นั่นไง ว่าแล้ว>>> สหรัฐส่งเรือรบเข้าคาบสมุทร์เกาหลี

[A-Team]

สหรัฐร่วมเติมฟืนสุมไฟคาบสมุทรเกาหลี ส่งเรือ "ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน" ร่วมซ้อมรบตามกำหนดเดิม 28 พ.ย.-1 ธ.ค. เชื่อหวังกดดันจีนปรามโสมแดงที่ยิงถล่มเกาะยอนเปียง "ญี่ปุ่น" ประกาศจับมือโสมขาวแน่นขึ้น เล็งบอยคอตรัฐบาลเปียงยางเพิ่ม ยอดคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ศพแล้ว "มาร์ค" จับตาใกล้ชิด
การยิงปืนใหญ่หลายสิบลูกของเกาหลีเหนือใส่เกาะยอนเปียงในทะเลเหลืองของเกาหลีใต้เมื่อวันอังคาร แม้ในวันพุธเหตุการณ์จะดูเงียบสงบ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณความตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายสัปดาห์ที่จะมีการซ้อมรบระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้
สำหรับความสูญเสียบนเกาะยอนเปียงนั้น ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน โดยเป็นพลเรือนสูงอายุเพศชายอายุ 60 ปีเศษ ทำให้มียอดรวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4 คน บาดเจ็บอีก 18 คน ซึ่งเป็นนาวิกโยธินถึง 15 นาย
ด้านความเคลื่อนไหวเมื่อวันพุธ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ มีเครื่องบิน 75 ลำ กับลูกเรือกว่า 6,000 นาย ได้ออกเดินทางจากฐานทัพเรือทางใต้ของกรุงโตเกียว เพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ในวันที่ 28 พฤศจิกายนถึงวันที่ 1 ธันวาคมแล้ว
โดยกองกำลังสหรัฐประจำเกาหลีใต้แถลงว่า การซ้อมรบนี้มีวัตถุประสงค์ในเชิงป้องกัน และมีการวางแผนมานานแล้วก่อนเกาหลีเหนือระดมยิง ซึ่งเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐ และพันธกรณีของสหรัฐต่อเสถียรภาพของภูมิภาคโดยใช้การป้องปราม
ข่าวแจ้งว่า การซ้อมรบนี้ดูจะมุ่งกดดันจีนให้ปรามเกาหลีเหนือในกรณีการยิงถล่มเกาะยอนเปียง
แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐชี้แจงว่า การซ้อมรบร่วมที่จะมีขึ้นนี้ได้วางแผนกันไว้ก่อนเกาหลีเหนือจะระดมยิง แต่เหตุการณ์ก็คล้ายเมื่อปี 2539 ซึ่งประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินผ่านช่องแคบไต้หวันหลังจากจีนยิงทดสอบขีปนาวุธไปตกในช่องแคบดังกล่าว
ลี ชุงมิน แห่งมหาวิทยาลัยยอนไซในกรุงโซล บอกว่า เรือบรรทุกเครื่องบินเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของการแสดงแสนยานุภาพ การซ้อมรบครั้งนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการป้องปราม
ท่าทีที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ การเคลื่อนไหวของนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เห็นชอบร่วมกับนายลี มุงบัก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ที่ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ นายคังยังประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ รวมทั้งมีคำสั่งให้คณะรัฐมนตรีเพิ่มความร่วมมือกับเกาหลีใต้และสหรัฐมากขึ้นในการสร้างสันติภาพและความมีเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
นายบันรี ไคเอดะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ญี่ปุ่นอาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนเปียง
ส่วนสื่อในประเทศจีน ซึ่งรับรู้ว่าสนับสนุนรัฐบาลเปียงยางนั้นก็แทบไม่มีความเห็นด้านลบในเรื่องดังกล่าว และในบางคอลัมน์ถึงขั้นชื่นชมแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือด้วยซ้ำ
ส่วนบรรยากาศในกรุงโซลยังคงเป็นปกติ บรรดาพนักงานออฟฟิศต่างติดตามข่าวจากทีวีและหนังสือพิมพ์ บทบรรณาธิการของหลายฉบับได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีลี มุงบัก ตอบโต้ให้หนักหน่วงกว่าที่เคยทำกับกรณีการยั่วยุของเกาหลีเหนือที่ผ่านมา และมีชาวเกาหลีใต้กลุ่มเล็กๆ 2 กลุ่มรวมตัวตะโกนต่อต้านเกาหลีเหนือ
ด้านเปียงยางกล่าวว่า การระดมยิงดังกล่าวเป็นการตอบโต้ต่อกรณีเกาหลีใต้ได้จัดการซ้อมรบในบริเวณนั้น แต่โซลโต้แย้งว่าไม่ได้ยิงไปที่เกาหลีเหนือ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามา ได้รับแจ้งกลางดึกถึงข่าวการระดมยิงนี้ เขาบอกว่า รู้สึกหัวเสีย และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำที่ยั่วยุ
แม้บรรดาผู้นำประเทศต่างออกมาแสดงโวหาร แต่ประเทศใหญ่ๆในภูมิภาคได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ต้องการใช้วิธีทางการทูตผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียด เกาหลีใต้เตือนว่า ถ้าเกาหลีเหนือโจมตีอีกก็จะ "ตอบโต้ครั้งใหญ่" แต่รัฐบาลโซลก็ยังเลี่ยงที่จะตอบโต้ในทันที ซึ่งอาจทำให้เกิดการสู้รบข้ามพรมแดนขึ้นได้
ทูตพิเศษด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐ สตีเฟน บอสเวิร์ธ กล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า "เราขอเรียกร้องให้นานาชาติประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ และแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้เกาหลีเหนือยุติการยั่วยุทั้งหลาย และลงมือปลดอาวุธนิวเคลียร์"

