การเมือง เรื่องของกระแส

[tang may]

หนังสือสรรสาระ หรือ รีดเดอรส์ ไดเจสท์ ฉบับภาษาไทย ตีพิมพ์บทความหนึ่ง เป็นผลสำรวจความคิดเห็นของคนในประเทศต่างๆ รวม ๑๗ ประเทศ ต่อผู้สมัคร ชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดี ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา

คำถามง่ายๆ ก็คือ คุณจะเลือก บารัค โอบามา หรือ จอหน์ แมคเคน เป็น ปธน

ได้ผลออกมาแบบนี้ค่ะ

ประเทศ ............. % ที่เลือก บารัค โอบามา
๑. เนเธอร์แลนด์ ๙๒ % เลือกโอบามา
๒. เยอรมัน ๘๕
๓. ไต้หวัน ๘๑
๔. บราซิล ๗๘
๕. ออสเตรเลีย ๗๖
๖. สเปน ๗๖
๗. ฝรั่งเศส ๗๕
๘. ฟินแลนด์ ๗๑
๙. อังกฤษ ๗๐
๑๐. เม็กซิโก ๗๐
๑๑. แอฟริกาใต้ ๗๐
๑๒. อินโดนีเซีย ๖๗
๑๓. โปแลนด์ ๖๕
๑๔. แคนาดา ๖๔
๑๕. อินเดีย ๖๑
๑๖. รัสเซีย ๕๒

จะเห็นได้ว่า สิบหกประเทศนั้น ต่างต้องการให้ บารัค โอบามาเป็น ประธานาธิบดีทั้งสิ้น

แต่ดิฉันเรียนไว้ว่า ทั้งหมดสำรวจ ๑๗ ประเทศนี่คะ แล้วประเทศที่หายไป คือประเทศอะไร ?
ผลควรเป็นเช่นไร ?

[tang may]

ประเทศที่ ๑๗ สหรัฐอเมริกา คนเลือกนายบารัค โอบามา ๓๖ % ขณะที่เลือก จอหน์ แมคเคน ๓๘ %
การสำรวจจัดในเดือน มิถุนายน - กรกฎาคม ก่อนการเลือกตั้งประมาณ สามถึงสี่เดือน ตอนนั้นนายโอบามายังไม่แรงจัด เหมือน โค้งสุดท้าย และ เข้าป้ายในที่สุด

มันเป็นสิ่งที่ยืนยันความชัดเจนของความคิดที่ว่า รู้เช่นเห็นชาติ หรือ คนในย่อมรู้ดีกว่าคนนอก จึงทำให้ภาพคนอเมริกันมอง กับ คนภายนอกมองต่างกัน ชนิดที่ว่า ต่างกันตรงกันข้ามเลย

เพราะทุกประเทศต่างเลือกนายโอบามา ทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่ประเทศเขาเองที่ ยังลังเล

นโยบายบูชที่เน้นการใช้ความรุนแรง ทำสงครามยืดเยื้อในอิรัค ซึ่งจอหน์ แมคเคน ต้องรับไม้มาด้วยนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนนอกสหรัฐ ไม่ต้องการให้รีพับริกัน สืบทอดอำนาจต่อไป

บางความเห็นว่า มันน่าสนใจที่นายโอบามา มีเชื้อสาย แอฟริกัน

ท่าทีเหมือนกับว่าเป็นคนพร้อมรับฟังความเห็นคนอื่น ให้ความร่วมมือ ไม่สั่งการลูกเดียว ก็เป็นสิ่งที่คนนอกมองเห็นในตัว โอบามา (เห็นตอนไหนเนี่ย ดิฉันดูหน้าเขาแล้ว โหวงเฮ้งบอกว่า เป็นโหดอีกแบบหนึ่งเลยนา)

สื่อมวลชั้นชั้นนำในยุโรป ก็เป็นตัวโปร นายโอบามาด้วย หลายประเทศเห็นแต่ข่าวที่เชิดชูความดีงามของเขา เช่นประเทศ เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ หรือ อินโดนีเซีย

เรื่องนี้ยังสะท้อน ให้คนต่างชาติมองว่า อเมริกาคือดินแดนแห่งโอกาสจริงๆ เพราะคนผิวสีก็ยังเป็น ปธน ได้ (แต่ทำไมไม่มองว่ากีดกันเพศ ผู้หญิง ยังไงก็ต้องเป็นแค่คนยืนคู่ ปธน )

