ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
2 posters
หน้า 1 จาก 1
ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
ทอร์กุนได้เป็นผู้สำเร็จราชการต่อ เพราะซุ่นจื้อยังพระชนม์น้อยอยู่ เขาได้จัดพระราชพิธีศพให้กับฉงเจิน ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง อย่างสมพระเกียรติ ทอร์กุนผู้นี้เอง ได้ออกพระราชกฤษฎีกา ให้ชายจีนทุกคนไว้ทรงผมสุดเท่ โดยไว้ผมเปียยาว โกนข้างหน้าครึ่งหัวเหมือนชาวแมนจู โดยให้เวลาไว้ผมประมาณ ๒ อาทิตย์ หากพ้นกำหนดนี้แล้ว ใครไม่ไว้เปียจะถูกตัดหัว แม้จะมีผู้คัดค้านมาก แต่เขาก็ไม่สนใจ (สังเกตผู้ที่มีอำนาจทุกคน เหมือนกันไปหมด จะเอาตัวเองว่าเป็นหลัก ไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น) ว่ากันว่า ผู้ถูกตัดหัวในคราวนั้น มีร่วมล้านคน จนมีคำกล่าวว่า "จะเอาผมหรือจะเอาหัว" ชาวจีนชิงชังผมทรงอุบาทว์นี้มาก เรียกว่า "ทรงขี้ข้าแมนจู" และแน่นอน ย่อมชิงชังไปถึงราชวงศ์แมนจูด้วย จึงเกิดกระแส "ล้มชิงกู้หมิง" คอยหาทางโค่นบัลลังก์ ตลอดเวลาที่แมนจูเรืองอำนาจ ทอร์กุนหลงระเริงในอำนาจมาก อาจเนื่องมาจากเก็บกดมาจากการที่ ตัวเองถูกฮองไทจี๋แย่งบัลลังก์ เขาจึงจ้องอยากได้บัลลังก์ฮ่องเต้ของซุ่นจื้อ อยู่ตลอดเวลา ชนิดเผลอไม่ได้ เขาไม่ยอมให้ซุ่นจื้อเรียนหนังสือ ไม่ว่าใครจะทัดทานก็ไม่สนใจ แถมยังพยายามยัดเยียดฮองเฮา ให้กับซุ่นจื้ออีกโดยไม่สนใจว่า ซุ่นจื้อจะรู้สึกอย่างไร โดยมีจุดประสงค์เดียวคือ กุมซุ่นจื้อให้อยู่ในกำมือตนให้ได้ มารดาของซุ่นจื้อเห็นโอรสกำลังเป็นเหยื่อ "คนโฉด" ก็ได้อภิเษกกับทอร์กุน เพื่อเบรกๆ ทอร์กุนไว้บ้าง แต่ก็ไร้ผล เพราะทอร์กุนแอบไปอภิเษกกับเจ้าหญิงของเกาหลี พยายามแย่งเมียคนอื่นมาเป็นของตน ในที่สุด กรรมก็ตามสนองเขา เมื่อเขาอาเจียนเป็นเลือดแล้วตายในที่สุด
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
การตายของทอร์กุน ทำให้ซุ่นจื้อได้เป็นอิสระ จึงได้พยายามศึกษาอย่างขยันขันแข็ง พยายามบริหารบ้านเมืองอย่างดี เนื่องจากขณะนั้น มีปัญหาเกี่ยวกับชนชั้นอย่างมาก จึงได้พยายามให้ความสำคัญกับชาวจีนมากขึ้น ลดอิทธิพลของชาวแมนจูลง เพื่อลดความตึงเครียด จากการเผชิญหน้ากัน มีการสักการะขงจื๊อ กวนอู เพื่อแสดงว่า เลื่อมใสในบุคคลเหล่านี้ พระองค์ได้ตั้งหลักศิลาจารึกนาม ฉงเจินแห่งราชวงศ์หมิงไว้ แล้วยกย่องให้เป็นผู้อุทิศตนเพื่อบ้านเมือง (เพราะถ้าฉงเจินไม่แขวนคอตาย ซุ่นจื้อก็ย่อมไม่ได้ครองแผ่นดินจีนเช่นกัน) อู๋ซานกุ้ย ก็ได้รับตำแหน่งเป็น "ผิงซีอ๋อง" เพราะมีความดีความชอบมาก ต่อมา ทรงยกน้องสาว ให้อภิเษกกับลูกชายของอู๋ซานกุ้ย และได้เก็บบทเรียนสำคัญมาก ซึ่งล้มราชวงศ์หมิงมาแล้ว มาเป็นอุทาหรณ์ นั่นก็คือ "ขันที" ตัวแสบ จะไม่ยอมให้ก้าวก่ายโดยเด็ดขาด กับทั้งลดหย่อนภาษีราษฎร เพื่อช่วยเหลือประชากร
