คนสิ้นคิด ภัยที่ใกล้ตัว !!!

[A-Team]

บ้านเมืองที่ผู้ปกครองไม่ปกติ ลุ่มหลง มัวเมา คับแคบ หวาดระแวง มักเกิดอะไรในทางร้ายๆ ลบๆ ได้ตลอดเวลา

กรณีตำรวจอยุธยาจับแม่ค้าขายรองเท้าแตะ รูปหน้าอภิสิทธิ์ และ เทพเทือก

คือตัวอย่างร้ายๆ ลบๆ ล่าสุด !

ความจริงกรณีนี้ทำให้เล็กก็เล็ก ทำให้ใหญ่ก็ใหญ่ หรือไม่ทำอะไรเลยก็ได้

ขึ้นกับเจ้าพนักงานของรัฐ ในที่นี้ก็คือตำรวจ

มีความรู้ ความเข้าใจ สามัญสำนึก วิจารณญาณ วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ ฯลฯ
'เป็น' หรือ 'ไม่เป็น' แค่ไหน อย่างไร ??

'เป็น' หรือ 'ไม่เป็น' ดูจากตั้งความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งๆ ที่อยุธยายกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว

'เป็น' หรือ 'ไม่เป็น' ดูจากข้อเท็จจริงเข้าข่ายคดีละเมิด แต่ตำรวจบุกจับทั้งๆ ที่ยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ

แค่สองข้อสงสัยก็ต้องต่อสู้กันถึงข้อกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของตำรวจ

เข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่ ?

ความ 'เป็น' หรือ 'ไม่เป็น' ของเจ้าพนักงานรัฐ มันยังสะท้อนไปถึงระบอบ ระบบของบ้านเมือง

ก้าวหน้า หรือล้าหลัง แค่ไหน อย่างไร ??

บ้านเมืองที่ก้าวหน้า ศิวิไลซ์แล้ว เรื่องมีใบหน้าผู้นำ หรือบุคคลสำคัญปรากฏบนรองเท้า

ถือว่าปกติธรรมดามากๆ

ถ้าคิด 'ไม่เป็น' เหมือนบางประเทศ

ซีไอเอ เอฟบีไอคงรีบเอาอกเอาใจผู้มีอำนาจ ไล่จับคนขาย คนใส่จนล้นคุก

ได้ยึดรองเท้าหน้าประธานาธิบดีกองเป็นภูเขาเลากา

ประเทศคอมมิวนิสต์ 'แดงแจ๋' อย่างจีน รองเท้ารูปหน้าเหมาเจ๋อตุง วางขายเกลื่อน ใส่กันทั่ว

ถ้าคิด 'ไม่เป็น' เหมือนบางประเทศ

ป่านนี้คนจีนถูกผู้ปกครองสั่งจับประหารหมด

แค่ 'เป็น' หรือ 'ไม่เป็น' ในการทำหน้าที่ มันจึงสะท้อนอะไรต่อมิอะไรได้ยิ่งใหญ่ไพศาล

จริงๆ แล้วกรณีที่อยุธยา ถ้าตำรวจปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ตามปกติ

ไม่คิดสั้น คิดเร็ว คิดตื้น

รอเจ้าของใบหน้าในฐานะผู้เสียหาย แจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอนเสียก่อน

ความพิลึกกึกกือ ตกยุคหลุดโลกก็จะไม่เกิด

สรุปสั้นๆ ก็คือ 'ไม่เป็น'!?

..................................

ข้อสงสัย จากคนไทยที่คิดเป็น เขาถามตำรวจมาว่า

เกือก หรือ รองตีน ที่ว่า หากเป็นรูป ทักษิณ กับ รูป 3 เกลอ

ตำรวจจาจับ ไม๊ ??? แบะ ...แบะ แบ...แบะ แฉะ !

[นางฟ้า]

เปิดบันทึกป.ป.ช.คดีทุจริตเข้าร.ร.นอภ.ระบุชัด"วงศ์ศักดิ์"อ้างผู้มีอำนาจใน มท.สั่งยัด150ชื่อให้สอบผ่าน

เปิดบันทึก ป.ป.ช.กล่าวหาอดีตอธิบดีปกครอง ร่วมมือกับ3"บิ๊กมท."ทุจริตคดีโรงเรียนนายอำเภอ ชี้พฤติกรรมผิดทั้งอาญา-วินัย ส่วน142ผู้สอบผ่านเจอแค่วินัย ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ระบุชัด "วงศ์ศักดิ์"รับจัดการตามคำสั่งของผู้มีอำนาจทางการเมืองในมหาดไทย สร้างหลักฐานกระดาษคำตอบใหม่หลังข่าวแพร่สะพัด
-----------


วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ชี้มูลคดีการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ(นอ.) ปีงบประมาณ 2552 โดยแจ้งข้อกล่าวหาทางวินัยและอาญาแก่ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง ซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น รวมทั้ง แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตร นอ.ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 3 รุ่น (รุ่น 68-70) จำนวน 142 คน ว่ามีความผิดวินัย ในฐานการกระทำการการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาของป.ป.ช.มีจุดที่น่าสนใจ 2 ช่วง คือ

