นักการ กับ นักการเมือง

[MI-6]

ต่างกันตรงไหนคะ

[MI-6]

นักการ เป็น ขรก ประจำ
นักการเมือง เป็น แบบชั่วคราว เหมือนลูกจ้างประจำ แต่ค่าจ้างแพงกว่ากันเยอะ

เมื่อเป็น ขรก ประจำ นักการก็เลยต้องมีเวลาหมดอายุการทำงาน เกษียณอายุ
ส่วนนักการเมือง ไม่จำกัดเรื่องอายุ หิ้วปีกมาประชุมสภาก็ยังทำได้ หากใจรักจริง...

นักการอาจเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย มีกติกาการทำงาน และมีมารยาท เพราะมีวินัยในการทำงานของข้าราชการประจำ กำกับอยู่
นักการเมืองเป็นตำแหน่งทางการเมือง แม้จะมีกติกาการทำงาน แต่มันซับซ้อนกว่านักการ เพราะต้องตีความก่อนปฏิบัติ จึงทำให้ บางทีดูแปลกๆ ไปบ้าง เช่น มีการแสดงศิลป มวยไทย ที่ไม่ค่อยได้มาตรฐาน ในสภา ที่ว่าไม่ได้มาตรฐานเพราะ ผิดสถานที่

[sunny]

นักการ คือ ข้าราชการประจำ

ข้าราชการ คือ อาชีพๆหนึ่ง ที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบอาชีพ

นักการเมือง คือ พวกเหลือบของแผ่นดิน หรือไม่ก็พวกปลิง-ทาก ที่คอยสูบเงินสูบทอง(สูบเลือดสูบเนื้อ)ของประเทศชาติ

นักการเมือง มิใช่อาชีพ หากเทียบด้วยตัวบทกฎหมาย เพราะมิได้ถูกระบุไว้ตามที่กฎหมายกำหนด

นักการเมือง คือแหล่งรวมพลคนที่มีสติปัญญาต่ำ สังเกตให้ดีๆ กลุ่มคนพวกนี้มักจะจบการศึกษาในสายทางเดิมๆ

แม้จะทำโก้เก๋ ด้วยการไปชุบตัวว่าจบมาจากเมืองนอกเมืองนา จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก

มีใครเคยได้ยินบ้างหรือไม่ว่า นักการเมืองคนนี้ เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยการไปคว้ารางวัล จากการแข่งขันฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี ชีวะ ฯลฯ

ถุย...

[MI-6]

นักการ มิได้กำหนดคุณสมบัติในด้านวุฒิการศึกษาไว้สูงมากระดับปริญญาโท ปริญญาเอก
นักการเมือง ระบุคณสมบัติว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นอย่างน้อย

นักการ มีหน้าที่ ทำความสะอาด จัดการความเรียบร้อยของสถานที่ ดูแลสถานที่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ทำหน้าที่ให้บริการ โดยมิอาจขาดตกบกพร่องได้

นักการเมือง มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองให้อยู่ในความเรียบร้อย เจริญก้าวหน้า จัดสรรประโยชน์ ให้ตกสู่ประชาชนโดยรวมอย่าเสมอหน้ากัน ไม่มีอคติเอนเอียง และเลือกสถานที่ หากจัดสรรงบประมาณตามหลักการ ที่รวบรัดว่า จำเป็น เร่งด่วน สมควร และ สำคัญ

นักการสร้างปัญหาความเสียหายให้แก่บ้านเมืองน้อยมาก และไม่เคยมีข่าวการโกงกินของนักการไม่ว่าจะกินทวนน้ำ ตามน้ำ ตีลังกากลับหลังหันในน้ำ ยังไม่เคยขึ้นหน้าหนึ่งใน นสพ. กรณีที่นักการผิดโดยสุจริต และ แย่งชิงพื้นที่ในการทำความสะอาดตึกกันเลย

และเมื่อมาถึงตรงนี้ กับความคิดสุดท้าย

หากขาดนักการแล้วเป็นยังไง ก็คงลำบากและเหนื่อยยากพอดู ที่จะต้องช่วยกันปัดกวาดที่ทำงาน จัดการเครื่องใช้สำนักงาน ล้างถ้วยล้างชาม เช็ดถูสำนักงาน มีนักการดีกว่าไม่มี

แล้วหากขาดนักการเมืองจะเป็นยังไง ...เราคงไม่ต้องฟังคำโกหก ดูละครการเมืองที่เน่าเสียจน แบคทีเรียหรือไวรัส ทุกสายพันธ์ ไม่อาจรอดในนั้น หนูกับแมลงสาบที่ทนที่สุดแม้แต่หลังระเบิดนิวเคลียร์มันยังรอดตาย ก็อาจจะตายเมื่อตกลงไปในน้ำลายของนักการเมือง มาตรฐานความคิดและพฤติกรรมคนไทย จะไม่เสื่อมทรามดังเช่นทุกวันนี้ พูดผิดเป็นถูก คนทำถูกไม่กล้าเผยอหน้า ถ้าไม่มีพวกมากพอที่จะมาร่วมหน้าด้านตะแบงกัน พฤติกรรมการยกหางไม่เกิดให้เห็นกันเกร่อ เงินในกระเป๋าของเราไม่ต้องคอยมีคนมาเบียดบังไปใช้ ในแบบถูกกฎหมาย โดยรีดภาษีเรา แล้วไปเข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นการปล้นโดนถูกกฎหมาย แต่ถ้าเราไม่ยอมให้ปล้น (คือไม่เสียภาษี) จะกลายเป็นผิดกฎหมาย และเราคงจะไม่ต้องขายหน้าคนทั้งโลก และ มีความภาคภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอนมากกว่านี้