Any Doc!!!!
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

3 posters

Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Sat Jan 02, 2010 2:56 pm

ในขณะที่คนไทยเกือบทั้งประเทศ ลุ้นผ่านสื่ออยู่ร่ำไปว่า

"เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ความจลาจลครั้งยิ่งใหญ่ทั้งประเทศ"

โดยเฉพาะความจลาจลครั้งนี้ที่จะเกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเคลื่อนทัพของฝ่ายสีแดง

ที่อาจนำไปสู่การปฏิวัติประเทศไทยครั้งสำคัญ

แต่ใครเล่าจะรับรู้เบื้องลึกว่า แท้จริงแล้วสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ เป็นการทำมาหากินร่วมกัน

โดยให้ฝ่ายหนึ่งยั่วยุ ยุแยงที่จะก่อให้เกิดการจลาจล

โยนลูกให้อีกฝ่ายหนึ่งสามารถประกาศ "พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร" หรือ "ภาวะฉุกเฉิน"

เพื่อหาทางเอางบของประเทศชาติออกมา แบ่งสรรปันส่วน

งบของประเทศชาติแทนที่จะนำไปใช้พัฒนาศักยภาพทั้งทางบุคลากรและทรัพยากรในประเทศ

กลับถูก"พวกเหลือบของแผ่นดิน"ดูดเอาไปกิน เอาไปใช้

ปล่อยให้ประเทศชาติเป็นหนี้ และให้คนในประเทศชาติเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

หากปล่อยไปอย่างนี้เรื่อยไป นอกจากคนที่นั่งติดตามข่าวจะสุขภาพจิตเสีย(ลุ้นทุกวินาที ว่ามันจะฆ่ากันมั้ยนะ)

ไม่นานประเทศชาติคงติดหนี้บานตะไท จนต้องขายประเทศกันกระมัง
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Sat Jan 02, 2010 3:14 pm

นอกจาก"พวกเหลือบของแผ่นดิน" จะดูดเงินของประเทศชาติไปไว้กินไว้ใช้แล้ว

ยังร่วมหัวจมท้ายในการร่วมกันทำลายสถาบันหลักต่างๆของประเทศ

โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันศาสนา(สำคัญที่สุดคือพระพุทธศาสนา)

เมื่อยังไม่สามารถทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรงได้ ก็ทำลายสถาบันที่เปรียบเสมือนตัวแทนของพระมหากษัตริย์

นั่นคือ สถาบันตุลาการ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าสถาบันตุลาการ เป็นสถาบันที่เชื่อถือไม่ได้

อีกทั้งยังต้องทำลายสถาบันที่ปกป้องสถาบันหลัก นั่นคือ สถาบันทหาร

เราจะเห็นได้ว่า สถาบันทหารในปัจจุบันเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คนเลวกลับอาศัยเครื่องแบบเป็นตัวทำลายสถาบัน

ที่สำคัญคือคนเลวๆหลายคนกลับมีอำนาจและคุมกำลังในจุดสำคัญ

และคนเลวๆพวกนี้ต่างทำลายและเหยียบย่ำนายทหารดีๆไม่ให้ผุดให้เกิด

นายทหารดีๆหลายคนที่อยู่ได้ เพียงเพื่ออุดมการณ์และรับผิดชอบในหน้าที่ในการเป็นทหารของตน

หลายคนบ้างก็ถูกเนรเทศออกนอกประเทศ หรือไม่ก็หายสาบสูญ

นี่ก็เกิดจากการที่คนเลวได้ขึ้นไปมีอำนาจทั้งสิ้น
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Sat Jan 02, 2010 3:45 pm

นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกเป็นเป้าโจมตีของพวกบ่อนทำลายประเทศชาติ

ยังมีสถาบันศาสนาโดยเฉพาะพระพุทธศาสนา อันเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธทั้งประเทศ

กระบวนการทำลายศาสนามีมานาน โดยเฉพาะการจ้างวานคนเข้าไปบวช หรือปลอมบวช

หลังจากนั้นก็ใช้ฉากหน้า โดยอาศัยการแต่งกายคล้ายพระ กระทำการชั่วช้าสามานย์ หรือกระทำผิดกฎหมาย

ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่เข้าใจสภาวะความเป็นจริงที่เกิดขึ้น กลับว่ากล่าว ต่อต้านและโจมตีพระสงฆ์

ก่อให้เกิดความสิ้นศรัทธาในเหล่าพระสงฆ์และพระพุทธศาสนา

เมื่อไร้ศรัทธา ไร้ศาสนา ไร้สิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจ ก็ก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคม

ผู้คนในสังคมหลายคนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก

สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร สุดท้ายก็กลายเป็นเครื่องมือในการทำลายประเทศชาติไปโดยปริยาย
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Tue Jan 05, 2010 1:37 pm

วันที่ 05 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6977 ข่าวสดรายวัน

ล็อกซเล่ย์ขู่ฟ้อง 3พันล้าน ชนมาร์ค-ลุยหวยตู้

ลั่นถ้า"ล้ม"เป็นเรื่องแน่ ยันออกงวดแรกต้นมีค. นายกฯยืนกรานให้โละ พท.ยุ"ประดิษฐ์"ไขก๊อก

ผู้บริหารล็อกซเล่ย์ฯ แถลงชน"มาร์ค" เมินประกาศิตล้ม "หวยออนไลน์"ยืนยันทำตามมติบอร์ดสำนักงานสลากฯเตรียมเดินหน้าออกขายงวดแรกต้นเดือนมี.ค.นี้ อ้างผลสำรวจโพลพบประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับพร้อมขู่ฟ้องเรียกค่าชดเชยนับพันล้านบาท ถ้าโครงการต้องล้มเลิกจริง เตือนนายกฯ ระวังทำนักลงทุนต่างชาติเผ่น ด้าน"มาร์ค"ยังยืนกรานไม่เห็นด้วยกับหวยตู้ เพราะถือเป็นอบายมุขรูปแบบใหม่มั่นใจได้ข้อยุติทางออกภายใน 30 วัน ยืนยันพร้อมจ่ายค่าชดเชยให้เอกชนคู่สัญญา พรรคฝ่ายค้านได้ทียุให้"ประดิษฐ์"ลาออกจากรมช.คลัง เพราะถูกนายกฯ หักหน้า

-"มาร์ค"ย้ำล้มหวยออนไลน์

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการยกเลิกหวยออนไลน์ว่า
เรื่องหวยออนไลน์และหวยบนดินมีความคิดเห็นเป็น 2 ทางมานานแล้ว ตนแสดงความคิดเห็นมาตลอดว่าไม่นิยมการแก้ปัญหาในลักษณะการทำของผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะถ้าวิธีการทำนั้นนำไปสู่การเพิ่มความรุนแรงของปัญหาอบายมุขมากขึ้น
ตนสอบถามความคืบหน้าปัญหาโครงการนี้มาตลอด แต่ในส่วนของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่งมีข้อยุติเมื่อไม่นานมานี้
ขณะนี้สิ่งที่ทำคือให้ไปดูว่าหนทางของการจะไม่ทำหวยออนไลน์ในขณะที่มีข้อผูกพันตามสัญญาจะมีวิธีอย่างไร

นายกฯ กล่าวอีกว่าเรื่องนี้มีทางออกในการชดเชยต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยภาพรวมคือรัฐบาลไม่ได้เสียหาย
ขณะเดียวกันสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาได้ พยายามดูช่องทางนี้อยู่ การที่มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องปกติ
เพราะมีการสำรวจความคิดเห็นเรื่องนี้มาหลายเวที ซึ่งก้ำกึ่งมากระหว่างคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ตนต้องการให้มีความชัดเจนในจุดยืนที่ไม่ต้องการเห็นการขยายตัวของอบายมุขเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ทักท้วงการขยายเวลาการชนไก่
ซึ่งก็ใช้เหตุผลเดียวกัน เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ค้าสลากไม่พอใจและขู่ว่าอาจจะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคน
เสื้อแดง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าใครคิดว่าได้รับผลกระทบก็สามารถแสดงความคิดเห็นแล้วแจ้งมายังรัฐบาลได้
รัฐบาลจะดูว่าสามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างไร

-ไม่เกี่ยวหวยใต้ดินลด-ไม่ลด

ส่วนที่มีการอ้างว่าหวยออนไลน์จะแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้ นายกฯกล่าวว่าปัญหาหวยใต้ดินเป็นปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย
และมีความพยายามจะแก้ปัญหามาตลอด ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการออกหวยบนดิน จากการติดตามงานวิจัยและสอบถามข้อมูลพบว่าหวยใต้ดินไม่เคยหมดไป ลดลงไม่มาก ถ้าเทียบกับจำนวนคนที่เข้ามาเล่นหวยบนดิน จึงไม่สามารถเทียบกันได้เลย
เหตุผลที่ลดไม่ได้คือ เงื่อนไขของหวยบนดินกับหวยใต้ดินไม่เหมือนกัน ทั้งในแง่เงื่อนไขการซื้อขายที่อาจมีเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัวติดเงินกันได้ เป็นต้น รวมถึงกรณีหวยออนไลน์ ถ้าทำจริงจะเป็นลักษณะการกินแบ่งไม่ใช่กินรวบ
เงื่อนไขจะไม่ดึงดูดเท่าหวยใต้ดิน ดังนั้นข้ออ้างที่ว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้ ไม่น่าจะอยู่บนความเป็นจริง

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่าถ้าคิดว่าการแก้ปัญหาหวยใต้ดินทำได้โดยให้คนเล่นหวยอย่างถูกกฎหมาย
ต้องถามว่าตรรกะนี้จะใช้กับอีกกี่เรื่อง จะใช้กับปัญหายาเสพติดหรือไม่ว่าไม่หมดเสียทีจึงต้องทำให้ถูกกฎหมาย
ปัญหาจะแก้ได้อย่างนั้นหรือ แปลว่าถ้าใครไม่เห็นด้วย สมมติมีคนเสนอว่าถ้าอย่างนั้นให้รัฐบาลขายยาเสพติด
แปลว่าคนคัดค้านเห็นแก่คนขายยาเสพติดในปัจจุบันหรือไม่ ถ้าเราจะใช้ตรรกะอย่างนี้ต้องใช้อย่างเสมอภาคกับทุกเรื่อง
ตนเห็นว่าสังคมยังไม่ได้มองว่ามันควรไปในเส้นทางนั้น แต่ปัญหาตอนนี้คือเรื่องของสัญญา โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาต้องไปดูว่าถ้าเลิกสัญญาหรือล้มโครงการ ผลที่ตามมาในเชิงข้อกฎหมายจะเป็นอย่างไร ช่องทางการดำเนินการรวมทั้งทางแก้ การเยียวยา และการชดเชยจะเป็นอย่างไรเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Tue Jan 05, 2010 1:40 pm

-พร้อมชดเชยค่าฉีกสัญญา

เมื่อถามว่าบริษัทเอกชนขู่จะฟ้องรัฐบาลถ้าล้มโครงการ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าเขายังไม่ได้พูดชัดเจนขนาดนั้น แต่ต้องดูในสัญญาว่าการยกเลิกเขียนไว้ว่าอย่างไร มีวิธีที่จะให้คู่สัญญาไม่เสียสิทธิ์ได้อย่างไร เราต้องดำเนินการตามเพราะเราไม่ได้ไปเอาเปรียบใคร
เมื่อถามว่าถ้ายกเลิกจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สัญญาเปิดโอกาสในเรื่องของนโยบายไว้แล้ว สามารถล้มสัญญาได้แต่ต้องมีการชดเชย ถ้าดูช่องทางต่างๆ คิดว่ายังมีทางเลือกพอสมควร ไม่ใช่เรื่องที่จะไปยกเลิกแล้วต้องฟ้องร้อง แล้วต้องจ่ายเป็นเงิน มันไม่ใช่ มันน่าจะมีวิธีการ สิ่งที่ต้องการให้ไปดูคือตรงนี้ว่าน่าจะมีหลายวิธีที่ดำเนินการได้