ช่วงแรก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2552 มีหนังสือจากนายวุฒิชัย เชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยเข้า นอ. วันที่ 20 มีนาคม 2552 แต่นายวงศ์ศักดิ์ ติดราชการ และก่อนถึงวันประชุม นายวงศ์ศักดิ์ ได้เชิญนายวุฒิชัย เข้าไปที่ห้องทำงานแจ้งว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต ว่าในการสอบคัดเลือกโรงเรียน นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวมอบรายชื่อผู้เข้าสอบจำนวนประมาณ 150 คน มาให้และแจ้งว่า บุคคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ นายวุฒิชัยจึงตกลงทำคำสั่ง โดยใช้วิชาความรู้ความสามารถทั่วไปมาเป็นข้อสอบ เพื่อสะดวกในการให้คะแนนช่วยเหลือทั้ง 150 คน

"นายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ยังสนิทกับนายสำราญ ได้นัดแนะจะเลือกข้อสอบที่นายสำราญ เป็นผู้ออกในวิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เพื่อให้นายสำราญ ช่วยเหลือ 150 คนด้วย ต่อมาเมื่อถึงวันประชุม (20 มีนาคม) ทุกคนมาตามนัดยกเว้น นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครองขณะนั้น แต่ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ได้จัดพิมพ์บัญชีผู้เข้าร่วมทั้งหมดให้ลงนามภายหลัง โดยระบุวันประชุมเป็นวันที่ 22 มีนาคม 2552 เพื่อให้ตรงกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ โดยได้นำไปให้นายนิรันดร์ ที่ไม่เข้าร่วมประชุมลงชื่อด้วย"บันทึกระบุ

ช่วงที่2 หลังจากมีการจัดสอบ โดยกระดาษคำตอบปรนัยได้ให้มหาวิทยาลัยสุขโทัยธรรมาธิราชไปตรวจ ส่วนกระดาษคำตอบอัตนัย มีกรรมการของกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจนั้น ปรากฎว่านายวุฒิชัย ได้นำกระดาษคำตอบออกมาตรวจโดยนำรายชื่อ 150 ชื่อ ที่ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ มาช่วยเหลือให้คะแนนสูงๆ ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี แล้วมาจัดลำดับที่และรุ่นตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองและประกาศรายชื่อให้ทราบ

ต่อมามีข่าวแพร่หลายว่า ผู้บริหารกรมการปกครอง เรียกรับเงินถึงรายละ 8 แสนบาทในหนังสือพิมพ์ และมีการเชิญทั้งนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย มาชี้แจงกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีการซักถามเรื่องกระดาษคำตอบ ทั้งสองเกรงว่า จะมีการตรวจสอบกระดาษคำตอบในรายที่ให้ความช่วยเหลือ จึงให้ประธานนักเรียนอำเภอรุ่น 68 ,69 และ 70 มาพบนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงาน ในวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์ เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไปเขียนคำตอบใหม่ โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงประมาณ 3-4 ตัวอย่างให้คัดลอก

ปรากฎว่า พนักงานป.ป.ช.ได้จำแนกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีลักษณะการเขียนคำตอบคล้ายกัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก 47 คน กลุ่มสอง 36 คน และกลุ่มสาม 24 ราย

ส่วนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) มีมติให้กระทรวงมหาดไทย ยกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ 41 ตำแหน่ง และแต่งตั้งใหม่ให้ถูกต้องตามขั้นตอนนั้น นายขวัญชัย วงศ์นิติกร รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายมานิต วัฒนเสน ขณะเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) แต่ขณะนี้ยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ก.พ.มายังกระทรวงมหาดไทย จึงไม่ทราบว่า ต้องมีวิธีปฏิบัติเช่นใด หากให้ยกเลิกแล้วจะให้ 41 นายอำเภอระดับ 9 ไปดำรงตำแหน่งที่ใด จำเป็นที่จะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจทดแทนหรือไม่ และก่อนหน้านี้กลุ่ม 41 นายอำเภอ ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้อุทธรณ์คำสั่งของก.พ.ค. แต่ก.พ.ค.ระบุว่าคำสั่งเป็นที่สุดแล้ว จึงต้องรอดูความชัดเจนในเอกสารอย่างเป็นทางการจาก ก.พ.ก่อน หากจะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจก็ต้องให้ทั้ง 41 คน ถอยออกมาแล้วเปิดสอบใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสอบใหม่แล้ว จะตั้งนายอำเภอทั้ง 41 คนนี้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายขวัญชัย กล่าวว่า คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะจะถือว่า การคัดเลือกไม่ถูกต้องอีก เหมือนกับว่า มีการตั้งธงไว้ จึงจำเป็นต้องเปิดสอบใหม่ทั้งหมด ส่วนใครจะสอบได้หรือไม่ก็ว่ากันอีกที ทั้งนี้อาจจะต้องให้นักกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยร่วมพิจารณาเรื่องนี้ด้วย