ต่อมา ซุ่นจื้อก็ประชวรด้วยไข้ทรพิษ สิ้นพระชนม์ในขณะที่พระชนม์เพียง ๒๔ พรรษา เสวียนเยี่ย โอรสที่เหลือรอดจากไข้ทรพิษเพียงองค์เดียว ได้ครองราชย์ต่อ ตั้งนามว่า คังซี ขณะนั้นมีพระชนม์เพียง ๙ พรรษา คังซีเป็นนักปกครองที่เก่งกาจคนหนึ่ง ได้สร้างความเจริญให้กับจีนมากทีเดียว และแก้ปัญหาทางชนชั้นกับชาวจีนได้ดี สมัยนี้ รัสเซียเข้ามารุกราน คังซีได้นำทัพด้วยตัวเอง และได้ชัยชนะ แถมยังได้ยึดครองไต้หวันด้วย ต่อมา อู๋ซานกุ้ยได้พยายามก่อกบฏ เขาได้ยื่นข้อเสนอให้คังซีนำชาวแมนจูทั้งหมด อพยพกลับไปตั้งอาณาจักรของตนที่แมนจูเรีย แล้วจะไม่เอาผิด โดยพยายามขอความร่วมมือจากคนอื่นๆ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะคนอื่นมองว่า เขาทรยศต่อแผ่นดินเกิดได้ (จากกรณีสมคบกับแมนจู ทำให้แมนจูเข้ามาครองจีนได้) ก็ย่อมจะทรยศกับคนอื่นได้เช่นกัน คังซีปฏิเสธข้อเสนอของเขา อู๋ซานกุ้ยกลัวจะถูกประหาร จึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน คังซีได้ครองแผ่นดินนานถึง ๖๑ ปี ทรงชอบการล่าสัตว์มาก ได้สร้างลานล่าสัตว์ใหญ่ไว้แห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงฤดูกาล ก็จะพาขุนนางมาล่าสัตว์กัน (อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี อย่าเอาอย่าง) ในตอนปลายรัชสมัย ได้เกิดกรณี "ศึกสายเลือด" ขึ้นในหมู่โอรส องค์ชายอิ้นเจิน หรือ องค์ชาย ๔ ได้ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท จนได้ตำแหน่งมาในที่สุด พอหลังจากนั้นไม่นาน คังซีก็สิ้นพระชนม์
อิ้นเจิน ได้ครองราชย์เป็น หย่งเจิ้นฮ่องเต้ จากศึกสายเลือดนี่เอง ทำให้ได้ฉายาว่า "หย่งเจิ้น จักรพรรดิกระบี่เลือด" หย่งเจิ้น ศรัทธาในศาสนาพุทธมาก สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ นอกจากนั้นยังศรัทธาในลัทธิเต๋าด้วย และยังได้พยายามผนวกทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่ไม่สำเร็จ หย่งเจิ้นปกครองด้วยความเข้มงวดกวดขัน จนค่อนไปทางเผด็จการมากๆ แต่ก็ไม่มีผลเสียหายร้ายแรงต่อบ้านเมือง พระองค์ได้รับนักพรต เข้ามาอยู่ในวัง ให้ปรุงยาอายุวัฒนะถวาย นี่เอง ทำให้หย่งเจิ้นสิ้นพระชนม์ หลังจากครองราชย์ได้เพียง ๑๓ ปี