นายกฯกล่าวด้วยว่า ตนให้เวลาคณะทำงานไปศึกษาเป็นเวลา 1 เดือน น่าจะพอเพราะสัญญาไม่ได้สลับซับซ้อนมากนัก
และการประเมินผลกระทบก็ไม่น่ายากจนเกินไป อีกทั้งถ้าจะเจรจากับเอกชน กระบวนการน่าจะเริ่มหลังจากนั้นได้ ที่จริงแล้วเงื่อนเวลาในสัญญาเลยมา 3-4ปีแล้ว ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจยกเลิกตอนนี้ เรื่องนี้มีการเรียกร้องและถกเถียงกันอยู่ในส่วนของสำนักงานสลากฯซึ่งตนให้เขารายงานเข้ามาเป็นระยะ ล่าสุดเขาบอกว่าจะเดินหน้า ตนถามว่าดูเรื่องอื่นครบถ้วนแล้วหรือไม่ เขาบอกว่าเป็นการตัดสินใจของสำนักงานสลากฯแต่ในสัญญาก็แยกไว้ในเรื่องการดำเนินการของสำนักงานสลากฯกับในส่วนนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลเปลี่ยนมาหลายชุด นโยบายก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ในรัฐบาลชุดนี้ หลังจากให้เวลาคณะทำงานศึกษา 1 เดือนก็จะได้ข้อยุติได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วไม่ต้องการให้เดินหน้าโครงการนี้ต่อไปใช่หรือไม่
นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าทำเช่นนั้นได้และภาคเอกชนได้รับความเป็นธรรมก็อยากจะเดินไปทางนั้น

-เชื่อมีทางออกทุกฝ่ายพอใจ

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงการล้มหวยออนไลน์ว่า เรื่องนี้ต่อเนื่องมานานหลายปี เป็นเรื่องที่มีสัญญาข้อผูกพัน นายกฯจึงให้ไปตรวจสอบว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดความเสียหายจากสัญญาและข้อผูกพันต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับต่างประเทศ จึงตั้งคณะทำงานขึ้นมีนายเกียรติ สิทธีอมร ผู้แทนการค้าเป็นประธาน คาดว่าภายใน 2-3วันคงจะมีแนวทางการทำงานออกมาว่าจะเป็นอย่างไร ประเด็นสำคัญคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการขายสลากต่างๆ
ทุกคนห่วงใยอยู่แล้วว่าจะนำไปสู่การขยายการซื้อหรืออาจนำไปสู่ประเด็นที่ซับซ้อน ดังนั้นในภาพรวมไม่อยากให้มีการขยายหรือเพิ่มกิจกรรมประเภทนี้ ขณะเดียวกันกิจกรรมที่มีอยู่แล้วให้ดูแลให้รัดกุมเป็นไปตามกฎหมายถือเป็นนโยบายของนายกฯ ตั้งแต่แรก

ส่วนการประกาศของนายกฯสร้างความไม่พอใจให้ผู้ค้าสลากและขู่จะไปเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงขับไล่รัฐบาล นายปณิธานกล่าวว่า เรื่องนี้จะปรึกษาหารือกันเพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ โดยอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและสัญญาข้อตกลงต่างๆไม่ให้ผู้ที่อยู่ในสัญญาเสียหายขณะเดียวกันรัฐบาลก็รับฟังความคิดเห็นของสังคมและผู้ปกครองที่เป็นห่วงกิจกรรมประเภทนี้ ดังนั้น จึงต้องให้เกิดความสมดุลกัน คิดว่าภายใน 1เดือนจะมีคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ทุกคนพอใจ รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้บริษัทหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องได้รับความกระทบกระเทือน แต่ต้องดูน้ำหนักของสังคมที่สะท้อนเรื่องนี้ ต้องการให้กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคุมดูแลให้ดีขึ้นและเป็นไปตามกฎหมาย

-ปชป.งัดข้อมูลหนุนนายกฯ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุท รักษ์ โฆษกพรรคกล่าวว่าพรรคขอสนับสนุนแนวทางของนายอภิสิทธิ์ ในการทบทวนโครง การหวยออนไลน์ เพราะพรรคให้ความสำคัญกับการผลักดันประเทศให้เศรษฐกิจมีคุณภาพและให้สังคมรักษาคุณธรรมควบคู่กันไปด้วย รายได้จากการขยายระบบสลากกินแบ่งแบบเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ร้านสะดวกซื้อนั้น
จะเป็นรายได้จากการถ่ายเทค่าใช้จ่ายจากครัวเรือนเข้าสู่การบริโภคหวยออนไลน์ เพิ่มจากเดิม ซึ่งมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจน้อยกว่าผลกระทบทางสังคมอย่างน้อย 3 ด้าน คือ
1.การศึกษาวิจัยในหลายประเทศยืนยันว่าระบบหวยออนไลน์ทำให้จำนวนผู้เล่นโดยรวมเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนและครัวเรือนที่มีฐานะยากจน
2.เกิดภาวะหนี้สินทั้งในและนอกระบบเพิ่มขึ้น
3.มีผลกระทบในชุมชนเพราะระบบหวยออนไลน์ในร้านสะดวกซื้อจะมีผลกระทบต่ออัตราการออมเงินทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชนและส่งผลกระทบต่อระบบเงินออมในระบบเศรษฐกิจมหภาคด้วยจากการวิจัยพบว่าจะทำให้สัดส่วนเงินออมลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าส่วนที่หลายฝ่ายคาดหวังให้หวยออนไลน์แก้ไขปัญหาหวยใต้ดินและปัญหาสลากกินแบ่งเกินราคานั้น เรื่องนี้เป็นปัญหาจริงและรัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหานี้ ในเรื่องการควบคุมระบบการส่งต่อสัดส่วนสลากเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน ส่วนเรื่องหวยใต้ดินต้องใช้มาตรการปราบปราม ไม่ให้ผู้มีอิทธิพลมาแสวงหาประโยชน์โดยใช้ระบบเศรษฐกิจใต้ดินซึ่งเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหวยใต้ดิน

-"เทือก"ชี้รบ.ทำถูกต้องแล้ว

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางที่นายกฯวางกรอบเวลาเพื่อศึกษาเรื่องนี้ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง
กรอบเวลาศึกษาจะมุ่งเน้น 2 เรื่อง
1.การหาทางออกร่วมกันระหว่างคู่สัญญาคือระหว่างบริษัทเอกชน บริษัทร่วมทุนต่างประเทศ
กับรัฐบาลโดยสำนักงานสลากกินแบ่งฯ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบด้านกฎหมายและจะเสนอเป็นทางเลือกให้รัฐบาลใช้ตัดสินใจ
2.ผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยคือผู้ค้าที่ติดตั้งเครื่องไว้แล้ว 6,000เครื่อง และเตรียมติดตั้งอีกประมาณ 59,300 เครื่อง
บุคคลเหล่านี้เป็นนักลงทุนรายย่อยที่รัฐบาลตระหนักดีว่ามีภาวะผูกพันด้านการเงินจากการลงทุนเพื่อเตรียมจำหน่ายสลากส่วนนี้ ก็ต้องได้รับการดูแลเยียวยาไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจบนพื้นฐานของความสุจริตในการร่วมโครงการขณะที่แนวทางเรื่องนี้มีความแตกต่างกันในรัฐบาลก่อนหน้านี้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีประธานชมรมสลาก 3 ตัว 2 ตัวขู่ว่าหากรัฐบาลยกเลิกหวยออนไลน์ ผู้ค้าสลากจะไปร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นไม่แย่หรือ รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนและนายกฯไม่เคยชอบที่จะให้มีหวยออนไลน์เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้อาจจะทำก็ได้
หากกฎหมายบังคับให้ทำ

นายเกียรติ สิทธีอมร ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาหาทางยกเลิกหวยออนไลน์ กล่าวว่า วันที่ 7 ม.ค.จะแถลงข่าวแนวทางการทำงานที่นายกฯ มอบหมาย ขณะนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก หากมีข้อสงสัยให้ถามวันที่ 7 ม.ค.ส่วนการประชุมเพื่อหารือทางออกหวยออนไลน์นั้นจะไม่มีการตั้งเงื่อนไขการหารือเพื่อล้มหรือยกเลิกหวยออนไลน์แต่อย่างใด

-พท.เสี้ยม"ประดิษฐ์"ไขก๊อก

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคแถลงว่า แม้เหตุผลของนายกฯที่ระบุหวยออนไลน์ทำให้เกิดปัญหาสังคม กระทบกับเด็กและเยาวชนนั้นเป็นเหตุผลที่ดูดี แต่ควรพิจารณาผลกระทบให้รอบด้านเนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลมอบหมายให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลังไปดำเนินการเตรียมมาตรการต่างๆ ถึงขนาดระบุแล้วว่าจะออกงวดวันที่เท่าใด เอกชนก็เตรียมจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ไว้แล้ว ที่สำคัญนายกฯรับทราบการออกหวยออนไลน์มาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง การสั่งยกเลิกกะทันหันเช่นนี้แสดงถึงการขาดภาวะผู้นำและประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ก่อนที่นายกฯจะยกเลิกหวยออนไลน์ ขอให้พิจารณาการเติบโตของเจ้ามือหวยใต้ดินและปัญหาราคาสลากที่สูงถึงใบละ 120 บาทจนทำให้เงินที่รัฐบาลควรได้มาพัฒนาประเทศต้องตกไปอยู่กับเจ้ามือหวยไม่กี่คน รัฐบาลอย่าเอาเรื่องนี้มากลบเกลื่อนเรื่องทุจริต และอย่านำเยาวชนมาบังหน้า หากต้องการแก้ไขปัญหาเยาวชนจริงขอให้ดูแลปัญหายาเสพติด เด็กติดเกมเด็กแว้นมากกว่านี้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า รัฐบาลทำงานแบบชักเข้าชักออก ไม่มีจุดยืน เรื่องดังกล่าวมีแนวคิดจะยกเลิกมาตั้งแต่ช่วงต้นรัฐบาลจนกระทั่งนายประดิษฐ์ เสนอเข้ามาใหม่ ครม.จึงให้ดำเนินการอีกรอบมาถึงตอนนี้กลับออกข่าวว่าจะยุติ
หากรัฐบาลทำงานอย่างนี้คงหาเอกชนหรือผู้ลงทุนทำงานร่วมด้วยยากและหากตนเป็นนายประดิษฐ์ คงต้องลาออกจากรมช.คลัง
เพราะถูกหักหน้าและล้วงลูกอย่างมาก
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Tue Jan 05, 2010 1:46 pm

