Any Doc!!!!
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

เมื่อใช้อาหารเป็นยา

2 posters

Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  MI-6 Mon Nov 10, 2008 6:29 pm

อาหารไทย ...ยามหัศจรรย์...ที่คุณอาจมองข้าม

1. ปวดหัว กินปลามาก ๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลา มีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือ นมเปรี้ยว
3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำสารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำสารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ (ปลากระป๋อง) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง
7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และ ขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป
8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูก แคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว ) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้
9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้ กินข้าวโพด ช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้
10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีส อยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้
11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครง หรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี
12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง
14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลี จะช่วยป้องกันได้ดี โดยเฉพาะรำข้าว กะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญ อย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต
15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน
16. แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็กหายขาดได้
17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง
18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี “ โมโรอันแซตเทอเรต “ ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว “ คลอเลสเตอรอล “ ได้
19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่าย พืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง
20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และ ถั่วลิสง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้


พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้น นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่าง ๆ ได้ ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้น นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานไทย

ขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติ ที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้น ตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้ เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.
MI-6
MI-6

จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty Re: เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  sunny Mon Nov 10, 2008 6:37 pm

ความดันโลหิตต่ำ กับเลือดน้อยล่ะคะท่าน MI-6 ขา
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty Re: เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  MI-6 Mon Nov 10, 2008 7:11 pm

คิดเองนะว่า ความดันเลือดต่ำ น่าจะมีความสัมพันธ์ กับ อาการเลือดน้อย หรือ เมล็ดเลือดแดงน้อยนั่นเอง
ดังนั้น ควรกินอาหารพวก ไข่แดง ตับ(บ้างแต่มากก็ต้องระวังเก๊าท์) ทำแซนวิชตับบด กินก็อร่อย เดี่ยวจะบอกวิธีให้ค่ะ ผักใบเขียวจัดๆ คะน้า บร็อคโคลี ถั่วฝักยาว เอ้า ท่าน sunny ไม่ชอบผัก ก็เป็นพวกถั่วก็ได้ ถั่วเมล็ดแห้ง
ถั่วลันเตา ถั่วพิทาชิโอ ฯ ไม่ชอบของแข็งอีก เพราะบอกว่าเป็นการเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

การไม่ใช้พลังงานก็เลยทำให้ ความดันเลือดมันต่ำไง คะ ต้องเคี้ยวของแข็ง กรอบ ๆบ้างบางเวลา เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในร่างกายบ้าง

คิดว่า หากทำให้โลหิตแดง มีปริมาณมากขึ้น อาการความดันต่ำน่าจะหายไปได้เอง กับ ต้องพักผ่อนมากๆ ด้วย
จะมานอนตีสามตื่นตีสี่ ทุกวัน คงไม่ไหวค่ะ

ดื่มน้ำปกติ ที่ไม่ต้องแช่เย็น มากๆ ก็ช่วยได้

แซนวิชตับบด เคยมีคนสอนมาแบบนี้ เขานำขนมปังที่สำหรับทำแซนวิช มาผ่าครึ่งอีกทีให้มันบางลง
จากนั้น ซื้อตับบดที่มีคุณภาพดีๆ มาผสมกับ เนย butter ไม่ใช่มาร์การีนนะคะ เนยแท้ butter ผสมพอให้มันเลี่ยน แล้วก็คลุกกันให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้น นำขนมปังที่แล่ไว้ มาทาด้วยของผสมที่เตรียมไว้

แล้วม้วน ลักษณะเดียวกับ แยมโรล จากนั้นนำไปแช่ในช่องน้ำแข็ง ทิ้งไว้สักพัก มันจะจับตัวแข็งเหมือนแยมโรล
แล้วก็มาหั่น รับประทานได้ ก่อนที่มันจะละลาย อันนี้สำหรับคนมีปัญหากับการกินตับค่ะ คือตับมันมีกลิ่นคาวมากๆ บางคน ไม่กิน (เช่นดิฉันเป็นต้น ต่อให้เลือดจางยังไงก็ไม่กิน ตัวเองก็เลือดน้อยค่ะ ขี้หนาวมากๆ )

นี่นึกอาชีพหนึ่งได้แล้ว กะว่าจะไปทำอาหารสำหรับเดินป่าขาย เพราะไปค้นหาดูไม่ค่อยมีเลย
เอาที่เบา พกพาสะดวก แล้วก็ไม่เสียง่าย เช่น บรรจุในภาชนะที่เป็นสูญญากาศ นี่พูดจริงๆ นะ
MI-6
MI-6

จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty Re: เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  sunny Mon Nov 10, 2008 7:38 pm

ถั่วยิ่งไม่ชอบเลยค่ะ มันแข็ง ไม่อยากเคี้ยว บางชนิดก็ติดฟัน
ของแข็งๆกรอบๆ ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นานๆทีก็พอได้ค่ะ
(ดูเรื่องมากเรื่องอาหารการกินเนอะ)

กระเพราตับ ตับย่างพอทานได้ค่ะ
แซนวิชตับบด คงขอบ๊าย บาย เพราะจินตนาการแล้ว ไม่เอาน่ะค่ะ

อาหารสำหรับเดินป่า ก็มาม่าบดเป็นผง กับไข่แดงตากแห้งบด แค่นี้ก็อิ่ม แถมเบาสบายอีกต่างหาก
(จะมีใครแอบเอาไอเดียไปทำขายหรือเปล่าเนี่ย)
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty Re: เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  tang may Mon Nov 10, 2008 8:07 pm

แซนวิช ตับบด ลองทานดูก่อน แล้วจะรู้ว่า กินแล้วอ้วนแน่ๆ
กลิ่นคาวของตับมันจะหายไป ได้กลิ่นหอมของเนยมาแทนที่ จากนั้นก็อวบ

tang may
ผู้มาเยือน


ขึ้นไปข้างบน Go down

เมื่อใช้อาหารเป็นยา Empty Re: เมื่อใช้อาหารเป็นยา

ตั้งหัวข้อ  sunny Mon Nov 10, 2008 9:59 pm

ไม่นิยมเนยค่ะ

แต่ตอนนี้ที่บวม เนื่องจากช๊อคโกแลตค่ะ ตั้งแต่ปวดท้องตอนนั้น

ตอนนี้เลยติดช๊อคโกแลตแท่งเรียบร้อย

เลยบวมเลย
sunny
sunny

จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