ต่อมา ซุ่นจื้อก็ประชวรด้วยไข้ทรพิษ สิ้นพระชนม์ในขณะที่พระชนม์เพียง ๒๔ พรรษา เสวียนเยี่ย โอรสที่เหลือรอดจากไข้ทรพิษเพียงองค์เดียว ได้ครองราชย์ต่อ ตั้งนามว่า คังซี ขณะนั้นมีพระชนม์เพียง ๙ พรรษา คังซีเป็นนักปกครองที่เก่งกาจคนหนึ่ง ได้สร้างความเจริญให้กับจีนมากทีเดียว และแก้ปัญหาทางชนชั้นกับชาวจีนได้ดี สมัยนี้ รัสเซียเข้ามารุกราน คังซีได้นำทัพด้วยตัวเอง และได้ชัยชนะ แถมยังได้ยึดครองไต้หวันด้วย ต่อมา อู๋ซานกุ้ยได้พยายามก่อกบฏ เขาได้ยื่นข้อเสนอให้คังซีนำชาวแมนจูทั้งหมด อพยพกลับไปตั้งอาณาจักรของตนที่แมนจูเรีย แล้วจะไม่เอาผิด โดยพยายามขอความร่วมมือจากคนอื่นๆ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะคนอื่นมองว่า เขาทรยศต่อแผ่นดินเกิดได้ (จากกรณีสมคบกับแมนจู ทำให้แมนจูเข้ามาครองจีนได้) ก็ย่อมจะทรยศกับคนอื่นได้เช่นกัน คังซีปฏิเสธข้อเสนอของเขา อู๋ซานกุ้ยกลัวจะถูกประหาร จึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน คังซีได้ครองแผ่นดินนานถึง ๖๑ ปี ทรงชอบการล่าสัตว์มาก ได้สร้างลานล่าสัตว์ใหญ่ไว้แห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงฤดูกาล ก็จะพาขุนนางมาล่าสัตว์กัน (อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี อย่าเอาอย่าง) ในตอนปลายรัชสมัย ได้เกิดกรณี "ศึกสายเลือด" ขึ้นในหมู่โอรส องค์ชายอิ้นเจิน หรือ องค์ชาย ๔ ได้ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท จนได้ตำแหน่งมาในที่สุด พอหลังจากนั้นไม่นาน คังซีก็สิ้นพระชนม์
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
ต่อมา เมื่อเฉียนหลงปีที่ ๖๐ เฉียนหลงได้ประกาศสละราชสมบัติ โดยให้ หย่งเอี๋ยน องค์ชาย ๑๕ เป็นรัชทายาท ครองราชย์เป็น เจียชิ่งฮ่องเต้ อย่างไรก็ดี เฉียนหลงยังคงกุมอำนาจบริหารต่อไป เจียชิ่งเป็นเพียงหุ่นเชิดของพระบิดาเท่านั้น ต่อมา จากความบีบคั้น พวกลัทธิบัวขาว ได้ก่อกบฏชาวนาขึ้น เป็นกบฏครั้งใหญ่ในราชวงศ์ชิง ต้องใช้เวลาปราบถึง ๙ ปี จึงจะสงบ ระหว่างนั้น เฉียนหลงก็สิ้นพระชนม์ลงอย่างตรอมใจ หลังจากเฉียนหลงสิ้นพระชนม์ได้ไม่นาน เจียชิ่งก็ "เช็กบิล" เหอคุนทันที จัดการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ริบสมบัติเข้าหลวง เหอคุนรู้ชะตาตัวเองดี จึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน นี่ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเจียชิ่ง หลังจากนั้น ก็ไม่มีอะไรเด่นๆ อีก
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