-บอร์ดกองสลากถกด่วน

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า
ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ด่วนเพื่อพิจารณา 2ประเด็น คือ ด้านกฎหมายที่สำนักงานสลากฯ ทำสัญญาร่วมกับบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) มาก่อนหน้าว่าหากดำเนินการตามนโยบายของนายกฯ
จะมีทางออกอย่างไรที่มีความเสี่ยงทางกฎหมายน้อยที่สุด รวมถึงต้องศึกษาผลกระทบทางสังคมเพิ่มเติม เข้าใจว่านายกฯ
น่าจะมีข้อมูลนอกเหนือจากการทำวิจัย ที่สำนักงานสลากฯเคยมอบหมายให้สวนดุสิตโพลดำเนินการไปแล้ว สำนักงานสลากฯ
จะขอข้อมูลจากนายกฯ และรอผลการศึกษาของคณะทำงานที่มีนายเกียรติ สิทธีอมร เป็นประธานมาพิจารณา หากพบว่ามีผลกระทบต่อสังคมกว้างขวางและการไม่ทำโครงการหวยออนไลน์มีผลดีกับสังคมมากกว่าการเสียค่าปรับ สำนักงานสลากฯ ก็ต้องยอมเสียค่าปรับให้เอกชน

"หากศึกษาผลกระทบทางสังคม แล้วผลเสียหายเกิดในวงกว้างจริง ก็จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินทอง
เพราะถ้าเสียเงินแล้วได้ผลดีกับสังคมก็ต้องยอม ซึ่งกองสลากก็มีเงินที่จะนำมาใช้ได้ส่วนหนึ่ง"นายสถิตย์ กล่าว

-ข้อมูลคนละชุดกับนายกฯ

นายสถิตย์ กล่าวว่า อำนาจการเดินหน้าหวยออนไลน์ตามกฎหมายเป็นของคณะกรรมการ แต่เรื่องนี้คาบเกี่ยวกับอำนาจของครม. เนื่องจากในการดำเนินการครั้งแรกเกิดจากมติครม.ต่อมาเมื่อยกเลิกก็ด้วยมติครม. มาครั้งนี้สำนักงานสลากฯเตรียมเสนอกลับไปครม.ก็เพียงเพื่อทราบ แต่เมื่อนายกฯมีนโยบายที่ชัดเจนลงมา และเป็นนโยบายที่ถูกกฎหมาย สมเหตุสมผลซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของนายกฯ สำนักงานสลากฯ ก็ต้องพิจารณาและหากคณะกรรมการมีความเห็นเป็นอย่างอื่น ก็คงต้องถอนตัวเองออกไป

นายสถิตย์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยเปิดโอกาสให้สำนักงานสลากฯเข้าพบเพื่อรายงานการศึกษาผลกระทบทางสังคม ดังนั้น เมื่อนายกฯมีข้อมูลมากกว่าสำนักงานสลากฯ จึงจะขอรับฟังเพื่อพิจารณาต่อไป รวมถึงมาตรการอื่นๆเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาต่อไปด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯ ออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการแทรกแซงทางการเมืองต่อการทำงานของภาครัฐแต่อย่างใด ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับม็อบต่อจากนี้ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะถือเป็นเรื่องการเมือง

ด้านน.ส.สุภา ปิยะจิตติ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่าสัญญาที่สำนักงานสลากฯ ทำร่วมกับบริษัทเอกชน เป็นการจัดหาโดยระเบียบพัสดุสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ต้องพิจารณารายละเอียดในสัญญาอีกครั้งว่าเปิดช่องให้สำนักงานสลากฯ ยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ ทั้งนี้รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากการบอกเลิกสัญญาอาจทำให้สำนักงานสลากฯ
ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนจะเสียหายโดยไร้ประโยชน์ไม่ได้

-นักวิชาการหวยค้านยกเลิก

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ผอ.โครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า การประกาศของนายกฯ
เป็นการตัดสินใจผิดพลาดและจะทำให้คะแนนเสียงทางการเมืองตกไปเป็นของฝ่ายค้านมากกว่าเพราะประชาชนจะเห็นว่าการบริหารงานของนายกฯ ไม่มีเหตุผลและหลักการชัดเจน เหตุผลที่นายกฯ กล่าวอ้างว่าการมีหวยออนไลน์ทำให้เยาวชนเล่นหวยมากขึ้น
และไม่ได้แก้ปัญหาหวยใต้ดินและลอตเตอรี่แพง ไม่เป็นความจริง พิจารณาจากข้อมูลการจำหน่ายหวยบนดินที่มีในสมัยรัฐบาลทักษิณ สะท้อนชัดเจนว่าราคาสลากฯ ในช่วงดังกล่าวปรับลดลงอย่างมากอีกทั้งหวยใต้ดินที่มีเงินหมุนเวียนสูงประมาณ 3 แสนล้านบาทนั้นมีวงเงินลดลงแม้จะไม่หมดไปก็ตาม ส่วนกรณีการมอมเมาเยาวชน ข้อมูลที่นายกฯได้มาอาจจะไม่สะท้อนภาพที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากเยาวชนส่วนใหญ่ไม่นิยมเสี่ยงโชคที่ใช้เวลานาน เช่น หวยใต้ดิน แต่ชอบการพนันที่รู้ผลวันต่อวันมากกว่า ดังนั้นหากรัฐบาลจะแก้ปัญหาการพนันในหมู่เยาวชน น่าจะไปแก้ปัญหาเรื่องพนันบอลที่ระบาดอยู่มากกว่า

นายสังศิตกล่าวว่า การตัดสินใจในเชิงนโยบายในการไม่เดินหน้าหวยออนไลน์นั้นจะมีกลุ่มบุคคลได้รับประโยชน์อยู่ 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเจ้ามือหวยใต้ดินที่เดิมเคยมีกำไรจากธุรกิจนี้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี กลุ่มบุคคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เป็นฐานหัวคะแนนที่สำคัญ และกลุ่มยี่ปั๊วสลากที่เป็นผู้กำหนดราคาสลากและได้ประโยชน์จากการขายสลากเกินราคา อยู่ประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี

-สมาคมตาบอดเชียร์ให้ล้ม

นายต่อพงษ์ เสลานนท์ อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมความกล้าหาญของนายกฯ ซึ่งองค์กรคนพิการเคลื่อนไหวต่อต้านเรื่องนี้มานาน เพราะเห็นว่าการออกหวยออนไลน์ไม่มีหลักประกันว่าจะแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้ เพราะปัญหาสลากเกินราคามีต้นเหตุจากพ่อค้าคนกลาง ดังนั้นการแก้ปัญหานี้รัฐต้องยกเครื่องระบบการจัดสรรสลากไม่ให้นายทุนใหญ่ไม่กี่รายถือโควตาจำนวนมาก นอกจากนี้หากมีหวยตู้จะทำให้คนพิการกว่าหมื่นคนที่ขายลอตเตอรี่ในปัจจุบันตกงานทันที
สำหรับสัญญาที่ทำกับเอกชนไว้ รัฐหาทางออกด้วยการนำตู้ที่เอกชนทำเอาไว้มาใช้ประโยชน์ทางอื่น เช่นขายตั๋วรถไฟ รถเมล์ รถแท็กซี่ โดยให้โอกาสเอกชนรายเดิมจัดหาส่วนค่าชดเชยที่ต้องจ่ายกับเอกชนนั้น รัฐสามารถออกสลากพิเศษขึ้นมาเพื่อนำไปจ่ายได้
เพราะที่ผ่านมารัฐเคยออกสลากเพื่อนำไปใช้ในกิจการของประเทศมาแล้วหลายครั้ง

ส่วนเหตุผลที่ว่าหากไม่มีหวยออนไลน์จะทำให้หวยใต้ดินเติบโต นายต่อพงษ์กล่าวว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐแก้ปัญหาหวยใต้ดินแบบลูบหน้าปะจมูก เจ้าหน้าที่รู้ดีว่ามีการขายหวยใต้ดินกันที่ไหนแต่ไม่จัดการ ต้องยอมรับว่าหวยใต้ดินไม่มีวันหมดไปและไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้นรัฐควรให้เจ้ามือหวยใต้ดินมาขึ้นทะเบียนจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเก็บค่าใบอนุญาตเดือนละ 5 แสนหรือ 1 ล้านบาทต่อปี ถ้าทั้งประเทศมี 1พันราย รัฐจะมีรายได้เข้าคลังปีละ 1 พันล้านบาท

-บ.ล็อกซเล่ย์ฯเมิน"มาร์ค"

เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ห้องประชุมชั้น 18 อาคารล็อกซเล่ย์ นายตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวกรณีนายกฯเตรียมยกเลิกโครงการสลากกินแบ่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือหวยออนไลน์ ว่า บริษัทล็อกซเล่ย์ฯ ไม่ได้เป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทาน และหวยออนไลน์ไม่ใช่สัมปทาน เพราะเจ้าของแท้จริงของสลากออนไลน์นั้น ยังคงเป็นสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บริษัท ล็อกซเล่ย์ฯเป็นเพียงคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง เราเป็นเพียงผู้รับจ้างบริการเท่านั้น มีหน้าที่ดำเนินการติดตั้งระบบทางเทคนิคการออกหวยออนไลน์ ตามที่สำนักงานสลากฯ สั่งให้ติดตั้ง เราไม่ใช่เจ้าของสัมปทานแต่เป็นผู้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างบริการ

นายตรีจักรกล่าวว่าทางบริษัท ล็อกซเล่ยฯ จะยึดเอกสารคำสั่งสุดท้ายที่ทางสำนักงานสลากฯสั่งการเท่านั้นคือให้เราเตรียมการดำเนินการขายสลากออนไลน์แบบการกุศลภายใน 90 วัน นับตั้งแต่มีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2552 ดังนั้น ถึงวันนี้แม้ว่านายกฯจะออกมาพูด หรือใครต่อใครออกมาพูด อาจเป็นแค่เพียงแค่คำปรารภ เพราะตอนนี้เรายังไม่มีเอกสารคำสั่งเป็นอย่างอื่นจากสำนักงานสลากฯ ดังนั้นเราไม่สามารถทำเป็นอย่างอื่นได้เกินไปกว่าคำสั่งของสำนักงานสลากฯฉบับล่าสุด หากเราไม่เตรียมการอาจผิดต่อสัญญา ดังนั้นเราจะทำตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง

-ลุยออกงวดแรกต้นมี.ค.นี้

"หลังจากที่ทำสัญญาเมื่อเดือน 29 ก.ค. 2548 ตามกำหนดเดิมเราต้องเริ่มพิมพ์สลากออนไลน์ภายใน 180 วัน แต่เกิดปัญหาขึ้นภายในกองสลากเอง จึงเลื่อนเรื่อยมาจนถึงวันนี้ กระทั่งบอร์ดบริหารของกองสลากมีมติให้เราเตรียมการออกสลากหวยออนไลน์
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.52 จากมติวันนั้นเรามีเวลาดำเนินการ 90 วัน ซึ่งเราจะเริ่มพิมพ์สลากงวดแรกเพื่อออกจำหน่ายได้ในช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้"นายตรีจักรกล่าว

นายตรีจักรกล่าวต่อว่า ส่วนสัญญาที่เราได้รับนั้นจะเริ่มนับจากวันแรกที่เราเริ่มจำหน่ายสลาก ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปีต่อสัญญาได้ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี รวมแล้วเราจะมีสัญญาระยะยาวเกือบ 8 ปี สั้นสุด 5 ปี ซึ่งจุดคุ้มทุนอยู่ภายในระยะเวลา 4-5 ปี
แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจุดคุ้มทุนจะอยู่ในช่วงปีไหน เพราะสำนักงานสลากฯเลื่อนการจำหน่ายมานานมาก แต่เราลงทุนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากต้องยกเลิกจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่ นายตรีจักรกล่าวว่า เรามีผู้ร่วมทุนจากอเมริกาครึ่งต่อครึ่ง อัตราส่วนร่วมทุน 51 ต่อ 49 ซึ่งตามหลักนิสัยคนไทยถ้าไม่จำเป็นแล้วเราไม่อยากฟ้องร้องใครให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เพราะจะทำให้เสียเวลา

-ฮึ่มฟ้องค่าชดเชยหลายพันล.

