การร่วมมือกันของ ๒ กลุ่มคน ในการล้มล้างสถาบัน
4 posters
หน้า 5 จาก 5
หน้า 5 จาก 5 • 1, 2, 3, 4, 5
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
Re: การร่วมมือกันของ ๒ กลุ่มคน ในการล้มล้างสถาบัน
http://www.komchadluek.net/detail/20091230/43179/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html
วันพุธที่ 30 ธันวาคม 2552
บิ๊กสุเตือนสติอย่าเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทย
คมชัดลึก : พล.อ.สุจินดาเตือนสติอย่าเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทย ยกประวัติศาสตร์ไทยแตกแยกทำเสียกรุงศรีฯ
ปัดวิจารณ์ “ทักษิณ” ป่วน ชี้หากสองฝ่ายสุดขั้ว ไม่มีทางสมานฉันท์ แนะลดราวาศอก น้อมนำพระราชดำรัสให้
“ในหลวง” ทรงมีความสุข พาชาติสงบ ให้ รบ.สอบผ่าน “อภิสิทธิ์" ทำงานใช้ได้
เพราะเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนายกฯตั้งแต่เด็ก
เมื่อเวลา 08.00 น.พล.อ. สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักใน ซ.ระนอง 2 กทม.
ให้คณะนายทหาร พ่อค้า นักธุรกิจ เข้าอวยพรเนื่องเทศกาลปีใหม่ 2553 เช่นทุกปี พล.อ.สุจินดา
กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศว่า ตนออกจากราชการมานานจึงไม่มีข้อมูล แต่เต็มไปด้วยความหวังว่า
ปีใหม่ที่จะมาถึงน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะยิ่งนานวันประชาชนจะมองเห็นความจริงมากขึ้นว่า
อะไรเป็นความจริงที่ถูกต้องและอะไรที่ไม่ถูกต้อง พล.อ.สุจินดา กล่าวต่อว่า
คนไทยทั่วไปมุ่งหวังอยากเห็นความรักความสามัคคี ระหว่างคนในชาติ ซึ่งในประวัติศาสตร์การแตกแยก
ความสามัคคีของคนไทยเป็นสาเหตุทำให้เสียกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้ง นึกไม่ถึงว่าการแตกสามัคคีจะรุนแรง
อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เราไม่อยากเห็นคนไทยเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทยด้วยกัน
เพราะถึงอย่างไรคนไทยควรออมชอมกันในสิ่งที่ออมชอมได้
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่คนไทยจะหันหน้าเข้าหากัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ พล.อ. สุจินดา กล่าวว่า
คิดว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมี และสักวันหนึ่งจะถึงจุดที่สมานฉันท์กันได้ เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ. สุจินดา กล่าวว่า ไม่ขอตอบ โดยอ้างว่า ไม่อยากแสดงความคิดเห็นที่ออกมา
ในข้างหนึ่งข้างใด เพราะจะไม่ทำให้เกิดความสมานฉันท์ และ เมื่ออยากให้เกิดความสมานฉันท์
ไม่ควรกล่าวโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ การที่จะไปสุดขั้วกันคนละข้างไม่มีทางสมานฉันท์กันได้
ต้องโอนอ่อนเข้าหากัน ต้องยอมรับในสิ่งที่ควรจะละได้ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ไม่ใช่ จะเอาอย่างที่ตนต้องการ
100 เปอร์เซ็นต์ อย่างนี้จะไม่เกิดความสมานฉันท์ ใครๆก็ทำไม่ได้ ต้องมีการลดราวาศอกกัน
แม้จะคิดว่า การลดราวาศอกไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ต้องทำ เหตุการณ์ที่ผ่านมาน่าจะมีบทเรียนสอนใจว่า
การเดินไปอย่างนี้ไม่ถูกด้อง ควรเปลี่ยนวิธีการ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ควรน้อมนำพระราชดำรัสของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมามาปฏิบัติ การส่งความสุขปีใหม่ให้กับประชาชน คือ
การให้ทุกคนทำให้พระเจ้าอยู่หัวมีความสุขนั่นคือสิ่งที่เป็นยอดปรารถนา และรู้รักสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการ
ที่จะเป็นไปในปีหน้า เมื่อพระองค์ทรงมีความสุข ประชาชนและประเทศชาติก็จะมีความสุข ” พล.อ.สุจินดา กล่าว
เมื่อถามถึงแนวทางสมานฉันท์ระหว่าง กลุ่มคนเสื้อเหลืองและกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.สุจินดา กล่าวติดตลกว่า
เสื้อเหลืองและแดง เป็นสีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสีแดงกับสีเหลือง ก็เป็นสีของโรงเรียนนายร้อย จปร.