ยุคหลังจากเฉียนหลงเป็นต้นมา เป็นช่วงที่ราชวงศ์ชิงตกต่ำ อันเนื่องมาจาก ฮ่องเต้ถัดๆ มา ไม่เก่งกาจอะไร ผนวกกับความชิงชังของชาวจีน ที่ยังไม่เสื่อมคลาย และยังมีปัญหาแทรกซ้อนจากการรุกราน ของชาวตะวันตก ดังเช่น กรณีสงครามฝิ่น ซึ่งจีนยึดฝิ่นของอังกฤษไว้แล้วเผาทิ้ง แล้วปิดร้านฝิ่นของอังกฤษ ทำให้อังกฤษส่งทัพเรือ เข้ามาสู้กับจีน ซึ่งผลออกมา จีนแพ้ ต้องยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษ (นี่คือ บทเรียนจาก ยุคล่าอาณานิคมของพวกฝรั่ง) ฮ่องเต้ถัดจากเจียชิ่งมา ชื่อ เต้ากวง ซึ่งไม่มีผลงานเด่นๆ (นอกจากเรื่องสงครามฝิ่น) องค์ต่อมาชื่อ เสียนเฟิง ขึ้นชื่อในด้านเจ้าชู้ ทำให้ครองราชย์ได้เพียง ๑๐ ปี เสียนเฟิง ได้รับนางเยโฮนาลา มาเป็นเจ้าจอมหลัน ซึ่งมีความทะเยอทะยานมาก ต่อมาเจ้าจอมหลันได้เป็นพระนางซูสี มเหสีฝ่ายซ้าย ในรัชกาลนี้ มีกบฏไท้เพ้งเกิดขึ้น ก่อการจลาจลไปทั่วทุกภาคของจีน ตั้งกองบัญชาการที่นานกิง กบฏไท้เพ้งมีกำลังเข้มแข็งมาก ต่อสู้กับทหารของรัฐจนเกือบจะได้ชัยชนะ แต่ต่อมา กบฏไท้เพ้งได้มีความขัดแย้งกันภายใน มีการไล่ฆ่ากันเอง ความแตกแยกนี้ ทำให้ทหารฝ่ายรัฐกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ และได้ชัยชนะในที่สุด จากนั้น เสียนเฟิงสิ้นพระชนม์ โดยก่อนสิ้นพระชนม์ได้ฝากราชโองการลับไว้ฉบับหนึ่ง ให้กับมเหสีฝ่ายขวาคือ พระนางซูอัน เพื่อปราบเจ้าจอมหลัน ซึ่งได้เลื่อนเป็นพระนางซูสี มเหสีฝ่ายซ้ายแล้ว มเหสีทั้งคู่ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระโอรส ฮ่องเต้ถ่งจื้อ ซึ่งยังเยาว์อยู่ ต่อมา นางซูสีได้ใช้อุบายทำให้พระนางซูอันหลงกล แล้วยอมเผาราชโองการลับนั้นทิ้ง และยังวางยาสังหารพระนางซูอันอีกด้วย รวบอำนาจไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ราชวงศ์ชิง/เช็ง/แมนจู
นางซูสีบริหารบ้านเมืองอย่างไม่เอาไหนอย่างยิ่ง บ้านเมืองระส่ำระสาย ประชาชนย่ำแย่ แล้วยังมีภัยจากต่างชาติมาคุกคามอีกหลายครั้ง จนปี ๒๔๔๓ ก็มีกบฏนักมวย (อี้เหอถวน) เกิดขึ้น สังหารชาวต่างชาติจำนวนมาก ต่างชาติจึงยกทัพมาปราบ จีนแพ้อีก เสียค่าปรับจำนวนมาก ซูสีกับกวงสู่ต้องหนีออกจากวัง ไม่นานนัก กวงสู่ก็สิ้นพระชนม์อย่างลึกลับ ลือกันว่า ถูกซูสีวางยาพิษ
หลังจากกวงสู่สิ้นพระชนม์ไม่นาน พระนางซูสีก็เอาเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ในตระกูลอ้ายซินเจี๋ยหลอ ชื่อ ฟู่อี้ (บางเล่มเรียก ปูยี) ซึ่งมีอายุเพียง ๓ ขวบ มาเป็นฮ่องเต้ ตั้งพระนามว่า ซวนถ่ง ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้าย ของราชวงศ์ชิง และเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนด้วย
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
eye in the sky- จำนวนข้อความ : 141
Registration date : 18/02/2010
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|