"แต่บริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ เป็นบริษัทมหาชนที่ร่วมทุน มีผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติเรื่องนี้เขาไม่เข้าใจ เพราะหากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามสัญญาก็ถือว่าไม่ให้เกียรติพวกเขา เพราะเขาเชื่อว่ากองสลากก็คือส่วนหนึ่งของรัฐบาล ดังนั้นเขาคงยอมรับไม่ได้กับเรื่องนี้
และหากเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมคงต้องฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินชดเชยที่เกิดจากความเสียหายดังกล่าว ในส่วนของล็อกซเล่ย์หากจะดำเนินการฟ้องร้องจริงเราต้องศึกษาประเด็นให้ชัดเจนอีกครั้ง" นายตรีจักร กล่าวและว่าส่วนตัวเงินที่จะฟ้องร้องนั้นต้องแยกเป็นหลายส่วน เฉพาะเงินสดที่ลงทุนไปกับเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ กว่า 2,000 ล้านบาทและยังมีผู้ถือหุ้นอีกจำนวนมากที่ลงทุนไปแล้วอีกมากมาย รวมๆแล้วหลายพันล้านบาท ที่สำคัญความเสียหายที่ไม่อาจมองข้ามไป คือมีประชาชนที่สมัครเป็นตัวแทนขาย มีมากหลายพันคนซึ่งเขาได้ลงทุนเช่าตึกทำสำนักงานไปแล้ว หากเป็นอย่างนี้เขาต้องได้รับความเดือดร้อนแน่นอนรัฐบาลต้องเห็นใจคนกลุ่มนี้ด้วย

สำหรับกรณีที่รัฐจะยกเลิกสัญญาได้นั้นมีเพียง 3 ประการ คือ
1.ล็อกซเล่ย์ฯ ดำเนินการผิดสัญญาแต่เรื่องนี้เราให้ความสำคัญมาก เพราะเราไม่อยากทำอะไรที่ผิดสัญญากับรัฐ
2.หากเป็นนโยบายของรัฐและต้องยกเลิกสัญญา แต่สุดท้ายรัฐต้องจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหายและรัฐต้องบอกยกเลิกสัญญาเลิกจ้างก่อนล่วงหน้า 1 ปีและต้องจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ปี จากรายได้เฉลี่ย ซึ่งรายได้เฉลี่ยที่คำนวณอยู่ที่ประมาณปีละ 1,800 ล้านบาท
3.คือฟ้องร้องต่อศาลปกครองและศาลปกครองมีคำสั่งให้ยกเลิกสัญญาซึ่งเรื่องนี้ศาลปกครองพิจารณาไม่รับ พิพากษาไปแล้วจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีก

-อ้างโพลส่วนใหญ่ยอมรับ

นายตรีจักรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกฯ ตั้งนายเกียรติ สิทธีอมร มาเป็นประธานคณะกรรมการเพื่อไปดูข้อกฎหมาย และเจรจาทางเลือกที่จะไม่ต้องทำหวยออนไลน์ ภายใน 30 วันนั้น ขณะนี้เราก็รออยู่ และพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา เมื่อถามว่าหากบอร์ดสำนักงานสลากฯ มีการเปลี่ยนมติ จะดำเนินการอย่างไร
นายตรีจักรกล่าวว่า ขอให้เกิดขึ้นจริงก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร หากเป็นจริงค่อยหารือกันอีกครั้ง

เมื่อถามต่อว่าประเมินหรือไม่ว่า สาเหตุเรื่องนี้เป็นประเด็นทางสังคมหรือประเด็นทางการเมืองจึงเป็นเหตุให้นายกฯ ยกเลิกการออกสลากหวยออนไลน์ นายตรีจักรกล่าวว่าถ้าพิจารณาตั้งแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา บริหารประเทศ ตนจำได้ว่านายอภิสิทธิ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้มีสัญญากันอยู่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ร่วมถึงสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งก็ยืนยันว่า การออกหวยออนไลน์ถูกต้อง สำนักงานสลากฯมีสิทธิดำเนินการได้ เพราะไม่ใช่กรณีเดียวกับสลากบนดินและสัญญาของเรากับสำนักงานสลากฯ ก็ถูกต้อง ส่วนเรื่องประเด็นทางสังคมเข้าใจว่า ทางสำนักงานสลากฯ ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนซึ่งผลออกมาพบว่าส่วนใหญ่ให้การยอมรับเรื่องสลากออนไลน์และในอดีตเราจะพบว่าคนที่เล่นหวยเถื่อนหรือหวยใต้ดิน เมื่อถูกรางวัลก็จะถูกโกง หรือถูกมากๆ อาจจะจ่ายเพียงครึ่งเดียว สุดท้ายจะไปฟ้องร้องก็เรียกค่าเสียหายก็ไม่ได้ เพราะหวยใต้ดินเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือแม้แต่สลากกินแบ่งรัฐบาลเองที่ราคาจริงอยู่ที่ 80 บาท แต่ต้องซื้อกันถึงราคา 150 บาท สิ่งเหล่านี้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอด

-แจกแจงข้อดีหวยออนไลน์

"ที่ผ่านมามีการสำรวจในยุคที่มีหวยบนดิน พบว่าหวยใต้ดินลดลง แม้แต่สลากยังราคาถูกลงถึงใบละ 75 บาท ดังนั้นเราต้องมองสังคมโดยรวมว่าหากมีหวยออนไลน์แล้ว สังคมจะได้หรือจะเสียเพราะคนจนที่มาเล่นหวยออนไลน์นั้น ไม่มีโอกาสไปเล่นกอล์ฟ
หรือไปเล่นหุ้นในตลาดหลัก ทรัพย์ เพียงแต่เขาพอจะเจียดเงินเล็กน้อยพอจะซื้อสลากได้ เผื่อถูกรางวัลเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น อีกทั้งสลากออนไลน์มีระเบียบการจำหน่ายชัดเจน เราไม่ใช่ตู้เอทีเอ็มที่ใครต่อใครจะกดได้ เพราะต้องผ่านผู้ค้าและยืนยันว่าจะไม่มีการขายสลากให้เด็กต่ำกว่าอายุ 18 แน่นอน อีกทั้งหากเรามองภาพรวมทุกวันนี้คนก็ยังซื้อหวยใต้ดินอยู่ เราเอาเงินไปจุนเจือกับพวกมาเฟียมามากแล้ว ที่ผ่านมาประเทศชาติไม่ได้อะไรเลยจากหวยใต้ดินแม้แต่ภาษีก็ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ดังนั้นยืนยันว่าเราไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายแต่เราหาทางเลือกหรือเพิ่มสิ่งที่ถูกกฎหมายให้กับประชาชน" นายตรีจักรกล่าว

ส่วนที่รัฐบาลมีแนวโน้มพร้อมจะจ่ายชดเชยความเสียหายให้ นายตรีจักรกล่าวว่าหากพิจารณาจะพบว่าเงินที่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้นั้น เป็นเงินภาษีประชาชน ไม่ใช่เงินของพรรคการเมือง หากเราต้องรับ เราก็ไม่อยากได้เงินภาษีของประชาชน แต่อยากให้รัฐบาลพิจารณาต่อไปอีกหากไม่มีสลากออนไลน์ สลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังอยู่ หวยใต้ดินก็ยังอยู่ แต่หากมีสลากออนไลน์เชื่อว่าจะเป็นชัยชนะของประชาชนเพราะที่ผ่านมาประเทศเราถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบมานาน หากต้องการลงทุนจริงๆ สู้มาลงทุกกับรัฐจะดีกว่า เพราะสุดท้ายประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน

-หวั่นนักลงทุนต่างชาติเผ่น

เมื่อถามว่ามีเรื่องการเมืองระหว่างตระกูลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายตรีจักรกล่าวว่า กว่า 30 ปี ที่ตนทำงานมาบริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ
ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่เคยเลือกข้างทางการเมืองใดทั้งสิ้นเพราะหากเลือกข้างใดข้างหนึ่งคงอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้

นายตรีจักรกล่าวว่า ที่ผ่านมาเราติดตั้งตู้ออกสลากออนไลน์ไปแล้ว 6 พันกว่าจุด ปัจจุบันเหลือเพียง 5 พันกว่าจุด เพราะผู้ค้าบางรายรอไม่ไหว เนื่องจากความไม่แน่นอนของสำนักงานสลากฯและรัฐบาล อีกทั้งเขาต้องแบกภาระค่าเช่าตึกสำนักงานเป็นจำนวนมาก
ซึ่งอนาคตบุคคลเหล่านี้คงดำเนินการฟ้องร้องสำนักงานสลากฯ ภายหลัง แต่ผู้ถือหุ้นจากทางอเมริกาคงไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ
เรื่องค่าความเสียหายนั้น เบื้องต้นที่ลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านแต่หากเรียกร้องการขาดผลประโยชน์เนื่องมาจากรัฐผิดสัญญาค่าเสียหายน่าจะอีกหลายพันล้านบาท ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ติดตามข่าวมาตลอด
เมื่อครั้งที่นายกฯเดินทางไปอเมริกาก็เคยไปประชุมร่วมพูดคุยกับนักลงทุนเหล่านั้น แต่หากไทยไม่ให้เกียรติกับเรื่องนี้
ตนหวั่นใจแทนนักลงทุนว่าจะเข้ามาลงทุนในไทยต่อหรือไม่
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Tue Jan 05, 2010 2:29 pm

นี่คือการลักทรัพย์ด้วยกลอุบาย

นักการเมืองกินกันถ้วนหน้า หลอกเอาเงินค่านายหน้า แล้วก็ถอนทุนคืน

ปล้นเบี้ยใบ้รายทางทุกระดับชั้น เก็บกวาดไม่ให้เหลือ ก่อนที่จะละลายประเทศ

ล้มประเทศชาติไม่พอ ยังต้องทำให้ละลายให้ไม่เหลือซาก

ล้มประเทศชาติยังพอที่จะลุกได้ แต่ละลายประเทศชาติจะเอาที่ไหนมาลุก


ล้มประเทศชาติ ก็เหมือนตอนเป็นหนี้ IMF ยังลุกขึ้นมาได้

แต่ละลายประเทศชาติ ให้เป็นหนี้กันทุกระดับชัั้น

ขอถามว่า หากไม่ใช่การรับแผนทำลายประเทศมาจากต่างชาติ

คนไทย อาศัยบนผืนแผ่นดินไทย รักและเติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทย อยู่ดีๆจะมาคิดทำลายประเทศได้เช่นนี้หรือ

หลอกชาวบ้านได้ แต่ไม่ใช่ที่นี่นะจ๊ะ

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_razz
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 13, 2010 10:51 am

นที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:52:36 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

รับเหมาตีปีกโครงการใหญ่เข้าคิวประมูลปีนี้ 5 แสนล.บิ๊กแบรนด์ตีตั๋วจองล่วงหน้า

คมนาคม เทกระจาดประมูลบิ๊กโปรเจ็กต์ปี53 เผยงานใหญ่รอเข้าคิวประมูลกว่า 5 แสนล้าน ทั้งรถไฟฟ้า 3 สาย 3 สี ระบบราง ร.ฟ.ท. โครงการไทยเข้มแข็ง ถนนปลอดฝุ่น ทางด่วน ถนนเงินกู้ 4 เลน 7 สาย ท่าเรือปากบารา สะพานนนทบุรี 1 ฯลฯ บิ๊กแบรนด์ "ช.การช่าง-อิตาเลียนไทย-ซิโน-ไทย" ตีตั๋วจองล่วงหน้า !!

