GT200 จาก BBC

[sunny]

[sunny]

[sunny]

[sunny]

[sunny]

[sunny]

"ทักษิณ"ชี้อนาคตอำมาตย์ต้องถอย

18 กพ. 2553 21:34 น.

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้กล่าวในรายการทอล์คอะราวด์เดอะเวิล์ด ผ่านสถานีโทรทัศน์พีเพิ่ลชาแนล ว่า เป็นช่วงที่ต้องเล่าความจริงหลังถูกกล่าวหามาด้านเดียว เมื่อ 6 มค.หลังชนะเลือกตั้งได้รับโปรดเกล้า 9 กพ. 2544 เป็นนายกฯ ซึ่งตนจำได้แม่นว่าเป็นสิ่งสำคัญคือจะเป็นรัฐบาลที่ไมรู้จักคำว่าาเหน็ดเหนื่อยประชาชนคงเห็นแล้วเดินทางไปต่างประเทศเพื่อประชุมเป็นส่วนมากและทำงานตลอดไม่ใช่เอาแต่พูด และตนจะไม่เป็นผู้นำตามกม.แต่ถือว่ามีหน้านำพาประเทศให้สู่ความมั่งคั่งและเป็นผู้นำการบริหารทางจัดการองค์กรคือประเทศด้วย
หลังตั้งรัฐบาลผสมซึ่งคงรู้ว่าเป็นระบบโควต้า แต่คำนึงถึงนโยบายถือเป็นสัญญาประชาคม ต้องทำให้ได้และขอรับผิดชอบในส่วนไปสัญญาไว้ ก่อนสัญญาก็ต้องมั่นใจว่าเราทำได้ ถือเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตยที่ผูกโยงไปกับประชาชน เมื่อเราไปเสนอว่าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ หากเป็นคนของประชาชนจริงประชาชนจะรักไม่ต้องคอยให้อำมาตย์ดูแล ต้องยึดประชาชนเป็นหลัก ในอนาคตอำมาตย์ต้องถอย

ระบบโควต้ามีการต่อรองแน่นอน เช่นวันนี้ปชป.ต้องอาศัยพรรคร่วม ปกติกระทรวงดี ๆ พรรคร่วมไม่เคยได้แต่วันนี้ต้องให้พรรคร่วม เห็นได้ว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์นายกฯไปไหนมีคนนับหมื่นแล้วจะไปเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศได้อย่างไร และยังถูกพรรคร่วมขี่คอเช่นนี้ รธน.ก็ล้าหลังเพราะถูกทหารซื่อบื้อนำพาประเทศไปถอยหลัง สมัยตนเป็นเพราะประชาชนเลือกมามีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างอิสระ ครม.ที่มาร่วมก็มาร่วมตามกติกาด้วยความเรียบร้อย

วันนี้อำมาตย์และทหารลากประเทศไทยไปสู่ศตวรรษที่ 20 เป็นทหารที่สั่งซื้อจีที 200 ซึ่งนายกฯก็บอกว่าหมาทำได้ดีกว่า

[sunny]

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7023 ข่าวสดรายวัน

ได้ที"จีที200"ร่วง ดัน"ไฟโด้ " พรทิพย์ชงตัวละ4ล.

แจงทหารอเมริกันก็ใช้ บ.เยอรมันโผล่ขายด้วย "ป๊อก"ปัดไม่งัดข้อมาร์ค พท.บี้สอบงบ"เรือเหาะ"

แข่งจีที 200 - บริษัทจากเยอรมนี โชว์เสนอขายเครื่องตรวจระเบิด รุ่น เอชอีดีดี 1 ส่วนภาพเล็กคือ เซเบอร์ 4000 กับไฟโด้ ที่ฝ่ายความมั่นคงเตรียมจัดซื้อมาทดแทนจีที 200 ในราคาสูงถึงตัวละ 4 ล้านบาท

ได้ที "จีที 200"หมดสภาพ "หมอพรทิพย์" ชงเสนอใหม่ทันที โดยมีเทพเทือกรับลูก เตรียมจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิด2 รุ่น "เซเบอร์ 4000-ไฟโด้" ของอังกฤษและสหรัฐ มาใช้แทน ราคาแพงมโหฬารเฉียด 4 ล้านต่อเครื่อง อ้างจำเป็นต้องซื้อเพื่อความปลอด ภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเสี่ยงตายในภาคใต้ "บิ๊กป๊อก"ปัดพัลวันเหตุนำขุนทหารตบเท้าแถลงข่าวยืนกรานใช้จีที 200 ไม่ได้จงใจงัดข้อท้าทายนายกฯ ด้านเพื่อไทยซัดผบ.ทบ.สุดงมงาย อีกหน่อยทหารคงต้องใส่ผ้ายันต์แทนเสื้อเกราะ บี้"มาร์ค"สอบสวนโครงการจัดซื้อเรือเหาะกองทัพต่อ ส่วนบริษัทเยอรมันลงทุนเปิดโรงแรม ขนเครื่องตรวจหาระเบิดมาโชว์อ.ฟิสิกส์ จุฬาฯ แต่สุดท้ายไม่ได้เรื่อง ซ้ำรอยจีที

-"เทือก"ปัด-สั่งหยุดใช้"จีที200"

เวลา 07.00 น. วันที่ 19 ก.พ. ที่กองการบิน ขส.ทบ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปปฏิบัติราชการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า วันนี้ตนไปจ.ปัตตานีและยะลา ติดตามงานตามนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นงานด้านการเกษตรและประมง โดยยึดแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางไว้ และขอให้ประชาชนทำใจไม่ต้องตื่นตระหนก อะไรจะเกิดขึ้นหรือมีปัญหาอะไรก็ต้องแก้กันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดอ่อนประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด "จีที 200" จะเปิดช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายเข้ามาก่อเหตุมากขึ้นในภาคใต้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา เมื่อก่อนเจ้าหน้าที่จะขอเครื่องมือดังกล่าวเพราะเชื่อว่าใช้หาวัตถุระเบิดได้ แต่เมื่อมีปัญหาจึงรู้สึกหนักใจว่าคนทำงานในพื้นที่จะเอาเครื่องมืออะไรมาใช้แทน แต่เราต้องหนักแน่นและให้คิดว่าเมื่อก่อนไม่มีเครื่องมือชนิดนี้ยังพอทำงานกันได้ โดยใช้ความสามารถของคนที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวด

ต่อข้อถาม เป็นห่วงหรือไม่เพราะหน่วยปฏิบัติระบุว่าต้องการใช้เครื่องจีที 200 ต่อไป ทั้งที่ผลการทดสอบออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นายสุเทพกล่าวว่า ที่จริงตนไม่ควรจะตอบปัญหานี้ เพราะเป็นเรื่องของการปฏิบัติ แต่ถ้าพูดในฐานะคนธรรมดา ต้องถือว่าอะไรที่ผู้ปฏิบัติยังคิดว่าเขาพึ่งพาอาศัยได้ในการทำงานและไม่ทำให้ต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น เราให้เขาดำเนินการไป แต่ตนไม่มีหน้าที่ตัดสินใจ

-วอนเลิกเพ่งเล็งปัญหา"จีที"

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากยังใช้เครื่องดังกล่าวจะทำให้กำลังพลเสี่ยงเกินไปหรือไม่ นายสุเทพระบุว่า ต้องย้อนถามแล้วถ้าไม่มีเครื่องดังกล่าวกำลังพลจะเสี่ยงหรือไม่ มันเหมือนกัน ปัญหามีอยู่เรื่อย ต้องพยายามแก้ไข

เมื่อถามถึงการประสานกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการลงพื้นที่ชี้แจงให้กับผู้ปฏิบัติงาน นายสุเทพกล่าวว่า ขึ้นกับรมว.วิทยาศาสตร์ฯ เท่าที่ฟังคิดว่าจะลงไปวันที่ 23 ก.พ. เรื่องนี้อย่าให้ความสำคัญเกินไป เพราะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้อยู่ที่เครื่องจีที 200 แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธารัฐบาล เห็นว่าการมีชีวิตอยู่ใต้ร่มพระบารมีร่วมกับประชาชนคนอื่นเป็นสิ่งที่ประเสริฐแล้ว ที่สำคัญต้องให้เขามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องปลีกย่อยไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญ

ต่อข้อถาม รัฐบาลจะทำอย่างไรกับงบประมาณ ที่เสียไปในการจัดซื้อเครื่องจีที 200 นายสุเทพกล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้มีบ่อยไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เวลาตัดสินใจซื้อเครื่องมือเครื่องใช้อะไร หากพบว่ามีความผิดต้องว่ากันไปตามระเบียบและดูว่ามีสาเหตุมาจากอะไร

-"ป๊อก"แจงไม่งัดข้อนายกฯ

พล.อ.อนุพงษ์ เสริมว่า จะพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องการใช้เครื่องจีที 200 ซึ่งจะให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีความรู้ไปอธิบายให้ผู้ใช้ได้รับทราบการทำงานของเครื่องดังกล่าว และเราต้องทำความเข้าใจ เพราะกำลังพลที่ปฏิบัติงานมีประสบการณ์และเชื่อมั่นว่าสามารถหาระเบิดได้ จึงต้องอธิบายให้เข้าใจผลทางเทคนิคด้วย นอกจากนี้ที่มีความพยายามไปพูดเรื่องการจัดซื้อ เราจะเรียนให้ทราบว่าความต้อง การมาจากผู้ที่ใช้แล้วเห็นว่าได้ผลจึงทำการจัดซื้อขึ้น และไม่ต้องกังวลหากมีการทุจริตทางกองทัพพร้อมให้ตรวจสอบ และยอมรับหากพบความผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีระบุไม่สบายใจที่ต้องใช้เครื่องจีที 200 ต่อไป พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เข้าใจว่าต้องบอกเจ้าหน้าที่ที่ใช้งาน ส่วนจะตรวจเจอหรือไม่เจอระเบิดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่นายกฯ กังวลและกำชับให้ระวังคือเมื่อตรวจแล้วไม่เจอ ทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่าไม่เจอและจะเป็นอันตรายกับผู้ตรวจมากกกว่า และหากจำเป็นต้องใช้ อย่าไปใช้กับตัวบุคคล

ส่วนกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ากองทัพเห็นแย้งกับนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ยืนยันว่า ไม่ได้เห็นแย้งใดๆ ทั้งสิ้น การจัดแถลงข่าวชี้แจงเมื่อวันที่ 18 ก.พ. เพราะหวังให้คนทราบจากการ แถลงทางโทรทัศน์ เมื่อพูดไปแล้วประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และที่ตนชี้แจงนั้นได้รับคำสั่งจากนายกฯ และนายสุเทพ ไม่ใช่คิดจะไปชี้แจงเอง โดยนายสุเทพเน้นย้ำให้เตือนกำลังพลที่ใช้ว่าอย่าใช้เพราะเกรงจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง ซึ่งทั้ง หมดตนไม่เห็นว่าจะขัดแย้งกับนายกฯ ตรงไหน

เอาจริง - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมจว.ชายแดนใต้ โดยเปิดประเด็นการจัดซื้อเครื่องมือตรวจระเบิด "เซเบอร์ 4000" และ "ไฟโด้" เพื่อใช้แทนจีที 200

-"พรทิพย์"ชงเรื่องซื้อเครื่องใหม่

ต่อมา เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายสุเทพ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ. ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยา ศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังประชุมร่วมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

รองนายกฯระบุว่า กรณีประสิทธิภาพของเครื่องจีที 200 มีปัญหาได้ปรึกษาหารือกันเพื่อหามาตรการรองรับ ครั้งนี้ได้ให้ไปเตรียมเรื่องของการปรับปรุงการข่าว งบประมาณที่ใช้ รวมทั้งเตรียมข้อมูลประเมิลผลเครื่องมือตรวจหาสารวัตถุระเบิด "เซเบอร์ 4000" และ "ไฟโด้" ตาม ที่พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ จะทำโครงการเสนอมาเพื่อใช้ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับเครื่องมือเซเบอร์ 4000 และไฟโด้นั้นมีราคาสูงมาก ซึ่งพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ได้เตรียมนำเครื่องมือดังกล่าวมาใช้ ถึงแม้จะมีราคาแพงแต่จะต้องจัดให้พอดีกับความต้องการ ขณะเดียวกันได้เตรียมเครื่องมืออื่นๆ มาเสริมด้วย

"แม้เครื่องไฟโด้จะมีราคาสูงถึงเกือบ 4 ล้านบาท แต่ต้องเตรียมการรองรับ เพราะรัฐบาลต้องการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน จึงมอบให้พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์และทหารไปดูว่าถ้าจะจัดซื้อต้องใช้กี่เครื่อง บริเวณใดบ้าง" นายสุเทพกล่าว

-ให้ทหารระวังตัวเอง-ใช้"จีที"

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าจะนำเครื่องไฟโด้ราคา 4 ล้านบาท มาใช้แทนจีที 200 ใช่หรือไม่ นายสุเทพรีบตอบว่า "เรื่องจีที 200 หยุดพูดสักพักได้หรือไม่ เอาว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่มีแค่มือเปล่า ไม่มีอะไรใช้ บางส่วนยังเห็นว่าเครื่องยังใช้ได้ ก็ให้ใช้ไปก่อน โดยระหว่างนี้จะเตรียมมาตรการทดแทน"

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า หลังจากผลทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า เครื่องจีที 200 ใช้ไม่ดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ลงมาชี้แจงผู้ปฏิบัติเองว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ขณะนี้หากจะใช้ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ไปเกี่ยวข้องกับการใช้จับตัวบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาได้ปฏิบัติมาเช่นนี้ การใช้เครื่องจีที 200 ให้ใช้ตรวจสอบเฉพาะพื้นที่กว้างๆ เงื่อนไขที่สอง ให้แจ้งกำลังพลทราบด้วยว่า เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ที่เกรงว่าอาจจะมีอันตรายกับผู้ใช้ ก็ให้มีความระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น

"ส่วนกรณีมีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น เราจะแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ต้องเอาชนะจิตใจประชาชนในพื้นที่ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะไม่ทำร้ายประชาชน เพราะไม่ใช่เป็นวิธีการไปเอาชนะจิตใจประชาชน นี่คือนโยบายในกรอบนโยบาย การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และนำเอา การพัฒนามาพัฒนา และจะทำให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขอยืนยันว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่มีการกระทำเช่นนั้นเด็ดขาด การกระทำเช่นนั้นเป็นการจงใจใส่ร้ายป้ายสี เพราะฉะนั้นฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดที่จะสร้างความเข้าใจกับประชาชน" ผบ.ทบ.กล่าว

-พท.บี้มาร์คสอบซื้อ"เรือเหาะ"

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ผบ.ทบ. นำทหารออกมาแถลงว่าจะใช้เครื่องจีที 200 ต่อไป ทั้งที่นายกฯ ทักท้วงว่า ถ้ามันไม่ดีแล้วไม่ใช้ก็เท่ากับว่าเสี่ยงน้อยลง แต่หากว่ายังฝืนใช้อยู่ทั้งที่ไม่ดี และมีผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ออกมาถือเป็นเรื่องอันตราย ตนจึงเป็นห่วงลูกหลานน้องนุ่งทหารของพวกเรา ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ควรทำตามความเห็นนายกฯ ที่ต้องการให้ระงับการใช้งานหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ถ้าเป็นนายกฯ คนก่อนพล.อ.อนุพงษ์ก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่คนนี้ไม่รู้

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกเพื่อไทย แถลงกรณีเดียวกันว่า เห็นเรื่องนี้แล้วไม่สบายใจ เพราะผลตรวจสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ระบุชัดว่าจีที 200 ไม่มีคุณสมบัติทำงานค้นหาสารประกอบวัตถุระเบิด ดังนั้นทุกฝ่ายต้องให้การยอมรับในผลสอบดังกล่าวและต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้มีส่วนในการอนุมัติให้จัดซื้อ เพราะทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณนับพันล้านบาท

"ท่าทีของผู้บัญชาการทหารแสดงให้เห็นว่านำความเชื่อมาอยู่เหนือข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะนำผ้ายันต์มาแทนเสื้อเกราะ หรือใช้คาถาเป็นอาวุธก็ได้ ซึ่งขอให้ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาแสดงออกซึ่งสิทธิและความชอบธรรมให้กับตนเองและกองทัพด้วย" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ ระบุอีกว่า วันที่ 23 ก.พ.นี้ จะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อเครื่องจีที 200 นอกจากนี้ ฝ่ายค้านจะตรวจสอบการพิจารณางบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และงบลับของกองทัพให้มากขึ้น โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือเหาะ ซึ่งขอให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้วย