เมื่อถามว่า มองการทำงาน 1 ปี ของรัฐบาล อย่างไร พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า รัฐบาลทำงานใช้ได้
แต่จะไปหวังในสิ่งที่จะเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้
แตกแยกอย่างนี้และเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างนี้ จึงต้องช่วยกันประคับประคองกันไป แต่ไม่รู้จะเป็นไปในรูปแบบไหน
แต่อย่างไรก็ตามต้องมีรัฐบาล เมื่อถามว่า มองการทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
อย่างไร พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า เป็นคนใช้ได้ เพราะเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เด็ก
คิดว่า นายอภิสิทธิ์ พยายามเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี แต่เป็นยาก ซึ่งการทำงานของรัฐบาลถือว่า สอบผ่าน
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีดีเพียงคนเดียวจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า
นายกรัฐมนตรีดีคนเดียวก็โอเคแล้ว เพราะรัฐบาลจะเอาตามใจนายกรัฐมนตรีทุกอย่างไม่ได้
เพราะมีพรรคการเมืองเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นปัญหาของการเมืองไทย แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะหาวิธีการแก้ปัญหาได้
อืมม...ชม หรือว่า เหน็บ ครับท่าน
วันพุธที่ 30 ธันวาคม 2552
บิ๊กสุเตือนสติอย่าเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทย
คมชัดลึก : พล.อ.สุจินดาเตือนสติอย่าเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทย ยกประวัติศาสตร์ไทยแตกแยกทำเสียกรุงศรีฯ
ปัดวิจารณ์ “ทักษิณ” ป่วน ชี้หากสองฝ่ายสุดขั้ว ไม่มีทางสมานฉันท์ แนะลดราวาศอก น้อมนำพระราชดำรัสให้
“ในหลวง” ทรงมีความสุข พาชาติสงบ ให้ รบ.สอบผ่าน “อภิสิทธิ์" ทำงานใช้ได้
เพราะเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนายกฯตั้งแต่เด็ก
เมื่อเวลา 08.00 น.พล.อ. สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักใน ซ.ระนอง 2 กทม.