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปี 2553 กระทรวงคมนาคมมีแผนงานเตรียมประมูลมากเป็นพิเศษตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์ทั้งโครงการใช้งบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้ม แข็ง 2555 หรือ SP2 โครงการเงินกู้ และโครงการใหม่จากงบประมาณประจำปี 2553 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท (ดูตารางประกอบ)

@ รถไฟฟ้า 3 สาย 1.82 แสนล้าน

ตัวอย่าง เมกะโปรเจ็กต์ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่ารวม 182,118 ล้านบาท ได้แก่ สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) วงเงิน 65,148 ล้านบาท สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) วงเงิน 52,257 ล้านบาท และสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงิน 28,111 ล้านบาท และหมอชิต-สะพานใหม่ วงเงิน 36,602 ล้านบาท
ล่าสุดการรถไฟฟ้าขนส่งมวล ชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมออกประกาศประกวดราคาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินระหว่าง 20-28 มกราคมนี้ และให้ยื่นซองราคา 29 เมษายน โดยแบ่งงาน 5 สัญญา คือ 1-2 งานก่อสร้างใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามไชย, ช่วงสนามไชย-ท่าพระ 3.งานโครงสร้างยกระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ จะมีส่วนก่อสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 11 กิโลเมตรด้วย 4.งานโครงสร้างยกระดับช่วงท่าพระ-หลักสอง รวมศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถที่หลักสอง และ 5.งานวางราง

สายสีเขียวจะ ตามมาเร็ว ๆ นี้ รฟม.กำลังออกประกาศ พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน บอร์ด รฟม.จะประชุมวันที่ 22 มกราคมนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าและปรับราคาก่อสร้างใหม่ สายสีแดง การรถไฟฯจะประกาศขายแบบเดือนมีนาคมนี้ แบ่ง 3 สัญญา มี 1.งานโยธาและสถานีกลางบางซื่อ 25,200 ล้านบาท 2.งานโยธาจากสถานีบางซื่อ-รังสิต 18,200 ล้านบาท 3.งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้า 26,800 ล้านบาท

@ ยกเครื่องการรถไฟฯ 1.53 แสนล้าน

แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า ยังมีงานระบบรางของการรถไฟฯผ่านการใช้งบฯอัดฉีดแผนการยกเครื่องการรถไฟฯ 5 ปี (2553-2557) วงเงิน 153,053 ล้านบาท ตามนโยบายของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเมื่อ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังจัดลำดับความสำคัญโครงการ
กรอบแผนงานประกอบด้วย งานโยธา 51,124 ล้านบาท มีปรับปรุงทางระยะที่ 5 วงเงิน 8,508 ล้านบาท ปรับปรุงทางระยะที่ 6 วงเงิน 6,779 ล้านบาท ปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 23,670 ล้านบาท ปรับปรุงสะพาน 12,167 ล้านบาท งานอาณัติสัญญาณ 19,014 ล้านบาท มีโครงการไฟสี 11,358 ล้านบาท ติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม 2,200 ล้านบาท ติดตั้งเครื่องกั้นถนน 5,456 ล้านบาท

งานรถจักรและล้อเลื่อน 16,803 ล้านบาท มีการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 13 คัน (20 ตัน/เพลา) 2,145 ล้านบาท รถโดยสารรูปแบบชุด 6 ขบวน 4,736 ล้านบาท รถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE 50 คัน 6,562 ล้านบาท ยกเครื่องรถจักร 56 คัน 3,360 ล้านบาท

โครงการรถไฟทางคู่ 5 สาย 767 กิโลเมตร 66,110 ล้านบาท มีสายลพบุรี-ปากน้ำโพ 7,860 ล้านบาท สายมาบกะเบา-นครราชสีมา 11,640 ล้านบาท สายนครราชสีมา-ขอนแก่น 13,010 ล้านบาท สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน 16,600 ล้านบาท สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 17,000 ล้านบาท

"โครงการที่พร้อมประมูลก่อนมีจัดซื้อหัวรถจักร ปรับปรุงทางระยะที่ 5 และระยะที่ 6 ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ 586 กิโลเมตร เนื้องาน เช่น เปลี่ยนรางให้รับน้ำหนักขนาด 100 ปอนด์ เปลี่ยนไม้หมอน เป็นต้น"

@ สนามบิน-ทางด่วน-ท่าเรือจ่อคิว

แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารผู้โดยสารในประเทศทางด้านซ้าย วงเงิน 9,133 ล้านบาท พื้นที่ 80,000 ตารางเมตร โครงการสนามบินภูเก็ต 5,791 ล้านบาท โครงการเช่ารถเมล์ NGV จำนวน 4,000 คัน วงเงินกว่า 63,000 ล้านบาทของ ขสมก. อยู่ระหว่างตรวจสอบร่างทีโออาร์ การกำหนดราคากลาง คาดว่าจะเริ่มประกาศทีโออาร์ได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์หลัง ครม.อนุมัติแล้ว

ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำลังผลักดันทางด่วนสายใหม่ "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก" 17 กิโลเมตร 26,762 ล้านบาท ด้านกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) มีโครงการท่าเรือปากบารา 8,633 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการใช้งบฯไทยเข้มแข็งปี 2553 ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ทั้ง 2 หน่วยงานมีเม็ดเงินลงทุนรวม 30,647 ล้านบาท ยังไม่รวมงบประมาณประจำปี 2553 ที่กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรร 76,933 ล้านบาท

@ ทางหลวง-ทางหลวงชนบทงบฯบวม

นาย วีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ปี 2553 นี้ ทล.มีงบฯไทยเข้มแข็ง 11,128 ล้านบาท อาทิ งานประสิทธิภาพทางหลวง บูรณะทางสายหลัก ซึ่งได้เปิดประมูลไปแล้วเมื่อตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา คาดว่าภายในเดือนมกราคมนี้จะเซ็นสัญญาก่อสร้างได้หมด

งานประมูลยังรวม ถึง ทล.ได้เงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) 10,290 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร 7 สาย ระยะทางรวม 394 กิโลเมตร ได้แก่ สายพิษณุโลก-หล่มสัก สาย อ.สีคิ้ว-อ.หนองบัวโคก สาย อ.นางรอง-อ.ปราสาท สาย อ.สัตหีบ-อ.พนมสารคาม สาย อ.พนมสารคาม-สระแก้ว สายพังงา-กระบี่ตอน 3 และสาย อ.ระโนด-อ.สทิงพระ ทั้งหมดจะเริ่มประมูลกลางปีนี้ โดยกรมตัดแบ่งงานก่อสร้างเป็น 17 สัญญา สัญญาละ 500-800 ล้านบาท เพื่อให้งานก่อสร้างทำได้เร็วขึ้น

ส่วนงบประมาณ ปี 2553 ของ ทล.ปีนี้ได้น้อยลง เพราะส่วนใหญ่ไปอยู่ในงบฯไทยเข้มแข็ง เหลือกว่า 26,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงบฯบำรุงทาง 10,006 ล้านบาท คาดว่าแบ่งการประมูลเป็น 100 สัญญา

นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ขณะนี้ ทช.รองบฯไทยเข้มแข็งรอบที่ 2 เพื่อลงทุนโครงการถนนปลอดฝุ่น 4,100 กิโลเมตร วงเงิน 19,519 ล้านบาท สำหรับใช้ในปี 2553-2554 หากผ่านสภาจะเริ่มประมูลได้ในเดือนมีนาคมนี้

" มีอีก 2 โครงการใหญ่ คือ สะพานนนทบุรี 1 วงเงิน 3,900 ล้านบาท รอเซ็นสัญญาเงินกู้จากองค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า อีกโครงการเป็นถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์-ถนนกาญจนาภิเษก (แนวตะวันออก-ตะวันออก) อยู่ในงบฯไทยเข้มแข็ง วงเงิน 2,450 ล้านบาท น่าจะประมูลได้ปีนี้เช่นกัน"

@ ชี้บิ๊กรับเหมากินรวบ "รถไฟฟ้า"

แหล่ง ข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการรับเหมารายใหญ่ รายกลางและรายเล็ก บริษัทที่ปรึกษามีความเคลื่อนไหวคึกคักมาก หลังรัฐบาลจะเปิดประมูลงานใหญ่และเล็กในปีนี้ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่าเมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า 3 สาย มีแนวโน้มว่ารับเหมารายใหญ่ตีตราจองไว้หมดแล้ว คาดว่าไม่น่าจะพ้นกลุ่มบิ๊กทรีของวงการคือ อิตาเลียนไทย ช.การช่าง และซิโน-ไทย

"ผู้รับเหมารายกลางและเล็กไม่มีกำลังมากพอทั้งผลงานและราย ได้ที่จะเป็นแกนนำยื่นประมูลได้ ไม่ว่ารับเหมาชั้น 1 จากกรมทางหลวงที่พยายามจะเข้ามา เช่น ยูนิค วิจิตรภัณฑ์ กรุงธน ชัยนันท์ เนาวรัตน์ คริสเตียนี เป็นต้น เป็นได้แค่ผู้ร่วมทุนลำดับที่ 2 และ 3 เท่านั้น ซึ่งต้องไปจับขั้วกับบิ๊กแบรนด์ 3 รายนี้"

@ เมกะเพลเยอร์คึกคักแข่งประมูล

นาย พลพัฒ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดรับเหมาก่อสร้างคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการเปิดประมูลก่อสร้างออกมาจำนวนมาก มากกว่าในช่วงปีที่แล้ว ทั้งโครงการขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก มีทั้งที่ใช้เงินกู้ งบฯไทยเข้มแข็ง อาจจะเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมามีการอั้นมานาน

แหล่ง ข่าวจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทสนใจเข้าร่วมประมูลเฉพาะโครงการขนาดใหญ่และขนาดกลาง ส่วนโครงการขนาดเล็กวงเงิน 2-3 ล้านบาท บริษัทคงจะไม่สนใจเข้าร่วมประมูลด้วยเนื่องจากไม่คุ้ม
นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทสนใจประมูลงานรถไฟฟ้าทุกสายทั้งสีแดง สีน้ำเงิน ส่วนจะร่วมกับใครบ้างยังตอบไม่ได้ต้องดูทีโออาร์ก่อน แต่โครงการไหนที่คิดว่าบริษัทสามารถดำเนินการได้จะยื่นเดี่ยวเหมือนสายสี ม่วง

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เฉพาะในส่วนของ ช.การช่างนั้น การตอกเข็มเริ่มก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งบริษัทประมูลได้สัญญาก่อสร้างช่วงที่ 1 จะเริ่มดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ตั้งแต่ช่วงเตาปูน-แคราย

"การ ประมูลรถไฟฟ้าอีกหลายสาย เราพร้อมที่จะเข้าร่วม รวมถึงหากจะมีการเจรจากันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องค่าโดยสารซึ่งจะเป็น ผลดีต่อประชาชน บริษัทก็ยินดี เราเชื่อว่ารัฐบาลจะผลักดันงบประมาณลงไปสู่การดำเนินการได้มากขึ้น" นายปลิวกล่าว
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 13, 2010 10:58 am

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_cry ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_cry ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_cry

ต่างประเทศเริ่มเตรียมพร้อมเซฟตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสภาวะสงครามที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