-"แดง"เย้ยนายกฯปูนปลาสเตอร์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงประสิทธิภาพการใช้งานจีที 200 หลังพล.อ.อนุพงษ์ ยังยืนยันจะใช้เครื่องดังกล่าวต่อว่า ถ้าพล.อ.อนุพงษ์จะใช้เครื่องจีที 200 ต่อไป โดยปล่อยให้พลทหารชั้นผู้น้อยต้องนำชีวิตไปเสี่ยงกับแท่งอะไรไม่รู้ก็ควรแสดงความจริงใจโดยการลงพื้นที่จูงมือทหารชั้นผู้น้อยถือจีที 200 ออกไปตรวจที่เกิดเหตุ หรือถ้าไม่กล้าจริงๆ ให้ตนไปเป็นเพื่อนเอาผ้าขาวม้าผูกข้อมือเดินไปพร้อมๆ กันก็ได้

นอกจากนั้น การที่พล.อ.อนุพงษ์เห็นขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ในเรื่องประสิทธิภาพจีที 200 ยังสะท้อนให้เห็นถึงนัยยะอะไรบางอย่างหรือไม่ว่า นายกฯ ไม่มีภาวะผู้นำ เห็นได้จากหลายองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลนั้นไม่รับฟังความคิดเห็นของนายกฯ ไม่ว่ากรณีคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) และกรณีนี้แม้แต่วอลล์เปเปอร์ยังไม่เชื่อฟังเลย

"วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นแค่นายกฯ หุ่นเชิดเท่านั้น แต่เป็นนายกฯ ปูนปลาสเตอร์ที่ไม่มีใครสนใจ เป็นผู้นำที่ไม่มีอำนาจแท้จริง ไม่แน่คนเสื้อแดงอาจไม่ต้องชุมนุมก็ได้ เพราะองคา พยพของนายกฯ ไม่ได้เชื่อฟังนายกฯแล้ว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อรักษาภาพลักษณ์ให้เดินในเส้นทางการเมืองต่อไปได้ในวัย 45 ปี" แกนนำคนเสื้อแดงกล่าว

-"อ๋อย"ชี้มาร์คลูกไก่ในมือ"ป๊อก"

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่พล.อ. อนุพงษ์ นำผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาแถลงข่าวกรณีเครื่องจีที 200 โดยมีลักษณะปกป้องตัวเองและผู้ใต้บังคับบัญชา เข้าข่ายมีลักษณะกระด้างกระเดื่องแข็งข้อต่อนายกฯ ถือเป็นความผิดที่นายกฯต้องจัดการ ซึ่งตามหลักประชาธิปไตยจะให้เป็นผบ.ทบ.ต่อไปไม่ได้ แต่การพูดอย่างนี้ก็จะขัดกับความจริงเพราะนายกฯ ที่มาจากประชา ชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายสมัคร สุนทรเวช ยังถูกผบ.ทบ.คนนี้กระทำในลักษณะเดียวกัน

[sunny]

"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้งของพล.อ.อนุพงษ์ และน่าสงสัยว่ากุมความลับนายกฯ ไว้ ประกอบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดการชุมนุมของประชาชนแล้วกองทัพไม่สนับสนุนเมื่อไหร่ รัฐบาลก็อยู่ลำบาก มองว่าพล.อ.อนุพงษ์ถือไพ่เหนือกว่า ส่วนนายกฯ อยู่ในที่นั่งลำบากเหมือนลูกไก่ในกำมือ" นายจาตุรนต์ ชี้

-มาร์คยัน-ให้เลิกใช้"จีที"

เวลา 16.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองทัพยืนยันใช้จีที 200 ต่อไปว่า เป็นการชี้แจงจากประสบการณ์ของผู้ใช้และที่มาที่ไป รวมถึงยืนยันว่าไม่เคยใช้เครื่องนี้จับกุมใครโดยลำพังและอยู่ในช่วงทำ ความเข้าใจกับกำลังพล รวมทั้งกำลังทำแผนรองรับในอนาคตเมื่อจะไม่ใช้เครื่องมือนี้ จึงถือว่าไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งกัน และไม่ได้มีปัญหาอะไร

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ที่จริงตนทราบตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 18 ก.พ.ว่า กองทัพจะขอโอกาสชี้แจงเรื่องต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีข้อขัดข้อง จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ย้ำกับตนว่าไม่ได้มีลักษณะสวนทางหรือปฏิเสธผลทดสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แต่อยู่ในช่วงการทำแผนรองรับ

อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ต้องมีเวลาปรับตัว แต่ต้องมีแนวทางชัดเจนว่าต้องไม่ใช้เครื่องมือนี้กับบุคคล และทุกคนต้องเข้าใจความเสี่ยงและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเครื่องนี้ ตลอดจนเร่งทำแผนปฏิบัติงานที่ปรับเข้ากับการไม่มีเครื่องมือดังกล่าว แต่ในใจของตนอยากให้ลดและเลิกใช้เครื่องนี้โดยเร็วที่สุด

-"ไฟโด้"ยังทดแทนไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีจะนำเครื่องไฟโด้ที่มีราคาแพงกว่าจีที 200 มาทดแทน นายกฯ กล่าวว่า คงใช้ทดแทนกันไม่ได้ เพราะเครื่องไฟโด้จะไม่สามารถช่วยจำกัดพื้นที่ หรือใช้ในพื้นที่กว้างๆ ได้ แต่อาจต้องคิดวิธีใช้เครื่องมือนี้กับอุปกรณ์ตัวอื่น

ต่อข้อถาม ปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดช่องว่างในการดูแลความมั่นคงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราตระหนักว่ามีผลกระทบในช่วงนี้ จึงต้องหาความพอดีให้กำลังพลมีขวัญกำลังใจในการทำงานไปพร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนต่อไป

นอกจากนั้น นายกฯ อธิบายถึงขั้นตอนสอบ สวนจัดซื้อจีที 200 ว่า ต้องรอรับรายงานจากแต่ละหน่วยที่ซื้อเครื่องมือนี้เพื่อดูว่าซื้อมาเมื่อไหร่ ราคาเท่าไหร่ และมีที่มาที่ไปการจัดซื้ออย่างไร ส่วนจะสาวไปถึงระดับผู้นำเหล่าทัพหรือไม่ ต้องดูตามข้อเท็จจริง ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเวลาที่เราสอบ มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริง ไม่ใช่มาตั้งโจทย์แต่ต้นโดยไม่มีข้อมูลว่าจะต้องถึงคนนั้นคนนี้หรือไม่ ถ้าจากข้อเท็จจริงมันไปถึง ก็ถึง

ด้านน.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้ที่นายซูการ์โน มะทา ส.ส. ยะลา พรรคเพื่อไทย พาดพิงพรรคประชาธิปัตย์รู้เห็นในการซื้อขายเครื่องตรวจจับระเบิดจีที 200 เพราะมีอดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของประชาธิปัตย์ เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ขายจีที 200 ว่า ไม่เป็นความจริง พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิดดังกล่าว และขอยืนยันแนวทางที่รัฐบาลและเหล่าทัพดำเนินการเรื่องนี้มีความเป็นเอกภาพ และตั้งใจดูแลเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีขวัญกำลังใจ มีความมั่นใจด้วยอุปกรณ์ดีที่สุด

-โผล่อีก"ตรวจบึ้ม"ซ้ำรอย"จีที"

วันเดียวกัน นายแฟรงก์ เทรเออร์ และนายเดวิด วอลมาร์ กก.ผจก.บริษัท ยูนิวอล กรุ๊ป ประ เทศเยอรมนี จัดแถลงเปิดตัวเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดมือถือ รุ่น "เอชอีดีดี 1" ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ โดยมีเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ปตพ.(191) นำระเบิดชนิดต่างๆ เช่น ทีเอ็นที ซีโฟร์ และเอ็นโฟร์ ไปซุกซ่อนตามจุดต่างๆ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ โดยมี นายพงษ์ ทรงพงษ์ นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ และนายอำนาจ สาธานนท์ 3 อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์

