบบที่เล่ามานี้ขอให้ถอยห่างออกมาทันที ไม่เช่นนั้นชีวิตอาจจบไม่สวย!

ø¤º°¨„ø¤º°¨°º¤ø„¸¨°º¤ø„¸¸„ º¤ø„¸
¨°º¤ø„ ¸THE BEATLES FOREVER!! º¤ø„¸
¸„ø¤º°¨¸„ø¤º „¸¨°º¤ø„¸¸„ ¸„ø¤º

[สุมาอี้]

เป็นแผนไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง ?

วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร

ตามความเห็นของผมคุณ ซันนี่ ได้กรุณาแจ้งเตือนมา
ก็สมควรรับฟ้งเอาไว้แล้วหาทางป้องกัน

กรุณาอ่าน

สงครามกลางเมือง - ความแตกแยกของคนในชาติ – ฉากทัศน์แห่งความรุนแรงที่ไม่อยากให้ไปถึง

http://nonlaw.forumotion.com/forum-f1/topic-t936.htm

เป็นความคิดเห็นที่ดีครับในความคิดเห็นผม
แต่ว่ามองแค่เพียงปัจจัยภายในเท่านั้น ไม่ได้มองปัจจัยภายนอกประกอบ
จึงไม่ครอบคลุมปมปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น

สุดท้ายมัวแต่ทะเลาะกันเองในตารางหมากรุก สุดท้ายต่างชาติก็มารวบพวกเราเอา ลงหม้อต้มทั้งกระดาน

[sunny]

ที่แน่ๆ ตอนนี้ต่างประเทศต่างก็ขับทักษิณออกนอกประเทศ

เพราะว่าเป็นผู้นำของลัทธิอุบาทว์นี่แหละ