แต่ประเทศไทยเรา แทนที่จะเก็บงบไว้เตรียมพร้อมรับมือ

เปล่าเลย...คนที่มีอำนาจ กลับผลาญงบประเทศชาติกันเป็นว่าเล่น

เมื่อไหร่ คนพวกนี้ถึงจะพอสักที

มีบ้างไหม ที่จะรู้จักสำนึกบุญคุณแผ่นดินที่พวกคุณใช้ชีวิตอยู่มาจนวันนี้

หยุดซักที.... ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Kopfschuettel
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 13, 2010 11:06 am

ไอ้โครงการบ้าบอทั้งหลายที่กำลังจะผุดขึ้นมาเนี่ย

นอกจากจะผลาญงบประมาณเป็นแสนๆล้านแล้ว

อยากถามหน่อยว่า มีคนไทยในประเทศกี่เปอร์เซนต์


ที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการที่กำลังผุดขึ้น

แล้วไอ้คนที่ไม่ได้รับ-ใช้ประโยชน์ใดๆ แต่ต้องมาใช้หนี้ที่เกิดขึ้นเนี่ยนะ


มันแฟร์ไหมเนี่ย

คิดกันเก่งจริงๆ ไอ้แผนการทำลายประเทศชาติ

แน่จริงไปวางแผนกันโกงประเทศอื่น แล้วเอาเงินที่ได้มาพัฒนาประเทศไทย

จะไม่ด่า ไม่ว่าซักคำ


ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Kopfschuettel ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Kopfschuettel ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Kopfschuettel


แก้ไขล่าสุดโดย sunny เมื่อ Wed Jan 13, 2010 1:19 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 13, 2010 11:16 am

ตอนเด็กๆ พ่อแม่จะพร่ำสอนให้อ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน จะได้เรียนเก่งๆ

แพทย์นะลูก วิดวะนะลูก จะได้มีงานทำดีๆ เงินเยอะๆ

แต่ดูสิ มานั่งมองความจริงที่เป็นไปในสังคม

ไอ้พวกที่อยู่อันดับกลางๆ ไปท้ายๆของห้อง ได้มีโอกาสไปบริหารประเทศ ชี้นำชะตาคนทั้งชาติ

ส่วนไอ้พวกฉลาดๆ ได้อันดับต้นๆของห้อง ของโรงเรียน ของประเทศ

กลับกลายต้องอยู่ภายใต้การบริหารประเทศจากคนเหล่านั้น

ไม่ได้หมายความว่า พวกแพทย์ วิดวะ หรือสอบได้อันดับดีๆ จะเก่งในการบริหารประเทศ

แต่ระบบความคิด การจัดเรียงระบบในสมองมันต่างกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับระบบครอบครัว และสภาวะแวดล้อมของแต่ละบุคคลด้วย

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_neutral ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_neutral ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Icon_neutral
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 13, 2010 11:28 am

ประเทศจะไปในทิศทางดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ

สังเกตได้ง่ายที่สุด ไม่ใช่ที่ระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นระบบสังคมพื้นฐาน

สำคัญที่สุดคือ"ครอบครัว"ซึ่งถือเป็นสังคมระดับเล็กที่สุด

การมองเหตุการณ์ใดๆ หรือเปรียบเทียบสิ่งใดๆ อย่าเปรียบเทียบกับสิ่งที่เป็นไปในสังคมปัจจุบัน

อย่าอ้างว่าคนโน้นก็เป็น คนนี้ก็เป็น หรือว่าเราเป็นไม่เท่าเขา ยังดีกว่าคนอื่นตั้งเยอะ

เราต้องเปรียบเทียบกับความจริง เปรียบเทียบกับหลักศีลธรรม

อย่าปลอบใจตนเอง เพราะท้ายที่สุดเราจะกลายเป็นคนไม่ยอมรับความจริง

หากตัวเราเอง ยังไม่ยอมรับความจริงในตัวตน ยังเอาตัวเราเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ด้อยกว่า

เราก็จะไม่รู้จักพัฒนาตนเอง และก็มองสถานการณ์ต่างๆอยู่ในกรอบที่ตนเองกำหนดไว้

สุดท้ายเราก็คือ "กบในกะลาตัวหนึ่ง" เท่านั้น

จริงไหมคะ
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  Meo Fri Jan 15, 2010 4:43 pm

หยุด!มอเตอร์เวย์บางปะอิน–โคราช หยุดผลาญชาติทำลายชุมชน(1)
โดย : แสงอุทัย ศรีนาคร

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) News_img_95619_1

จ่อร้องศาลปกครองสกัดมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชแพงโคตร6หมื่นล้าน 280ล้าน/กม.
ร่นทางแค่5ก.ม.ตัดผ่าเขาใหญ่มรดกโลก แสบยัดไส้ผ่านEIA ขัดม.67วรรค2

แม้จะมีข้อครหาอ้างจาก"กลุ่มผู้สนับสนุนอำนาจเก่า" ทำนองว่ารัฐธรรมนูญ
พ.ศ.2550 คือ"ผลไม้พิษ"จากรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
แต่อีกด้านหนึ่งนักกฎหมายมหาชน และแกนนำภาคประชาชนหลายคนต่างเห็นตรงกัน
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก้าวหน้าด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชนและชุมชน
เหนือกว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ที่ยกย่องว่าเป็น"ฉบับประชาชน"
ดังตัวอย่างรูปธรรมจากชัยชนะของ"ชาวมาบ
ตาพุดระยอง" ที่ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง
เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ผ่านกระบวนการศาลปกครอง
จนสามารถหยุดยั้งมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่จะก่อตั้งขึ้นใหม่
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีกฎหมายลูกรองรับ

แต่ศาลก็เห็นว่าสิทธิของชุมชนได้รับความคุ้มครองแล้วตามเจตนารมณ์ของรัฐ
ธรรมนูญ นั่นคือคำอธิบายอย่างรวบรัดที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน

แต่ขณะนี้กำลังจะมีการละเมิดสิทธิชุมชม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง
ที่น่าจับตาเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองอีกคดีหนึ่ง
อันเนื่องมาจากความพยายามผลักดันโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6
สายบางปะอิน-นครราชสีมา(มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช) มูลค่า 60,000 ล้านบาท
ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม

ชาวบ้านหลายชุมชนที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง โดยเฉพาะ อ.กลางดง อ.สีคิ้ว และอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เห็นว่าที่ผ่านมากรมทางหลวงมุ่งดำเนินโครงการแบบ “มัดมือชก”
ไม่ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างกว้างขวางเท่าที่ควร
ยิ่งกระบวนการมีส่วนร่วมตัดสินใจของชุมชนก็เป็นไปอย่างจำกัด

ก่อนโครงการนี้จะได้"ไฟเขียว"คือได้รับความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)
ในเดือนพฤศจิกายน 2549 แต่ด้วยปัญหาทางการเมืองในปี 2550 - 2551
โครงการนี้จึงถูกชะลอไว้ และถูกฟื้นอีกในปี 2552 ขณะเดียวกัน
คณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล
วุฒิสภา ก็ได้รับการร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส ความไม่คุ้มค่าของโครงการ
และผลกระทบต่อทรัพยากรและวิถีชีวิตของชุมชนตลอดแนวทางก่อสร้าง
ตลอดจนการละเมิดสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง

ต่อมา วันที่ 18 ธันวาคม 2552 คณะกรรมาธิการศึกษาฯ วุฒิสภา ร่วมกับ
คณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมภาคประชาชนป้องกันการทุจริต
ประพฤติมิชอบในทรัพย์สินของรัฐ วุฒิสภา ได้จัดการเสวนา
“โครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช 6 หมื่นล้าน : ใครได้-ใครเสีย” ณ
อาคารรัฐสภา มีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ถูกผลระทบ
มาร่วมประมวลข้อเท็จจริงและความคิดเห็นอย่างมากมาย
พอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
Meo
Meo

จำนวนข้อความ : 64
Registration date : 13/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  Meo Fri Jan 15, 2010 4:45 pm

มอเตอร์เวย์ได้ไม่คุ้มเสีย: ย่นระยะทางจากเดิมแค่ 5 ก.ม.

นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2540 กลุ่มประชาสังคมโคราชได้ประมวลความต้องการของประชาชนไว้ 11 เรื่อง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม(โสภณ ซารัมย์) จะผลักดันแต่โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี ทั้งๆ ที่ชาวอีสานไม่ต้องการ ด้วยเหตุผล

1) เป็นการพัฒนาแบบยัดเยียด โดยนายกรัฐมนตรี(นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ) เคยชูเรื่อง“รถไฟรางคู่” ในการหาเสียงที่ผ่านมา แต่กลับให้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยยัดเยียดมอเตอร์เวย์ลงมา

2) เป็นการพัฒนาแบบทำลายสิ่งแวดล้อม ในอดีตชาวโคราชเคยต่อต้านโรงไฟฟ้าลำตะคอง(แบบสูบกลับ) มูลค่า 23,000 ล้านบาท แต่ภาครัฐก็ดึงดันสร้าง ถึงวันนี้ต้องตรวจสอบความคุ้มค่าโครงการนี้

3) ก่อให้เกิดความแตกแยก ที่ผ่านมา ว่าจ้างสถาบันการศึกษาออกแบบสอบถามประชาชน(ที่มีรถยนต์) ว่าโครงการมอเตอร์เวย์ฯ ดีหรือไม่ เป็นการชี้นำคำตอบในตัว และเพิ่มความแตกแยกขัดแย้งกันมากอยู่แล้วจากโครงการขุดอุโมงค์กลางเมือง

นายทวิสันต์ กล่าวอีกว่า ข้อดีมอเตอร์เวย์ฯ ตามข้ออ้างของกรมทางหลวง ส่วนใหญ่เลื่อนลอย เช่น ถนนมิตรภาพมีรถยนต์เพิ่มประมาณร้อยละ 20 ต่อปี มอเตอร์เวย์ฯจะแก้ปัญหาได้ ค่าก่อสร้างจะสูงขึ้นทุกปีจึงจำเป็นต้องรีบก่อสร้าง(ด้วยเงินโครงการไทยเข้ม แข็ง) นอกจากนี้ จะเกิดการจ้างงานในพื้นที่ แม้จะย่นระยะจากเดิมได้ 5 กิโลเมตร แต่จะลดเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมง เหลือ 2 ชั่วโมง(ถ้าสามารถทำความเร็วได้)

ส่วนข้อเสีย มอเตอร์เวย์ฯ สำคัญๆ มีดังนี้ เพิ่มค่าใช้จ่ายเดินทางของประชาชน(ค่าผ่านทาง) เที่ยวละ 200 บาท ผู้ประกอบการผลักภาระให้ผู้บริโภคทั้งค่ารถโดยสารและค่าขนส่งสินค้า

ค่าก่อสร้างเงินกู้เป็นหนี้สาธารณะที่ คนไทยต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากเกินร้อย 60 ต่อ GDP(ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางการเงินของประเทศในอนาคต

ประเทศไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหา คอร์รัปชันได้ ล่าสุดคะแนนชี้วัดภาพลักษณ์ความโปร่งใสของไทยอยู่ที่ 3.4 จากคะแนนเต็ม 10 ใครจะรับประกัน 60,000 ล้านบาทจะไม่มีคอร์รัปชัน

ประชาชนตลอดเส้นทางก่อสร้างยังไม่ทราบ ข้อมูล ข้อดี-ข้อเสียของโครงการ โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิชุมชน ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง

วิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนจะถูกทำลาย ตั้งแต่ อ.แก่งคอย อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ ฯลฯ เพราะมอเตอร์เวย์จะมีรั้วกั้นแบ่งแยกตัดขาดชุมชนเป็น 2 ฝั่ง ยากต่อการข้ามไปมาหาสู่

ถนนมิตรภาพยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ เพราะช่องซ้ายชำรุดเกือบตลอดแนว หากซ่อมบำรุงให้ดีจะลดอุบัติเหตุและระบายการจราจรได้ดีขึ้นในช่วงเทศกาล

รถยนต์ทุกชนิดสามารถใช้มอเตอร์เวย์ได้ ทำให้รถที่มีความเร็วสูงไม่สามารถใช้ความเร็วได้เกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงไม่ใช่ทางเลือกใหม่ และอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจากรถที่ไม่ได้มาตรฐาน

มอเตอร์เวย์ทำใครเข้มแข็ง แพงโคตร 280ล้าน/ก.ม.