การทดสอบเริ่มต้นด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้ นำวัตถุระเบิดใส่กล่องพลาสติกใสสีขาว กล่องละ 50 กรัม ให้ผู้สื่อข่าวนำไปซ่อนตามจุดต่างๆ ต่อมานายแฟรงก์ใช้เครื่องเอชอีดีดี 1 ค้นหานาน 25 นาที จึงพบระเบิดซีโฟร์จุดแรก จากนั้นใช้เวลา 4 นาทีในการตรวจพบระเบิดทีเอ็นที แต่ไม่สามารถค้นพบที่ซ่อนระเบิดเอ็นโฟร์ได้ จากนั้นนายเดวิดใช้เครื่องดังกล่าว ตรวจหาระเบิดซีโฟร์ที่ซ่อนไว้ในกล่อง โดยมีกล่องเปล่าเป็นเป้าหลอกอีก 9 ใบ ผลพบว่า เครื่องเอชอีดีดี 1 กลับชี้ไปที่กล่องเปล่าเท่านั้นโดยไม่สามารถตรวจหาระเบิดที่ซ่อนไว้ นอกจากนี้ ขณะลงมือทดสอบ กลุ่มอาจารย์จุฬาฯ ได้นำกล่องประทัดซ่อนไว้ที่ตัวและนำประทัด 3 จุดไปซุกซ่อนอยู่นอกห้อง พร้อมกับนำดินประสิวบรรจุหลอดขนาดเล็กให้ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งคล้องคอไว้ ปรากฏว่า เอชอีดีดี 1 ไม่ได้ชี้ไปที่กลุ่มอาจารย์หรือผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

-อ้างห้องทดสอบปนเปื้อน

หลังจบการทดสอบ นายเดวิดสรุปการสาธิตว่า เครื่องเอชอีดีดี 1 ราคา 7 แสนบาทต่อเครื่อง ใช้แบตเตอรี่ 1.5 โวลต์ เพื่อปล่อยประจุแม่เหล็กทะลุทะลวงกำแพงได้ ไม่ใช้ซิมการ์ด แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์จริงรือไม่ หากเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทำไมต้องใช้คนถือเดิน นายเดวิดอ้างว่า อธิบายสั้นๆ ไม่ได้ เพราะว่าเครื่องดังกล่าวมีองค์ประกอบที่ต้องใช้กับมนุษย์ ส่วนเหตุที่ตรวจไม่พบประทัดที่อ. จุฬาฯ ซุกซ่อนไว้เป็นเพราะภายในห้องสาธิตปนเปื้อนมากเกินไปและเป็นสถานที่แคบมีสารตกค้างสูง เครื่องจะใช้ได้ดีในพื้นที่กว้าง ตัวเครื่องจะไปตรวจดินระเบิดที่มีปริมาณมากก่อน ผู้ใช้เครื่องจะต้องถูกฝึกฝนมาอย่างดี ในสถาน การณ์จริงจะต้องใช้ควบคู่กับแจมเมอร์ หรือเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์

นายพงษ์ อ.ฟิสิกส์ จุฬาฯ กล่าวว่า ไม่มีความรู้สึกมั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องมือดังกล่าว ครั้งนี้ไม่ถือเป็นการทดสอบ เป็นเพียงการสาธิต แต่บริษัทเจ้าของเครื่องพยายามทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเพียงการจับมาประแป้งแต่งตัวใหม่ โดยแค่เพิ่มระบบแบตเตอรี่เข้าไป ถ้าจะให้ดีต้องทดสอบกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เนื่องการสาธิตไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ เท่าที่สังเกตดูมีเพียงเดินไปเดินมาแล้วตรวจหาวัตถุระเบิด ไม่ต่างจากเครื่องจีที 200

-เปิดที่มา"ไฟโด้-เซเบอร์"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิดเซเบอร์ 4000 และไฟโด้ พบว่า เซเบอร์ 4000 พัฒนาโดยบริษัทสมิทส์ ดีเทคชั่น ประเทศอังกฤษ มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ในไทย ชื่อว่า บ.สมิทส์ ดีเทคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่อาคารโอเอสซี เลขที่ 99/3 ม.5 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ คุณสม บัติอ้างว่าตรวจได้ทั้งสารประกอบระเบิด อาวุธชีวภาพ สารพิษอุตสาหกรรม และยาเสพติด อาทิ สารระเบิดอาร์ดีเอ็กซ์ เซมเท็กซ์ ทีเอ็นที แอมโมเนียมไนเตรต ฯลฯ และมีคุณภาพดีที่สุดในโลก

ส่วนเครื่องไฟโด้ เป็นของบริษัทไอซีเอ็กซ์ เทคโนโลยี รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา อ้างว่าเป็นเครื่องตรวจสารระเบิดแบบพกพาที่มีประ สิทธิภาพดีที่สุดในโลกเช่นกัน ทำงานได้ดีพอๆ กับสุนัขดมระเบิดซึ่งผ่านกระบวนการฝึกฝนมาอย่างหนัก

-"พรทิพย์"แจงระบบ"ไฟโด้"

ช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เซเบอร์ 4000 ราคาเครื่องละประมาณ 2 ล้านบาท ลักษณะการทํางานเหมือนเครื่องไอออนสแกน เป็นเครื่องมือแบบพกพาสามารถตรวจในระยะใกล้ แต่เวลาตรวจต้องใช้กระดาษเป็นตัวทดสอบ เพื่ออ่านค่าสารเสพติด หรือสารระเบิด ข้อเสียคือกระดาษแพง แผ่นละประมาณ 800 บาท เมื่อเวลาอยู่ในพื้นที่ที่มีสารระเบิดมากเครื่องจะหยุดทํางาน

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวอีกว่า ผู้ผลิตเครื่องเซเบอร์ 4000 คือ เยอรมันและอังกฤษ ส่วนเครื่องไฟโด้ ราคาเครื่องละประมาณ 4 ล้านบาท ลักษณะการทํางานเหมือนจมูกสุนัข เวลาใช้งานเมื่อเครื่องตรวจพบสารระเบิด หรือสารเสพติด จะส่งสัญญาณให้ทราบว่ามีสารระเบิดหรือสารเสพติดอยู่จุดใด ทหารอเมริกันนําเครื่องชนิดนี้ไปใช้งานในสงครามอิรัก ถือว่าเป็นเครื่องที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ข้อเสียเมื่อโดนความชื้นเครื่องจะหยุดทํางาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสํานักงานนิติวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นหน่วยงานเดียวที่มีเครื่องมือเหล่านี้ใช้เกือบทุกชนิดทั้งเซเบอร์ 4000 ไฟโด้ และเอ็กซ์เทค ซึ่งเครื่องเอ็กซ์เทคจะตรวจได้เฉพาะสารระเบิดเท่านั้น

หน้า 1

[sunny]

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7023 ข่าวสดรายวัน

งมงาย

คอลัมน์ เหล็กใน


แม้จะเข้าใจได้ถึงการออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ของกองทัพนำโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องตรวจวัตถุระเบิด "จีที 200"

เพราะหลังผลการพิสูจน์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ว่า เครื่องมือตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ย่ำแย่อย่างยิ่ง มีความแม่นยำเพียง 4 ใน 20 ครั้ง

หรือพูดง่ายๆ เชื่อถือได้เพียง 20% เท่านั้น

ทำให้กองทัพบก ตกเป็นเป้าจับตามองเพราะสั่งซื้อเครื่องมือตัวนี้เข้ามามากที่สุด แถมราคาก็แพงรากเลือดกว่าส่วนราชการอื่นๆ ที่เคยซื้อ

กองทัพบก ต้องขนแม่ทัพ นายกอง รวมไปถึงผู้ใช้เครื่องมือตัวนี้ออกมายืนยันว่ามีประสิทธิภาพ

โดยยกตัวอย่างการประสบผลสำเร็จในการทำงาน ทั้งตรวจหาระเบิด อาวุธ รวมไปถึงยาเสพติด

แต่ไม่ได้บอกว่าแล้วที่ตรวจพลาดมีมากขนาดไหน!?

หากเป็นสารประเภทอื่นๆ คงไม่กระไรนัก

แต่ถ้าเป็นระเบิด หากผลตรวจบอกว่ามี เข้าไปดูแล้วไม่มี ก็ยังพอทน

ถ้ากลับกันเครื่องเกิดบอกว่าไม่มี แล้วจุดที่ตรวจนั้นเกิดมีระเบิดซุกอยู่ อะไรจะเกิดขึ้น!?

การแถลงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เชื่อถือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ปักใจกับ"ความเชื่อ"ของตัวเองมากกว่า

ให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตของ "กาลิเลโอ" นักวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ชื่อดัง

ในสมัยที่คนโบราณยังเชื่อว่าโลกแบน

"กาลิเลโอ" คือคนแรกที่ประกาศสวนความเชื่อของคนในสมัยนั้น

เขาบอกว่า "โลกกลม"

พร้อมพิสูจน์ให้เห็นทางวิทยาศาสตร์

แต่ไม่ว่ากาลิเอโอ จะพิสูจน์อย่างไร ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะปักใจเชื่ออยู่แล้วว่า "โลกแบน"

เรื่องของกาลิเลโอก็ไม่ต่างจาก "จีที 200" ผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เห็นชัดเจนว่าเป็นอย่างไร

แต่กองทัพและผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่จัดซื้อเครื่องมือชนิดนี้ไปใช้ พยายามเหลือเกินที่บอกว่าดีๆๆๆ

ทว่าไม่มีบทพิสูจน์อะไรนอกจากคำบอกเล่า

และเป็นคำบอกเล่าเฉพาะด้านบวก

แล้วที่ชื่นชมว่าดีนัก ดีหนา ก็ให้สงสัยว่าที่โจรใต้ใช้วิธี "ดับเบิ้ลบอมบ์" ลอบวางระเบิดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจ ก่อนกดระเบิดลูกที่ 2 จนตาย-เจ็บกันหลายสิบครั้ง

เกิดขึ้นได้อย่างไร!?

และหลังจากมีเจ้า "จีที 200" มาประจำการที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คนไทยและเจ้าหน้าที่ไทยต้องตายเพราะระเบิดไปเท่าไหร่

แน่นอนเครื่องมือเพื่อปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่ควรจะมี ไม่ว่าแพงแค่ไหนก็ต้องซื้อ

แต่ไม่ใช่เอาเครื่องที่ไร้ประสิทธิภาพมาใช้

ประเทศอังกฤษ ต้นกำเนิดเจ้าเครื่องที่ว่านี่ยังไม่ยอมนำไปใช้ด้วยซ้ำ

ของที่ผลิตในประเทศตัวเองแท้ๆ เขายังไม่เชื่อถือ

แต่ประเทศไทยที่ห่างกันครึ่งโลกดันเชื่อเสียอย่างนั้น

หน้า 6

[sunny]

คลิปภาพประกอบ slide ที่โดนจับผิด จะเห็นตั้งแต่วินาทีที่ 38

ขำไม่ออก! slide ทบ. แถลง GT200 ใช้ภาพผิด

จากกรณีที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดสอบเครื่องตรวจหาสารระเบิด GT200 แล้วได้ผลพิสูจน์ออกมาว่า GT200 ใช้งานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพนั้น ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนล่าสุดทางกองทัพบก นำโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกมาแถลงข่าว พร้อมคณะทหาร ยืนยันเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า GT 200 ใช้งานได้จริง

โดยขณะที่คณะทหารแถลงข่าว ได้มีการแสดงภาพสไลด์ประกอบการบรรยาย ซึ่งดูเผิน ๆ แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่กลับมีคนตาดีไปเห็นภาพ Nvidia GT200 ปรากฎอยู่ในสไลด์การแถลงข่าว ยืนยันความสามารถของเครื่องตรวจหาสารระเบิด GT200 ทำเอาคนตาดี หรือเซียนคอมพิวเตอร์ทั้งหลายเอามาวิจารณ์และจับผิดกันแบบขำ ๆ (แต่งานนี้ ทบ. ขำไม่ออกครับท่าน!!!)

นั่นเพราะ ภาพ GT200 ที่นำมาใช้ประกอบสไลด์นั้น คือ ชื่อโค้ดเนมชิพของการ์ดจอคอมพิวเตอร์ ที่ผลิตโดยบริษัท Nvidia แน่นอนว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครื่องตรวจหาสารระเบิด GT200 เลย

ผลจากภาพสไลด์นี้ เลยกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันในเว็บบอร์ดของเซียนคอมพิวเตอร์ว่า นี่คงเป็นความผิดพลาดของผู้ทำสไลด์ของกองทัพบก ที่ไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ขณะที่บางส่วนก็ขำกลิ้ง ว่าเจ้าเครื่อง GT200 มีการ์ดจอประกอบอยู่ด้วยหรือ?

งานนี้ คงต้องรอกองทัพบกออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่าทำไมถึงได้ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อออกอากาศขนาดนี้

[eye in the sky]

http://www.oknation.net/blog/swongviggit/2010/02/19/entry-1

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8897936/A8897936.html

และบอกว่า "อย่างฮา เจ๊ไปดูเอง" จึงได้เปิดเข้าไปดูและพบกระทู้ด้านบนตามแจ้ง....
มันคือ ภาพ Slid งานแถลงการณ์ผลการตรวจสอบเครื่องตรวจระเบิด GT 200 ของรัฐบาล
ที่ถูกนำมาเผยแพร่ทางทีวี แต่สิ่งที่โชว์อยู่ไม่ยักกะเป็นเครื่อง ตรวจระเบิด GT 200 ของรัฐบาล
แต่ดั๊นนนน เป็น Nvidia GT200 มันคือการ์ดจอรุ่นหนึ่ง ที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซะอย่างนั้น





โดย ความเห็น 80 ของกระทู้ดังกล่าวได้ให้ความเห็นชี้แจงไว้ว่า



เลยพาย้อนกลับมาดูภาพในเวปของ Nvidia มาเทียบให้ดู ตามความเห็นที่ 3 นำมา



และการเช็คสเป็คหน้าจอของคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งตาม ความเห็นที่ 36 มาให้ชมกัน



โอ้ พระเจ้าช่วย ถ้าเป็นจริง ทำไมไม่มีการตรวจสอบข้อมูล หรือ ข้อความ หรือ
รูปภาพก่อนการแถลงการณ์ครั้งนี้เลยหน๊อออ



เอ!!! หรือนี่จะเป็นกระบวนการดิสเครดิตรัฐบาลต่อชาวโลกอีกหน เห้อออออ !!!
ขอบคุณข้อมูลจาก puntip.com ค่ะ

http://drama-addict.com/?p=8170



เรื่องมันมีอยู่ว่าวันนี้มีการจัดแถลงข่าว GT200 โดยทุกเหล่าทัพ นำโดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ผู้บัญชาการกองทัพบก มาชี้แจงถึงการใช้งาน GT200
โดยยืนยันว่า GT200 ใช้งานได้จริง!!!
และจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้เลิกใช้หรือหาเครื่องมือที่มาทดแทน GT200 ได้
ก็ขอใช้ GT 200 ไปพลางๆก่อน!!
ทำให้มีคนวิพากษ์วิจารณ์การแสดงออกของทัพบกอย่างดุเดือดในหลายๆเว็บ
โดยเฉพาะพันทิปห้องหว้ากอที่เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวให้มีการพิสูจน์ GT200 มาโดยตลอด
ทีนี้มันมีคนตาดีสังเกตเห็นว่า ไอ้สไลด์ที่ทั่นอนุพงษ์เอามาประกอบการบรรยายการทำงานของ GT200 นั้น


มัน GT 200 ก็จริง แต่มันไม่ใช่ GT 200 ที่เป็นเครื่องตรวจหาระเบิด!!!!!
แต่เป็นการ์ดจอ GT 200 ของบริษัท NVIDIA ว้อย!!!