ให้คณะนายทหาร พ่อค้า นักธุรกิจ เข้าอวยพรเนื่องเทศกาลปีใหม่ 2553 เช่นทุกปี พล.อ.สุจินดา
กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศว่า ตนออกจากราชการมานานจึงไม่มีข้อมูล แต่เต็มไปด้วยความหวังว่า
ปีใหม่ที่จะมาถึงน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะยิ่งนานวันประชาชนจะมองเห็นความจริงมากขึ้นว่า
อะไรเป็นความจริงที่ถูกต้องและอะไรที่ไม่ถูกต้อง พล.อ.สุจินดา กล่าวต่อว่า
คนไทยทั่วไปมุ่งหวังอยากเห็นความรักความสามัคคี ระหว่างคนในชาติ ซึ่งในประวัติศาสตร์การแตกแยก
ความสามัคคีของคนไทยเป็นสาเหตุทำให้เสียกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้ง นึกไม่ถึงว่าการแตกสามัคคีจะรุนแรง
อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เราไม่อยากเห็นคนไทยเห็นต่างชาติดีกว่าคนไทยด้วยกัน
เพราะถึงอย่างไรคนไทยควรออมชอมกันในสิ่งที่ออมชอมได้
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่คนไทยจะหันหน้าเข้าหากัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ พล.อ. สุจินดา กล่าวว่า
คิดว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมี และสักวันหนึ่งจะถึงจุดที่สมานฉันท์กันได้ เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ. สุจินดา กล่าวว่า ไม่ขอตอบ โดยอ้างว่า ไม่อยากแสดงความคิดเห็นที่ออกมา
ในข้างหนึ่งข้างใด เพราะจะไม่ทำให้เกิดความสมานฉันท์ และ เมื่ออยากให้เกิดความสมานฉันท์
ไม่ควรกล่าวโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ การที่จะไปสุดขั้วกันคนละข้างไม่มีทางสมานฉันท์กันได้
ต้องโอนอ่อนเข้าหากัน ต้องยอมรับในสิ่งที่ควรจะละได้ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ไม่ใช่ จะเอาอย่างที่ตนต้องการ
100 เปอร์เซ็นต์ อย่างนี้จะไม่เกิดความสมานฉันท์ ใครๆก็ทำไม่ได้ ต้องมีการลดราวาศอกกัน
แม้จะคิดว่า การลดราวาศอกไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ต้องทำ เหตุการณ์ที่ผ่านมาน่าจะมีบทเรียนสอนใจว่า
การเดินไปอย่างนี้ไม่ถูกด้อง ควรเปลี่ยนวิธีการ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ควรน้อมนำพระราชดำรัสของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมามาปฏิบัติ การส่งความสุขปีใหม่ให้กับประชาชน คือ
การให้ทุกคนทำให้พระเจ้าอยู่หัวมีความสุขนั่นคือสิ่งที่เป็นยอดปรารถนา และรู้รักสามัคคี ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการ
ที่จะเป็นไปในปีหน้า เมื่อพระองค์ทรงมีความสุข ประชาชนและประเทศชาติก็จะมีความสุข ” พล.อ.สุจินดา กล่าว
เมื่อถามถึงแนวทางสมานฉันท์ระหว่าง กลุ่มคนเสื้อเหลืองและกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.สุจินดา กล่าวติดตลกว่า
เสื้อเหลืองและแดง เป็นสีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสีแดงกับสีเหลือง ก็เป็นสีของโรงเรียนนายร้อย จปร.
เมื่อถามว่า มองการทำงาน 1 ปี ของรัฐบาล อย่างไร พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า รัฐบาลทำงานใช้ได้
แต่จะไปหวังในสิ่งที่จะเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้
แตกแยกอย่างนี้และเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างนี้ จึงต้องช่วยกันประคับประคองกันไป แต่ไม่รู้จะเป็นไปในรูปแบบไหน
แต่อย่างไรก็ตามต้องมีรัฐบาล เมื่อถามว่า มองการทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
อย่างไร พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า เป็นคนใช้ได้ เพราะเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เด็ก
คิดว่า นายอภิสิทธิ์ พยายามเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี แต่เป็นยาก ซึ่งการทำงานของรัฐบาลถือว่า สอบผ่าน
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีดีเพียงคนเดียวจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า
นายกรัฐมนตรีดีคนเดียวก็โอเคแล้ว เพราะรัฐบาลจะเอาตามใจนายกรัฐมนตรีทุกอย่างไม่ได้
เพราะมีพรรคการเมืองเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นปัญหาของการเมืองไทย แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะหาวิธีการแก้ปัญหาได้
อืมม...ชม หรือว่า เหน็บ ครับท่าน
att- จำนวนข้อความ : 1075
Registration date : 08/10/2008
หน้า 5 จาก 5 • 1, 2, 3, 4, 5
หน้า 5 จาก 5
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|