ทันตแพทย์ ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้ประสานงานสมัชชาประชาชนภาค อีสาน 19 จังหวัด กล่าวว่าคนโคราชส่วนใหญ่ไม่ต้องการมอเตอร์เวย์ เช่นเดียวกับคนนครปฐมไม่ต้องการมอเตอร์เวย์ลงใต้ จากการไปศึกษาดูงานประเทศเวียดนาม ต้นทุนค่าขนส่งเวียดนามเท่ากับร้อยละ 25 ของ GDP ส่วนต้นทุนค่าขนส่งของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ต่อ GDP

กรมทางหลวงมีแผนจะสร้างมอเตอร์เวย์รวม 5 สาย เริ่มจากบางปะอิน - โคราช โดยอ้างเหตุผลทางจราจร ความปลอดภัย การกระตุ้นเศรษฐกิจ และเชื่อมเส้นทางขนส่งจากอันดามันสู่ประเทศลาวและเวียดนาม โดยไม่คำนึงว่าต้นทุนการขนส่งทางถนนของไทยสูงกว่าระบบราง 4 เท่าตัว

ขณะที่เวียดนามกำหนดยุทธศาสตร์ในปี ค.ศ.2020 เวียดนามจะเปิดเดินรถไฟหัวกระสุน(ชินคันเซน) ความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเมืองดานังเชื่อมระบบขนส่งครอบคลุมทั้งประเทศ

ทันตแพทย์ศุภผล เปรียบโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช เสมือน“เส้นทางไฮโซ” ระยะทาง 199 กิโลเมตรจ่ายค่าผ่านทาง 200 บาท/เที่ยว แต่ต้นทุนรวมโดยเฉลี่ยประมาณ 280 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ขณะที่รถไฟหัวกระสุนมีต้นทุนค่าก่อสร้างเฉลี่ย 130 ล้านบาทต่อกิโลเมตร เทียบกับค่าก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ของไทยเฉลี่ย 180 ล้านบาทต่อกิโลเมตร จึงชวนให้คิดว่าโครงการนี้"ใครเข้มแข็ง"

"มอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงทั้ง 5 สายจะต้องใช้งบประมาณ 150,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาสร้างระบบรางคู่ได้ทั่วประเทศ แต่รัฐบาลคิดไม่เป็น วันนี้พิสูจน์แล้วว่าเขื่อนลำตะคองสูบกลับใช้ไม่ได้ ชาวบ้านเคยคัดค้านแต่ก็ไม่ฟัง แล้วใครจะรับผิดชอบเงินลงทุน 23,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงขอยืนยัน ระบบราง คือคำตอบสุดท้ายที่จะทำให้ต้นทุนการขนส่งของไทยลดลงจากร้อยละ 19 ต่อ GDP เหลือร้อยละ 11 ต่อ GDP" ทันตแพทย์ศุภผล กล่าว
Meo
Meo

จำนวนข้อความ : 64
Registration date : 13/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  Meo Fri Jan 15, 2010 4:46 pm

กรมทางหลวง เหลวไหล! ชวนประชาชนร้องศาลปกครอง

นายประเทือง ปรัชญพฤทธิ์ ประธานเครือข่ายรณรงค์สื่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่าได้ติดตามโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ตั้งแต่เริ่มก่อตัวในปี 2547 - 2548 ขณะนั้นต้นทุนโครงการ 29,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และเชื่อว่าต่อไปอาจจะเพิ่มถึง 100,000 ล้านบาท

"กรมทางหลวงทำโครงการเหลวไหลประจำ ชอบทำประชาพิจารณ์แบบงุบงิบตามสไตล์ ภาคประชาชนสามารถตอบโต้กรมทางหลวงได้ทุกประเด็น ที่ควรจับตาก็คือการจ้างบริษัทที่ปรึกษาโครงการ 4 ราย วงเงิน 76 ล้านบาท เพื่อจะได้เห็นเส้นทางคอร์รัปชัน รวมทั้งงบประมาณที่กำลังจะจ่ายกว่า 100 ล้านบาทเพื่อเตรียมเวนคืนที่ดิน หากโครงการนี้ยกเลิกไป ใครจะรับผิดชอบงบประมาณที่จ่ายไปแล้ว"

นายประเทือง กล่าวด้วยว่า กรมทางหลวง คิดไปทำไป เปิดช่องให้เกิดคอร์รัปชันอย่างร่าเริง ตั้งงบประมาณตามอำเภอใจ เงิน 60,000 ล้านบาทควรเอาเงินมาสร้างรถไฟรางคู่ที่มีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ใช้สอย มากกว่า ดังนั้น จึงไม่ควรเสียเวลากับโครงการเหลวไหล และขอเชิญประชาชนที่คิดว่าได้รับผลกระทบไปทอดกฐินที่ศาลปกครอง

ย่ำยีมรดกโลกเขาใหญ่ ชวนฟ้องศาลปกครอง ใช้ม.67 วรรคสอง

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ (ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี) กล่าวว่าโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ผ่ากลางพื้นที่มรดกโลกของอุทยาทแห่งชาติเขาใหญ่ ผืนป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสัตว์ป่ามากถึง 800 สายพันธุ์ สำนักทางหลวงที่ 8 ก็ยอมรับในเว็บไซต์กรมทางหลวงว่า โครงการนี้บุกรุกป่าในบริเวณมรดกโลก ดังนั้น กรมทางหลวงควรเสนอให้รัฐบาลถอนมรดกโลกก่อนสร้างมอเตอร์เวย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกประจานภายหลัง

ถ้ากรมทางหลวงไม่เสนอให้ถอนมรดกโลก ภาคประชาชนก็จะทำหนังสือถึงคณะกรรมการมรดกโลก ให้มาตรวจสอบผลกระทบของโครงการมอเตอร์เวย์ฯ เพราะกว่าเขาใหญ่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ต้องใช้เวลาถึง 4 ปี นอกจากนี้แนวก่อสร้างยังตัดผ่านโบราณสถานสำคัญคือ แหล่งตัดหินสีคิ้ว (ที่ใช้สร้างปราสาทหินพิมาย) และ เมืองโบราณเสมา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมภาคประชาชนป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบใน ทรัพย์สินของรัฐ วุฒิสภา ในฐานะผู้ดำเนินรายการ แสดงความเห็นเสริมว่า เมื่อโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ไม่ได้ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง ดังนั้น ประชาชนสามารถใช้สิทธิฟ้องศาลตามบทบัญญัติในวรรคสาม (สิทธิของชุมชนที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัตินี้ย่อมได้รับความคุ้มครอง)

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญฯ สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าหัวใจของการประชาพิจารณ์คือการมีส่วนร่วมของประชาชน การศึกษาผลกระทบด้านสังคม (Social Impact Assessment : SIA) คือส่วนหนึ่งของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ในฐานะที่เคยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบ EIA ในปี 2542 - 2544 และมีโอกาสศึกษาปัญหา SIA ในการก่อสร้างทางหลวงสาย “นครปฐม-ชะอำ” จึงได้ข้อสรุปจากบทเรียนที่ผ่านๆ มาว่า ประชาชนไม่ควรปล่อยโครงการที่ไม่ชอบใจให้ผ่านไป เพราะจะต้องทนอยู่กับผลกระทบอย่างถาวร

ม.ล.วัลย์วิภา กล่าวต่อไปว่า โครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ผ่านความเห็นชอบ EIA ในเดือนพฤศจิกายน 2549 แต่ปัจจุบันเราใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ดังนั้น กรมทางหลวงจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียที่บัญญัติไว้มีตัวแปร ใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคือ การให้ความเห็นขององค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง โดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าวเน้นเรื่องสุขภาพ ดังนั้น การศึกษาเรื่อง SIA ก็คือการคุ้มครองสุขภาวะของผู้มีส่วนได้เสีย แต่โครงการนี้ไม่ได้มีการศึกษาเรื่อง SIA

หนุนใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ : แผงลอยลำตะคองนับพันรอวันเจ๊ง!

นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ และประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ในฐานะประธานในที่ประชุม ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า

การทุจริตคอร์รัปชันในบ้านเรามีมาก เหลือเกิน มีโครงการที่ไม่จำเป็นมากมาย เช่น ถนนควายเดิน และ โค้งทรราช นักการเมืองจะคิดโครงการจากความต้องการเม็ดเงินที่จะคอร์รัปชัน แล้วจึงค่อยคิดตั้งโครงการ การเอาชนะคอร์รัปชันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น กรณีทุจริตยาในอดีต องค์ประกอบทุกอย่างพร้อม กล่าวคือ คนในประชาคมสาธารณสุขต้องการปราบคอร์รัปชัน ภาคประชาชนก็เข้มแข็ง เมื่อผนึกกำลังกันจึงสามารถจับนักการเมืองติดคุกได้ เช่นเดียวกับบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาที่เปรียบเสมือนหัวหอก ซึ่งจะทะลุทะลวงได้ก็ต้องอาศัยกำลังจากด้ามหอกคือประชาชน เพราะฉะนั้นอย่าโยนความคาดหวังทั้งหมดไว้กับหัวหอก

นางสาวรสนา กล่าวต่อไปว่า กรณีศาลปกครองสั่งยกเลิกเพิกถอนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ กฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) เพราะศาลเห็นว่านโยบายดังกล่าวขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยไม่ได้พิจารณาประเด็นการบิดเบือนมูลค่าสินทรัพย์ให้มีต่ำกว่าความเป็น จริงของ กฟผ.ก่อนจะเข้าตลาด ดังที่กล่าวกันว่าคอร์รัปชันและอาชญากรรมจะทิ้งร่องรอยเสมอ ผู้ร้องต้องรู้จักหยิบยกประเด็นขึ้นฟ้อง คดี กฟผ.และ ปตท.ที่ภาคประชาชนชนะ ไม่ใช่เพราะประเด็นคอร์รัปชัน แต่กลับเป็นกระบวนการไม่มีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม ผู้ร้องควรยื่นทุกประเด็น เพราะถ้าศาลไม่รับ ศาลก็จะต้องตอบทุกประเด็นเช่นกัน เช่นเดียวกับคดี ปตท.ในเบื้องต้นมีเสียงวิจารณ์ว่าร้องไปก็แพ้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยหารู้ไม่ว่าเราไม่ได้มุ่งประเด็นนี้

นางสาวรสนา เปิดเผยด้วยว่า ศาลปกครองจะพิจารณาเฉพาะการกระทำทางปกครองที่ทำให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ เสียเดือดร้อน ผู้ร้องต้องเขียนให้เข้าช่องทางให้ถูก ดังนั้น กฎหมายก็คือเครื่องมือ ประชาชนต้องฝึกใช้ให้เป็น ถ้าใช้เป็นแล้วการตรวจสอบคอร์รัปชันก็จะเข้มข้น
ประชาชนประสานเสียงต้องหยุดโครงการ