ดูตราบริษัท NVIDIA แล้วไปเทียบกะในสไลด์ดูนะครับ
สาดดดด ท่านอนุพงษ์ ท่านโดนชั้นผู้น้อยมันเล่นแล้วคร้าบบบบบ
ชั้นผู้น้อยที่ท่านให้มันทำสไลด์ประกอบการบรรยาย GT200 มันไปหาภาพจาก google มาทำ slide แหงๆ
ขนาดสไลด์ประกอบการทำงานยังมั่วเลย แล้วพวกกระผมจะเชื่อที่พวกท่านบอกว่า GT200 ใช้งานได้จริงได้ไงอ่ะครัฟ
พวกเธอทั้งหลายจงไปช่วยกันขลำที่กระทู้นี้โดยพลัน

มีใครเห็นเหมือนผมมั้ย ในslide แถลงGT200 มีเอารูปภาพและข้อมูล gpu GT200 ของ Nvidia มาให้ดู
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8896582/X8896582.html
http://www.pantip.com/tech/hardware/topic/HP2884548/HP2884548.html
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8897936/A8897936.html

มีประเด็นว่าช่อง nbt อาจเจตนาดีเอาภาพ GT200 ของ NVIDIA ประกอบให้
แต่ถ้าดูจากคลิปนี้จะเห็นว่าตอนนายทหารท่านหนึ่งอธิบายการทำงานของ GT200
เขาใช้สไลด์ที่ว่าฉายด้วยโปรเจคเตอร์ในงานจริงๆว่ะครับ!!!


http://www.bit-tech.net/hardware/graphics/2008/06/24/nvidia-geforce-gtx-280-architecture-review/1



Nvidia's GT200 GPU die shot - Click to enlarge
GT200: Nvidia GeForce GTX 280 1GB

Manufacturer: Nvidia
UK Pricing: £411.10 (inc. VAT)
US Pricing: $639.99 (ex. Tax)

~ 25,000 bath

http://www.geeks3d.com/20080617/nvidia-gt200-gpu-and-architecture-analysis/

NVIDIA GT200 GPU and Architecture Analysis

Beyond3D has published a very detailed article on the architecture of the GT200,
the GPU behind the GeForce GTX 280. Read tHe complete analysis HERE.

If it’s not clear from the above diagram, like G80, GT200 is a fully-unified,
heavily-threaded, self load-balancing (full time, agnostic of API) shading architecture.
It has decoupled and threaded data processing, allowing the hardware to fully realise
the goal of hiding sampler latency by scheduling sampler threads independently of,
and asynchronously with, shading threads.

NVIDIA’s GT200: Inside a Parallel Processor




Real World Technologies have published a detailed article about NVIDIA’s GT200 processor,
the GPU that powers GeForce GTX 280 and 260. The article talks about GT200 architecture
of course but also about CUDA and compute architecture as well as physical implementation (the die).
The complete article is availabel here: NVIDIA’s GT200: Inside a Parallel Processor



Related posts:

1. GT200: Nvidia GeForce GTX 280 analysis
   
2. NVIDIA’s GT200: Inside a Parallel Processor
   
3. NVIDIA GT200 die photo
   
4. NVIDIA GF100 Architecture Details
   
5. NVIDIA GT200 Tech Demo: Medusa
   

[sunny]

สุเทพบอก "หมอพรทิพย์"ดันรัฐซื้อฟีโด้ เพราะจำเป็นต้องใช้

22 กพ. 2553 10:02 น.

เมื่อเวลา 08.00น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการนำเรื่องข้อสรุปการทบทวนการใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200เข้าสู่ที่ประชุมครม.อังคารที่ 23ก.พ.นี้ว่า เรื่องนี้มีข้อสรุปกันไปแล้ว ตนยังไม่เห็นเรื่องที่จะนำข้อสรุปเข้าสู่ที่ประชุมครม.หรือไม่ แต่ตนคิดว่าไม่มี

เมื่อถามว่า คนในภาคใต้มีการวิจารณ์ว่า หน่วยงานด้านนิติวิทยาศาสตร์จะทำหน้าที่อะไรกันแน่ หรือว่าจะเป็นแม่ค้าอาวุธ ว่า ไม่ใช่ นิติวิทยาศาสตร์ไม่ใช่มาค้าขาย ส่วนการที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ออกมาเสนอให้ใช้เครื่องฟีโด้ แทนเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200นั้น เป็นเพราะเขาจำเป็นต้องใช้เครื่องมือดังกล่าวอยู่ และถึงอย่างไรจะต้องเครื่องมือให้เขาใช้ ไม่เช่นนั้นจะให้เจ้าหน้าที่เดินไปกู้ระเบิดด้วยมือเปล่าคงไม่ได้ ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหาต่อต้านพญ.คุณหญิงพรทิพย์ แต่อย่างใด

[eye in the sky]

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1266744535&grpid=&catid=02

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 22:02:21 น.
มติชนออนไลน์


บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

แกะพิรุธมหาดไทยซื้อเงียบเครื่อง"อัลฟ่า6"จาก
บ.เครือนักการเมืองโยง"วัฒนา อัศวเหม"ฟาดส่วนต่าง100ล.?

แกะรอยปมจัดซื้อเครื่องตรวจสารเสพติด อัลฟ่า 6 มหาดไทย พบสั่งซื้อ3ลอตกว่า500เครื่อง
ราคาไม่เท่ากัน คิดส่วนต่างเป็นเงิน100 ล้าน เครือข่ายเดียวกันโยงกลุ่มวัฒนา อัศวเหม

กรณีหน่วยงานหลายแห่งจัดซื้อ จีที 200 และ อัลฟ่า 6 ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย
กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด( ป.ป.ส.)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมศุลกากร

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยนั้น ก่อนหน้านี้ นายวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง
ออกมายอมรับว่า ได้สั่งซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 จำนวน 726 เครื่อง ราคาเครื่องละ 7.2 แสนบาท
เพื่อส่งมอบให้อำเภอตามแนวชายแดนได้ใช้ตรวจหายาเสพติด โดยนำเข้าจากประเทศอังกฤษ
ซึ่งผลดำเนินการได้ผลน่าพอใจ สามารถตรวจสอบทะลุฝาผนังกำแพงได้ระยะทางถึง 200 เมตร

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทยจัดซื้อ อัลฟา-6 อย่างน้อย 3 ครั้ง

ครั้งแรก จัดซื้อโดยกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 12 มีนาคม .2552 จำนวน 63 เครื่อง วงเงิน 33,450,000 บาท
จากบริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ตกราคาเครื่องละ 530,952 บาท

ครั้งที่สอง จัดซื้อโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต)
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 จำนวน 2 เครื่อง วงเงิน 1,100,000 บาท จากบริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง
ตกราคาเครื่องละ 550,000 บาท

ครั้งที่สาม จัดซื้อลอตใหญ่โดยกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 จำนวน 479 เครื่อง
วงเงิน 349,430,500 บาท จาก บริษัท เปโตรกรุงเทพฯ จำกัด ตกราคาเครื่องละ 729,500 บาท
(ราคาใกล้เคียงกับที่นายวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ชี้แจงกับสื่อมวลชน)

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และ บริษัท เปโตรกรุงเทพฯ จำกัด
มีความเชื่อมโยงกัน โดยผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 1 คนถือกุ้น เป็นกรรมการทั้ง 2 บริษัท

บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด แจ้งข้อมูลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ว่า ขายเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้า

ส่วนบริณษัท เปรโตกรุงเทพฯ จำกัด ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง(อ่านข้อมูลประกอบด้านล่าง)

น่าสังเกตว่า การจัดซื้อครั้งที่ 3 มีราคาสูงว่าครั้งแรกกับครั้งที่ 2 เครื่องละประมาณ 2 แสนบาท
เท่ากับมีส่วนต่างเกิดขึ้นเกือบ 100 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2551 กองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ได้สั่งซื้อ เครื่อง อัลฟ่า 6 จำนวน 4 เครื่อง จาก บริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด
(ของนางธัญจิรา สมบูรณ์ศิลป์) รวม 1,960,000 บาท หรือเครื่องละ 490,000 บาท เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวเดินทางไป ตรวจสอบที่ตั้งบริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เลขที่ 151/135 หมู่ 9 แขวงบางไผ่
เขตบางแค กรุงเทพฯ พบว่า อยู่ในหมู่บ้านราชพฤกษ์ ย่านพุทธมณฑล สาย 2 มีป้าย

เขียนข้อความเป็นบริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด แต่ภายในบ้านไม่ได้แสดงว่า
ขายเครื่องปรับอากาศแต่อย่างใด
--------------------------------
ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง-เปโตรกรุงเทพฯ ผู้ถือหุ้น 2 บริษัท -
เครือข่ายเดียวกัน โยงวัฒนา อัศวเหม?

บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2540 ประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้า
ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 151/135 หมู่ 9 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ
มีนายศิริพงษ์ บวรวัฒนะ และ นายวรวิทย์ บวรรัตนะ ถือหุ้นใหญ่ในช่วงก่อตั้ง

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 (ก่อนทำสัญญาจัดซื้อครั้งแรก) นายณธกร ภูชัชวนิชกุล
ถือหุ้นใหญ่ 29,750 หุ้น นายวรวิทย์ บวนรัตนะ 5,875 หุ้น นายชูเกียรติ ภูชัชวนิชกุล 24,275 หุ้น

นายคำนึง สุพรรณ์ 15,000 หุ้น นายเฉลิมพล กาญจนากร 15,000 หุ้น
นายชาญเดช ภูชัชวนิชกุล 10,000 หุ้น และนายสนิตย์ ลหายเจริญ 100 หุ้น

มีนายชูเกียรติ ภูชัชวนิชกุล เป็นกรรมการ

จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
เป็นผู้ขายกล้องวีดีโอกระดุม จำนวน 115 ชุด วงเงิน 6.7 ล้านบาท ให้ กองบัญชาการ
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขายกล้องตรวจจับรังสีความร้อน
ติดตั้งประกอบปืน M 16 ให้กรมการทหารช่าง จังหวัดราชบุรี วงเงิน 9 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 อีกด้วย

ส่วนบริษัท เปโตรกรุงเทพฯ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 18 ตุลาคม 2536 ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 580/1 ซอยรามคำแหง 39 แขวงวังทองหลาง
เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

เดิม บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ถือหุ้นใหญ่ ร่วมกับ นายดำรงค์ รัตนลีลาศ และ
นายอดุลย์ ฉายรัตน์ และนายสมศักดิ์ เอกเอื้อมณี

วันที่ 24 มีนาคม 2551 นางฉัตรแก้ว คชเสนี นางกชกรณ์ พิบูลย์ธรรมศักดิ์ ถือหุ้นคนละ 350, 000 หุ้น
นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ 250,000 หุ้น นายพิบูลยอัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ

นางสาวจันทวรัจฉร์ จันทรศารทูล นางศุภวรรณ รัชกิจประการ นางสาวรุ่งรัศมี โชคอนันต์ตระกูล
นายวิชัย แซ่โก คนละ 60,000 หุ้น และนางสรัญธร จันทรโชติ คนละ 50,000 หุ้น

มีนายพิทักษ์ รัชกิจประการ และนางส่าวภัคจิรา รัชกิจประการ เป็นกรรมการ

วันที่ 30 มีนาคม 2552 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ นางกชกรณ์ พิบูลย์ธรรมศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่
คนละ 350,000 หุ้น นายประทีป มนตรี 250,000 หุ้น ส่วนคนอื่นไม่เปลี่ยนแปลง

มี นายประทีป มนตรี เป็นกรรมการ

วันที่ 6 มิถุนายน 2552 (ก่อนทำสัญญากับกรมการปกครอง) นายประทีป มนตรี ถือหุ้นใหญ่ 700,000 หุ้น
นายชูเกียรติ ภูชัชวนิชกุล ถือ 300,000 หุ้น และ นายพิบูลยอัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ ถือหุ้น 300,000 หุ้น
รวม 1,300,000 หุ้น มีนายประทีป มนตรี เป็นกรรมการ

จาการตรวจสอบพบว่า หน่วยงานที่ บริษัท เปโตรกรุงเทพฯ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ในช่วงที่ผ่านมา
ได้แก่ โครงการจ้างเหมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบริเวณแหลมโพธิ์ทะเลสาบสงขลา ต.คูเต่า
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมกับ บริษัท เอส.ซี.เอส.ดีเวลลอปเม้นท์ วงเงิน 47.5 ล้านบาท (ปี2547)
ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

งานปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะเทศบาลเมืองชุมพรระยะที่2 วงเงิน 55.8 ล้านบาท (ปี 2548)
เทศบาลเมืองชุมพร

งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ของเทศบาลเมืองชุมพร วงเงิน 53.6 ล้านบาท (ปี 2549)
ก่อสร้างโรงเรียนอนุบาลในฝันเทศบาลนครหาดใหญ วงเงิน 38.4 ล้านบาท (ปี 2550)

ทั้งนี้ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง นั้นเคยบริจาคเงินให้พรรคราษฎร ขณะนายวัฒนา อัศวเหม
เป็นหัวหน้าพรรคและเคยเป็นผู้บริจาคเงินให้ประชาธิปัตย์เมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย

[eye in the sky]

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1266849087&grpid=&catid=02


วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 23:56:37 น.
มติชนออนไลน์

เปิดเครือข่าย บริษัท"AVIA SATCOM"บริษัทก๊วน พล.อ.อ.แห่ง ทอ.
ขาย"จีที 200" ทบ.ช๊อปกระจาย757เครื่อง

หลังจากที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง
ตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 แล้วพบว่า ไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบวัตถุระเบิดได้จริง
ทำให้ถูกเปรียบเปรยว่า แทบไม่ต่างอะไรจาก"ไม้ล้างป่าช้า" จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆเลิกซื้อจีที 200 และไปทำความเข้าใจกับบุคคลากร
ให้เลิกใช้เครื่องมือดังกล่าวนั้น

จากคำแถลงของ พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ระบุถึงการจัดซื้อ
เครื่องจีที 200 ของกองทัพบกว่า มีการจัดซื้อในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จำนวน 59 เครื่อง
สมัยนายสมัคร สุนทรเวช 107 เครื่อง สมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 44 เครื่อง และ
สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 547 เครื่อง รวมแล้ว 757 เครื่องโดยใช้งบประมาณจาก 3 ส่วน คือ
1.เงินบริจาค 2.เงินสนับสนุนจาก กอ.รมน. และ 3.งบประมาณ

โดยมีการจัดซื้อทั้งหมด 12 ครั้ง ครั้งแรกจัดซื้อ 2 เครื่อง ราคาเครื่องละ 9.5 แสนบาท
ครั้งที่สอง 24 เครื่อง ราคาเครื่องละ 9.5 แสนบาท พร้อมการ์ดจำนวน 10 ใบ หลังจากนั้น
จัดซื้ออีกล็อตใหญ่ 751 เครื่อง ราคาเครื่องละ 9 แสนบาท พร้อมการ์ด 18 ใบ

อย่างไรก็ตามจาการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ในการจัดซื้อเครื่องจีที 200 จำนวน 8 ครั้งแรก
รวม 466 เครื่อง เป็นเงินทั้งหมด 419.5 ล้านบาทนั้นมีรายละเอียดดังนี้

ครั้งที่ 1 ปลายเดือนกรกฎาคม 2550 จำนวน 2 เครื่อง ๆละ 950,000 บาท เป็นเงิน 1,900,000 บาท

ครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. 2551 จำนวน 2 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 1,800,000 บาท

ครั้งที่ 3 วันที่ 3 ก.ย. 2551 จำนวน 19 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 17,100,000 บาท

ครั้งที่ 4 วันที่ 16 ก.ย. 2551 จำนวน 18 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 16,200,000 บาท

ครั้งที่ 5 วันที่ 30 ก.ย. 2551 จำนวน 44 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 39,600,000 บาท

ครั้งที่ 6 วันที่ 27 ก.พ. 2552 จำนวน 222 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 199,800,000 บาท

ครั้งที่ 7 วันที่ 8 เม.ย. 2552 จำนวน 129 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 116,100,000 บาท

ครั้งที่ 8 วันที่ 28 เม.ย. 2552 จำนวน 30 เครื่อง ๆ ละ 900,000 บาท เป็นเงิน 27,000,000 บาท

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า การจัดซื้อ"ไม้ล้างป่าช้า"เป็นไปอย่างถี่ยิบโดยเฉพาะในปี 2552
แค่ปลายกุมภาพันธ์ถึงปลายเมษายนจัดซื้อถึง 381 เครื่อง ซึ่งการจัดทั้งหมด เป็นการจัดซื้อ
ผ่านบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด เพียงรายเดียว

บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด (AVIA SATCOM CO.,LTD.) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2535
ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มทุนอีก 4 ครั้ง

ล่าสุดวันที่ 5 มิถุนายน 2552 เพิ่มเป็น 250 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 174/68-71 หมู่ 9 ถนนวิภาวดี แขวงสีกัน
เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ มีนายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ถือหุ้นใหญ่ 2,399,999 หุ้น จากทั้งหมด 2,500,000 หุ้น