ความฝันของคนต่างชาติที่จะไปขุดทองในสหรัฐ จึงยังมีอยู่เปี่ยมล้น ตามสถิตินี้

๑. อินเดีย ๗๓ %
๒. แอฟริกาใต้ ๖๕
๓. เนเธอร์แลนด์ ๕๕
๔. ฝรั่งเศส ๕๒
๕. ไต้หวัน ๓๖
๖. เม็กซิโก ๓๓
๗. สเปน ๓๒
๘. บราซิน ๓๑
๙. อังกฤษ ๓๐
๑๐. แคนาดา ๒๗
๑๑. อินโดนีเซีย ๒๔
๑๒. ฟินแลนด์ ๒๑
๑๓. เยอรมัน ๒๐
๑๔. ออสเตรเลีย ๑๙
๑๕. โปแลนด์ ๑๖
๑๖. รัสเซีย ๑๖

ส่วนสหรัฐ เขาไม่ได้ถามค่ะ ว่า มีร้อยละเท่าไหร่ ที่อยากย้ายมาสุวรรณภูมิ
ร้อยละเท่าไหร่ ที่อยากขายชาติ จนตัวสั่น

[tang may]

ในการสำรวจนี้ เขาได้พูดคุยถึงเรื่อง ความรู้สึก ในบางแง่มุม ในประเทศที่สำรวจด้วย คงเป็นลักษณะการถามรายละเอียดเพื่อประกอบ ข้อมูลเชิงปริมาณ เพราะว่า มันจะเป็นการอธิบาย ความรู้สึก ได้ดีขึ้น กว่าที่จะดูเพียง ตัวเลข

คนหนึ่งในเยอรมันบอกว่า... ความยากจนในโลกนี้ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะเป็นบ่อเกิดของปัญหาอื่นๆ อีก

เม็กซิโก ประเทศที่ชายแดนติดกัน แค่เดินผ่าน (ถ้าไม่โดนยิงเสียก่อน) คนให้สัมภาษณ์เคยอยู่ใน ลอสแอนเจลิส ..... ประธานธิบดีคนใหม่จะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องผู้อพยพ คนเม็กซิกันอพยพไปอเมริกาทุกวัน ไม่มีบัตรประกันสังคม ค่าแรงต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ เหล่านี้ล้วนเป็นความไม่พอใจที่คนอเมริกันมีต่อพวกเรา ก็เหมือนกับเป็นเงาสะท้อน เพราะคนเม็กซิกัน ก็รู้สึกไม่ต่างกันหรอก

ไต้หวัน..... คนสหรัฐ และ คนทั้งโลกกำลังบอกว่า โลกร้อนขึ้นทุกวัน แต่แล้วทุกๆ คนก็ไม่มีทีท่าจะหยุดยั้งการทำลายโลก และ ยังทำลายสิ่งแวดล้อมกันต่อไป อย่างไม่บันยะบันยัง

ฝรั่งเศส.... ไปอยู่สหรัฐ หรือ ? เป็นความตั้งใจเลยทีเดียว ชอบเพราะเป็นดินแดนแห่งโอกาส ที่จะไปเพราะต้องการสร้างโอกาสให้ชีวิต

ออสเตรเลีย..... แม็คเคน เหมือนแม่พิมพ์ของ ปธน บุคคลิกเหมือนดาราฮอลลีวู้ด ที่โดนคัดเลือกให้มาเป็น หากจะหาดาราเล่นหนังบทนี้ ก็ต้องเลือกอย่างเขานี่แหละ (สรุปว่า ชมหรือ ด่า ก็ไม่รู้ รายนี้)

คนสุดท้าย น่าสนใจมาก ๆๆๆๆ ทายหน่อยว่าประเทศอะไร ?

[tang may]

" การทำธุรกิจในรัสเซีย นับวันจะยากขึ้น แต่ผมไม่มีวันย้ายไปอยู่สหรัฐฯ
บ้านเกิดเมืองนอนเป็นสิ่งที่คนเราเลือกไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมอยากแสดงความรักผิดเวลา
แต่ที่นั่น ไม่ใช่มาตุภูมิของเรา คนที่นั่นเขาไม่ต้องการพวกเรา คนพลัดถิ่นที่เข้าไปอาศัยแผ่นดินเขาหรอก "

ความเห็นสุดท้าย เป็นของคนรัสเซีย

[hacksecrets]

ภายใต้ความศิวิไลซ์ มีความน่ากลัว อันตรายร้ายแรงที่คนทั่วไป ไม่มีวันจะได้รับรู้

แม้กระทั่ง การร้องขอความตาย ก็ไม่อาจสมหวัง