นายประสาน ยุวานนท์ แกนนำชาวปากช่อง แสดงความคิดเห็นว่า ถ้ายับยั้งโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ได้ จะช่วยประหยัดเงินให้ประเทศชาติและหยุดย่ำยีคนปากช่อง เพราะโครงการนี้จะส่งผลกระทบต่อแผงลอยนับ 1,000 แผงที่บริเวณลำตะคอง ผู้ค้าจะเดือดร้อน เพราะรถวิ่งอยู่ข้างบน ใครจะลงมาซื้อของ ขณะที่ผู้รับเหมาได้เงินหลายหมื่นล้านบาท

นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เครือข่ายธรรมาภิบาล แสดงความเห็นว่า ประเทศไทยอ่อนแอมากเพราะปัญหาคอร์รัปชัน โดยส่วนตัวไม่อยากเป็นด้ามหอก เพราะไม่อยากเป็น “ไอ้หอกหัก” แต่จะขอเป็น “ก้างขวางคอ” พวกคอร์รัปชัน โดยข้อเท็จจริงเห็นได้ชัดว่าโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ไม่มีความจำเป็น เพราะถนนมิตรภาพสามารถรองรับได้อีกมาก กรมทางหลวงอย่าใช้ปริมาณรถยนต์ในช่วงเทศกาลมาอ้าง ดังนั้น ขอสนับสนุนให้ประชาชนฟ้องศาลปกครอง
Meo
Meo

จำนวนข้อความ : 64
Registration date : 13/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  Meo Fri Jan 15, 2010 4:47 pm

หวั่นวิถีชุมชนย่อยยับ : มลพิษลงสู่แหล่งน้ำดิบลำตะคอง

นายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตั้งคำถามว่า การคัดค้านโครงการนี้จะเหมือนโครงการเช่ารถเมล์ NGV ที่รัฐบาลมุบมิบอนุมัติจนได้หรือไม่ อีกทั้งขบวนการต่อสู้คัดค้านจะดำเนินต่อไปอย่างไร และงบประมาณ 60,000 ล้านบาท สามารถนำมาสร้างระบบรถไฟหัวกระสุนได้หรือไม่

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ตอบข้อซักถามในเรื่องรถเมล์ NGV ว่า มติคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเช่ารถเมล์ NGV 4,000 คัน แบบข้างๆ คูๆ เสมือนหนึ่งว่าอนุมัติไปแล้ว แต่แท้จริงแล้วเป็นการอนุมัติหลักการที่ ขสมก.ไม่สามารถปฏิบัติได้ เว้นแต่จะลดจำนวนเหลือ 500 คัน โดยวุฒิสภาและภาคประชาชนยังคงเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด หากเกิดความเสียหายขึ้น คณะรัฐมนตรีก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

แกนนำชาวปากช่อง (ไม่ทราบชื่อ) แสดงความเห็นว่า ผลเสียของโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช คือ ตัดขาดวิถีชีวิตและการค้าขายของชุมชน เพียงเพื่อส่งเสริมให้รถยนต์วิ่งเร็วขึ้นในระยะทาง 199 กิโลเมตร วิศวกรกรมทางหลวงก็ยอมรับว่าโครงการนี้ไม่มีประโยชน์ แต่จำเป็นต้องทำตามหน้าที่

นายเสงี่ยม เอกโชติ นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว แสดงความเห็นว่าประเทศไทยขยายถนนมากเกินไป อย่างไรก็ตามโดยหลักการก่อสร้างทางพิเศษไม่ควรสร้างให้คดเคี้ยว ประเด็นก็คือมอเตอร์เวย์ฯ ประหยัดระยะทางกว่าเดิมเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น การสร้างให้คดเคี้ยวเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ใครหรือไม่

แกนนำชาวปากช่อง (ไม่ทราบชื่อ) แสดงความเห็นว่าโครงการนี้แบ่งแยกพื้นที่ 2 ฝั่ง วิถีชีวิตของคนและสัตว์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล นอกจากนี้มลพิษจากท่อไอเสียบนมอเตอร์เวย์ จะลงสู่ลำตะคองซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบของเมืองโคราช ถนนมิตรภาพก็ดีอยู่แล้ว ปัญหาก็คือกรมทางหลวงไม่ยอมซ่อมช่องทางที่ชำรุด แต่กลับจะซ่อมในช่วงเทศกาลอย่างไร้เหตุผล ทำให้เกิดปัญหาจราจรตามมา

นางชินพร (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านหนองน้ำแดง อ.ปากช่อง เปิดเผยว่าชาวปากช่องรายหนึ่งแจ้งเตือนให้ระวังเรื่องการเวนคืนที่ดินของกรม ทางหลวง เนื่องจากเคยโดนหลอกมาแล้วจากการถูกเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางยกระดับแยก บายพาสปากช่อง จากที่เคยตกลงว่าจะจ่ายให้ 200,000 บาทต่อไร่ แต่สุดท้ายได้เพียงไร่ละ 80,000 บาท

พ.ต.อ.เดชา ผลลาภกิจ ข้าราชการบำนาญ แสดงความเห็นว่า น้องชายของตนทำไร่ที่บริเวณเชิงเขาปากช่องมากว่า 30 ปี วันหนึ่งกรมทางหลวงก็มาวางแนวก่อสร้างห่างจากไร่ของเขาไม่ถึง 2 กิโลเมตร โดยกรมทางหลวงไม่ได้เดินสำรวจแม้แต่น้อย นอกจากนี้ในการจัดประชุมประชาพิจารณ์ของกรมทางหลวง ก็มีการออกแบบสอบถามเชิงชี้นำ ทุกข้อล้วนแฝงการสนับสนุนโครงการทั้งสิ้น

นายประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร ประธานสภาราษฎร แสดงความเห็นว่า ขอเสนอให้ทั่วโลกใช้ระบบรถไฟในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งระบบรางคู่ ขนาดหัวรถจักรและตู้บรรทุก เพื่อเชื่อมระบบ Railway ของโลก

นายประเสริฐ เลิศยะโส องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ (จ.บุรีรัมย์) แสดงความเห็นว่า ต้องหยุดโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน - โคราช ที่ต้นเหตุคือคณะรัฐมนตรี กรมทางหลวงเป็นปลายเหตุ ประชาชนชาวอยุธยา สระบุรี ปากช่อง ต้องผนึกกำลังเรียกร้องให้ ส.ส.และ ส.ว.ช่วยระงับโครงการ พร้อมกับการยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและอื่นๆ นอกจากนี้ควรจัดกองกำลังเฝ้าระวังพื้นที่ก่อสร้าง ในส่วนของคณะกรรมาธิการฯ วุฒิสภา ก็ควรจัดเสวนาเปิดโปงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

ที่มาข่าว
Meo
Meo

จำนวนข้อความ : 64
Registration date : 13/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Wed Jan 20, 2010 11:48 am

วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6992 ข่าวสดรายวัน

ครม.ก่อหนี้สาธารณะเพิ่ม1.5หมื่นล. "มาร์ค"บี้คลังโต้ข้อหาแชมป์กู้-เบิกจ่ายต้นปีเกินเป้า

นาย วัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 53 มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 53 ครั้งที่ 2 เพิ่มขึ้น 15,991.11 ล้านบาท เป็น 1,704,707.62 ล้านบาท จากเดิม 1,688,716.51 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และอนุมัติการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนบริหาร หนี้สาธารณะ ทั้งนี้ หากพิจารณาระดับหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หลังจากการปรับปรุงแผนครั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะอยู่ในระดับ 53.67% และมีภาระหนี้ต่องบประมาณอยู่ในระดับ 12.61% โดยในปี"53 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.5% เงินเฟ้อ 2% ซึ่งยังคงอยู่ภายในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง โดยหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกิน 60% และภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกิน 15%

"นายก รัฐมนตรีได้สั่งการให้นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ไปหาข้อมูลตัวเลขการกู้เงินของรัฐบาลย้อนหลังไป 10 ปี และชี้แจงข้อกล่าวหาที่เป็นเสียงติฉินว่ารัฐบาลชุดนี้มีการกู้เงินมากกว่า รัฐบาลก่อนๆ เบื้องต้น รมว.คลังได้ยืนยันในที่ประชุมครม.ว่า รัฐบาลกู้มากก็จริงแต่ไม่มากกว่ารัฐบาลชุดอื่นที่เคยมีการกู้ก่อนหน้านี้" นายวัชระ กล่าว

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไตรมาสแรกปีงบประมาณ 53 ต่อครม. ซึ่งตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 52 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายไปแล้ว 396,155.16 ล้านบาท หรือ 23.30% ของวงเงินงบประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย 3.30% และสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 52 จำนวน 3.55% ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว เป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 352,545.75 ล้านบาท หรือ 23.82% สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย 2.68% และสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 52 ที่ 1.26% สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้ 43,609.41 ล้านบาท หรือ 19.83% สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายถึง 7.83% และสูงกว่าการเบิกจ่ายช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 52 ที่ 11.89%

สำหรับ หน่วยงานที่ได้รับงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีการเบิกจ่ายสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกองบัญชาการกองทัพไทย โดยเบิกจ่ายแล้ว 33.41% 16.51% และ 15.86% ตามลำดับ ส่วนงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง ณ วันที่ 14 ม.ค. 53 จากวงเงินกู้รอบแรก 200,000 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 28,523.77 ล้านบาท หรือ 18.88% ของวงเงินที่ได้จัดสรร 151,074.35 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้รอบที่ 2 จำนวน 20,000 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 8,695.80 ล้านบาท หรือ 44.14% ของวงเงินที่จัดสรรแล้ว จำนวน 19,699.20 ล้านบาท
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  sunny Mon Jan 25, 2010 9:01 pm

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:43:16 น. มติชนออนไลน์

ป.ป.ท.พบพิรุธช่วยภัยพิบัติ ปูดกุเรื่องขึ้นมาผลาญงบประมาณ

นายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการใช้งบประมาณในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติ ตามที่คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ประสานมา ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติจริงในหลายพื้นที่ ทั้งการประกาศภัยแล้งและภัยพิบัติ อี่น ๆ อาทิ ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่ามี 5 จังหวัดที่ส่อเค้าทุจริต โดยป.ป.ท.เตรียมขยายการตรวสอบไปยังภาคเหนือและภาคใต้ต่อไปด้วย โดยความผิดปกติที่พบคือการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติไม่เป็นไปตามระเบียบ เหตุการณ์ไม่รุนแรงพอหรือไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง , เมื่อประกาศเขตภัยพิบัติแล้วจากการสำรวจความเสียหายพบว่าการช่วยเหลือไม่ เป็นไปตามคำประกาศ ตลอดจนต้องเข้าไปตรวจสอบกระบวนการทำงานของคณะกรรมการที่เข้ามารับผิดชอบว่า เป็นการรับบุคลากรเป็นไปตามระเบียบหรือไม่
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน) Empty Re: ผ่าแผน...ความวุ่นวายในประเทศ(แบบชาวบ้าน)

ตั้งหัวข้อ  satan_baby Sat Feb 27, 2010 7:08 pm

ไม่ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน
แต่การที่จัด รปภ.ซะขนาดนั้น มันจะต่างกันตรงไหน
รัฐบาลพรรค ปชป. มีหน้าที่เผาผลาญเงินงบประมาณของประเทศชาติจริงๆ
วันละกี่ล้านบาทที่ต้องสูญเสียไป
ชาวนาราคาข้าวตก
ประชาชนทั่วไปไม่มีเงินจะกินข้าว กู้หนี้ยืมสินกันถ้วนหน้า
สินค้าราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ หดหู่จริงๆ
satan_baby
satan_baby

จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