นายสุทธิวัฒน์มีบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านอุปกรณ์สื่อสาร เทคโนโลยี ซอฟแวร์ อีกอย่างน้อย 4 บริษัท
ได้แก่ บริษัท ลิบราเวย์ จำกัด , บริษัท แอโรว์เทคนิค เอวิเอชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เอวิเอ ซิสเต็ม จำกัด และ บริษัท เอวิเอ ซาบ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเพิ่งก่อตั้ง
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา (ให้บริการโครงข่าวสื่อสารและอุปกรณ์ซอฟแวร์)

หุ้นส่วนธุรกิจของนายสุทธิวัฒน์ คือ พล.อ.อภิชิต กานตรัตน์ อดีตผู้ทรงวุฒิพิเศษกองบัญชาการทหารสูงสุด
เรืออากาศเอก ขจรศักดิ์ วัฒนางกูร และกลุ่มบริษัท ซาบ จากประเทศสวีเดน ซึ่งตัวแทนจัดจำหน่าย
เครื่องบนกริฟเฟ่นให้กองทัพอากาศ

นอกจากนั้นพล.อ.อภิชิตยังเป็นกรรมการ บริษัท เอวิเอ ซาบ เทคโนโลยี จำกัดอีกแห่งหนึ่ง

บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ทำการค้ากับกองทัพมานาน ตั้งแต่ปี 2542 เคยเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์
วิทยุสื่อสารให้ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการทหารสูงสุด , กรมสื่อสารทหารอากาศ
กองทัพอากาศ , กรมการขนส่งทหารบก กองทัพบก นับสิบรายการ อาทิ เครื่องมือสื่อสารเพื่อใช้ราชการ
กองกำลังเฉพาะกิจ 976 ไทย/อีรัก วงเงิน 25.1 ล้านบาท , ชิ้นส่วนซ่อมเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ 47
วงเงิน 19.3 ล้านบาท , รถวิทยุในระบบควบคุมอากาศยานทางยุทธวิธี จำนวน 39.2 ล้านบาท ,
ซ่อมบำรุงเรดาร์แบบเคลื่อนที่แบบgiraffe 34.2 ล้านบาท , ซื้อระบบโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
(VOIP) จำนวน 5.2 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากขาย "จีที 200" ให้กองทัพบก เอกชนรายนี้ยังขายเครื่องมือชนิดเดียวกันให้หน่วยงานอื่น
อย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่ กรมศุลกากร จำนวน 6 เครื่อง เมื่อวันที่ 19 มิ ถุยายน 2552 ราคา 2,560,000 บาท
(เครื่องละ 426,666 บาท)และกรมราชองครักษ์ จำนวน 3 ชุด เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2552 ราคา 3,600,000 บาท
(ชุดละ 1,200,000 บาท)

จากเครือข่ายดังกล่าวจึงไม่แปลกที่กองทัพอากาศเป็นหน่วยงานแรกที่ใช้ เครื่องทีจี 200 มาตั้งแต่
ปี 2548 และอ้างว่า ใช้อย่างบประสิทธิภาพ โดยตัวแทนเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ ที่มาแถลงข่าว
ร่วมกับกองทัพบกระบุว่า มั่นใจเบื้องต้นว่า จีที 200 ทำงานได้จริงๆ ซึ่งในปีพ.ศ. 2548 ถึงปี 2549
กองทัพอากาศได้นำมาใช้งานในกองทัพอากาศดอนเมืองซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ยากต่อการทำงาน
ค้นหาสิ่งแปลกปลอมภายในท่าอากาศยานอย่างได้ผล

นอกจากนี้ทาง สน.สายไหม ยังได้ติดต่อขอนำเครื่องมือจีที 200 ไปใช้ในการตรวจหาอาวุธปืนของคนร้าย
ซึ่งชี้เป้าได้อย่างแม่นยำค้นพบหลักฐาน และการนำเครื่องจีที 200 ไปใช้ใน อ.รามัน จ.ยะลา
ในการตรวจค้นบ้านของหน่วย ฉก. ซึ่งพบบ้านต้องสงสัย 2 หลัง เครื่องมือชี้ไปที่ 1 ใน 2 บ้านต้องสงสัย
เมื่อเข้าไปตรวจค้นปรากฎว่าพบชายฉกรรจ์หลบซ่อนอยู่ในบ้าน 6 คน พร้อมอาวุธครบมือ ยอมรับว่า
ประสิทธิภาพของการใช้ จี ที 200 เพราะเห็นกับตาและใช้กับมือ

แต่วันนี้ผลการทดลองทางวิทยาศาตร์กับความรู้สึกของผู้ใช้กำลังสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

[Unknown]

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000027326

ผบ.ทบ.ระบุหากเลิกใช้ GT200 ต้องใช้เครื่องตัดสัญญาณมือถือแทน

25 กุมภาพันธ์ 2553 14:20 น.

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม
ประจำเดือนมีนาคม ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ชี้แจงถึงการใช้งานของ
เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด GT200 ว่าเป็นความต้องการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ยังมีความต้องการ
ใช้งานเครื่องต่อไป ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์พิเศษ ส่วนการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจของ
คณะกรรมการกระทรวงวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น
เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความพร้อมรับฟังข้อมูลก่อนที่จะ
พิจารณายุติการใช้งานของเครื่อง GT200ต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากมีการระงับการใช้งาน
คงจะต้องนำอุปกรณ์ตัดสัญญาณโทรศัพท์จำนวน 80 เครื่อง มาใช้งานก่อน
จนกว่าจะมีเครื่องมือใหม่ มาทดแทนเครื่อง GT200

[eye in the sky]

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267161558&grpid=03&catid=

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 12:19:09 น.
มติชนออนไลน์


"บิ๊กเอไอเอส" แฉถูกส่งสัญญาณรบกวนช่วงใกล้วันตัดสินคดี จนโดนลูกค้าโวย

นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด
(มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า จากที่วันนี้ (26 ก.พ.) จะมีการอ่านคำพิพากษาในคดี
ที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ณ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนสื่อมวลชน และผู้สนใจ
เข้าร่วมสังเกตการณ์บริเวณอย่างหนาแน่นและที่ผ่านมาเอไอเอสได้มีการเตรียมการขยายความสามารถ
ในการรองรับการใช้งานให้สามารถโทรได้พร้อมกันกว่า 70,000 ราย แล้ว

อย่างไรก็ตามพบว่าตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) จนถึงเช้าที่ผ่านมา เอไอเอสได้รับการร้องเรียน
จากลูกค้าเป็นจำนวนมากว่า บริเวณดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งหลังจากตรวจสอบทางเทคนิคพบว่า
เครือข่ายของเอไอเอสไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น หากแต่พบว่ามีการส่งสัญญาณรบกวนที่ไม่สามารถ
ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ส่งผลทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบเอไอเอสไม่สามารถใช้งานได้

ดังนั้น บริษัทฯ จึงร้องขอผ่านทางสื่อมวลชนไปยังผู้ที่ส่งสัญญาณรบกวน ได้โปรดกรุณาหยุด
การกระทำดังกล่าว เพราะทำให้ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นไม่สามารถใช้งานได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องมีการติดต่อสื่อสาร
เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

เวรละสิ ความมั่นคงของไทย
ต้องพึ่งการสื่อสารของ AIS

[eye in the sky]

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267164704&grpid=03&catid=

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 13:10:42 น.
มติชนออนไลน์

ศาลตัดสัญญาณโทรศัพท์ทุกระบบเปิดให้สื่อเข้าฟังพิจารณาคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.54 น .ขณะนี้ศาลฎีกาได้เปิดให้สื่อมวลชนและ
ผู้ที่สนใจขึ้นไปรับฟังการพิจารณาคดีบนห้องพิจารณาชั้น 4 โดยจะต้องมีการตรวจบัตรประจำตัว
และตรวจค้นกระเป๋าของผู้ที่จะเข้าไป โดยในส่วนของสื่อมวลชนนั้น ผู้ที่จะเข้าไปได้
ต้องมีการลงชื่อไว้กับเจ้าหน้าศาลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงชื่อจะไม่อนุญาตให้ขึ้นไป
ทั้งนี้บนบริเวณห้องพิจารณาคดี ได้มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ทุกระบบ
ทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้