เมื่อวันอังคาร โอบามากล่าวว่า จะขอให้จีนบอกกับเปียงยางว่า ต้องปฏิบัติตามกฎเกณ์ระหว่างประเทศ ขณะที่ปักกิ่งบอกว่า เห็นด้วยกับสหรัฐที่จะรื้อฟื้นการเจรจาว่าด้วยโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นักวิเคราะห์มองว่า เกาหลีเหนือเปิดฉากระดมยิงเมื่อวันอังคารเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองของตนก่อนหน้าการเจรจาปลดอาวุธ ซึ่งผู้นำ คิม จองอิล เคยใช้วิธีนี้ได้ผลมาแล้วในการทำให้ฝ่ายต่างๆ ยอมตามข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะสหรัฐ

"เป็นลูกไม้เก่าๆ ของคิมที่จะเรียกร้องความสนใจ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ" ลิน จองปิน อาจารย์ด้านยุทธศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยทัมคัง ในไทเป กล่าว
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อด้วยว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดจากการเมืองภายในของเกาหลีเหนือเอง คิมต้องการสร้างราคาแก่ลูกชายคนเล็กของตน ซึ่งได้วางตัวให้เป็นทายาททางการเมือง แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างชัดเจนจากกองทัพ

>>>> อ่านเนื้อหา ที่มาของเรื่อง ที่ >>> Fakewar <<<<
.............................
เรื่องนี้ ก็เป็นไปอย่างที่ CIA ชำนาญคือ กุข่าว สร้างเรื่อง เหมือนกับสร้างหลักฐานเท็จหลอกสมาชิกUN ว่าอิรัคมีอาวุธนิวเคลียส์ เอาทหารเข้าไปยึดประเทศเขา ฆ่าคนตายเป็นเบือ แล้วตีหน้าเซ่อ บอกว่า " การตรวจสอบผิดพลาด อิรัคไม่มีอาวุธนิวเคลียส์(แต่ยึดครองประเทศอิรัคถาวร) "

กรณีขอเกาหลีเหนือ นี่ก็เป็นละครน้ำเน่า เนื้อหาเก่า ๆ แต่เปลี่ยนหัวเรื่องใหม่ เพราะแท้จริงแล้ว CIA ต้องการที่จะถอนทหารจากอาฟกานิสถาน แต่ไม่สามารถนำทหารเหล่านั้นกลับประเทศของตนได้ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐโทรมสุด ๆ ถึงขนาดต้องพิมพ์แบ็งกงเต็ก ออกมาซื้อหุ้นในตลาดหุ้นตัวเองให้ดัชนีพุ่งขึ้นหลอกชาวโลก ทั้งนี้ก็เพื่อหนีภาระหนี้สินที่มีต่อจีน และบีบให้จีนลดค่าเงินหยวน เมื่อจีนไม่ลดเงินหยวน ก็เลยสร้างละครน้ำเน่า เคลื่อนทหารเข้าเกาหลีเพื่อปิดล้อมจีนอีกชั้นหนึ่ง

หากวิเคราะห์ตามกลยุทธซุนวู ก็จะรู้ได้ชัดว่านี่คือกลยุทธ " ปิดฟ้าข้ามทะเล " เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของกองทัพสหรัฐ คือการเข้ายึดพื้นที่การเกษตร หรือ แหล่งผลิตอาหารของโลก คือเอเซียอาคเนย์ โดยตั้งฐานปฏิบัติการถาวรในประเทศไทย

การสร้างละครลวงโลกเรื่องเกาหลีเหนือ เป็นไปเพื่อตบตาประชาคมโลก แต่ไม่สามารถตบตาคนไทยได้เพราะยังไง ฝรั่งก็โง่กว่าไทย มันจะฉลาดยังไงก็ได้แค่24 ชั้น (อักษรและสระมีเท่านั้น) ฉลาดยังไงก็สู้ไทยไม่ได้ เอาเฉพาะอักษรไทยก็ 44 ตัวไม่รวมสระ

แต่ก็ไม่แน่ เพราะไอ้ที่มีอำนาจ มันอ่านภาษาไทยไม่ครบ 44 ศัพท์ภาษาไทย คำว่า " จริงใจ " ยังให้ความหมายไม่ถูก ฉะนั้น อาจจะเป็นคนหัวไวที่ความฉลาดวิ่งตามไม่ทันก็ได้