[hacksecrets]

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7267 ข่าวสดรายวัน

ฮือประจานตร. จับมั่วรองแตะ

ทวง24คู่ ที่โดนยึด เย้ยมาร์ค ฟ้องหมิ่น

น.ร.-น.ศ. บุกโรงพักเชียงราย ทวง คืนรองเท้าแตะรูปคล้ายหน้านายกฯมาร์ค เขียนป้ายประจาน 'วัตถุเป็นภัยต่อความมั่นคง' หลังโดนตร.บุกยึดไป 24 คู่เมื่อหลายวันก่อน เผยกลุ่มน.ศ.นำรองเท้าแตะมาวางขายที่ถนนคนเดิน ปรากฏว่าโดนตร.บุกยึดรองเท้าแตะทั้งหมด บอกว่าไม่เหมาะสม โวยลั่นตร.กลั่นแกล้ง หากจะดำเนินคดีก็ต้องให้นายกฯ มาแจ้งความเอาผิดเอง ส.ส.เพื่อไทยตั้งกระทู้ถามนายกฯ เรื่องเยียวยาเหยื่อเสื้อแดง ประวิตรลุกขึ้นแจงแทน ยันเยียวยาไปหมดแล้ว คนตายได้ศพละ 4 แสน พิการได้ 2 แสน บาดเจ็บได้รายละ 2 หมื่นถึง 1 แสน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ต.ค. นายธนิต บุญญนสินีเกษม แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย นายธวัชชัย ทองนาค นายรุ้ง คลองแสนเมือง แกนนำคนเสื้อแดง นายต่าย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/7 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจ.เชียงราย และเพื่อนนักศึกษารวม 3-4 คน เดินทางไปยังสภ.เมืองเชียงราย เพื่อติดต่อขอรับคืนรองเท้าแตะสีแดงที่มีรูปหน้าเหมือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ายึดรองเท้าแตะทั้งหมดของนายต่ายและเพื่อน ซึ่งวางขายบริเวณสี่แยกศาล ถนนธนาลัย อ.เมือง ที่เทศบาลนครเชียงรายจัดให้มีกิจกรรมถนนคนเดินเชียงรายรำลึกทุกคืนวันเสาร์ โดยตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนนายต่ายและพวกว่าการขายรองเท้าแตะรูปหน้านายกฯ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมก่อนจะปล่อยตัวทั้งหมดกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนิตและกลุ่มได้จัดกิจกรรมประณามการกระทำของตำรวจ นำรองเท้าคอมแบตตำรวจ เสื้อสะท้อนแสงของตำรวจจราจร กุญแจมือ เขียนข้อความว่า "วัตถุเพื่อความมั่นคง" และนำรองเท้าแตะรูปหน้านายกฯ 1 คู่วางไว้ใกล้ๆ เขียนข้อความว่า "วัตถุเป็นภัยต่อความมั่นคง"

นายกิตติพงศ์ นาคะเกศ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษารักประชาธิปไตย ได้อ่านแถลง การณ์ มีเนื้อหาว่า ตำรวจไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ แต่กลับยึดของกลางและควบคุมตัว จึงเป็นการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติ เครือข่ายนักศึกษารักประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของตำรวจดังกล่าวอย่างยิ่ง และระบุว่า พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เป็นธรรม และรับใช้อำนาจรัฐเผด็จการพลเรือนที่มาโดยไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า เครือข่ายนักศึกษารักประชาธิปไตยเรียกร้องให้ตำรวจได้ปฏิบัติให้เหมาะสมต่อแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการสร้างบรรยากาศความปรองดอง หรือให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหากว่านายอภิสิทธิ์เห็นว่ารูปที่ปรากฏบนรองเท้าเป็นการหมิ่นประมาท ก็ขอให้นายอภิสิทธิ์มาแจ้งความกล่าวโทษด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากทำเรื่องขอรับรองเท้าแตะจำนวน 24 คู่คืน พ.ต.อ.มงคลได้เรียกนายธนิตไปตำหนิว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม และมีการชักนำเด็กเยาวชนมาเกี่ยวข้องด้วย แต่นายธนิตยืนยันว่าเป็นสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่สามารถทำได้ จนเกิดการโต้เถียงกันอยู่พักใหญ่ ก่อนตำรวจระบุจะสอบปากคำนายธนิตเกี่ยวกับการตรวจยึดรองเท้าดังกล่าว โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ อ้างว่าเพื่อสืบหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับร้องเท้าแตะ สร้างความไม่เข้าใจให้กับกลุ่มของนายธนิต โดยมีคนเสื้อแดงหลายสิบคนมาให้กำลังใจนายธนิตด้วย

นายธนิต กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีการสอบปากคำทั้งๆ ที่ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร และตำรวจยังระบุว่าอีกหากยังมีการนำรองเท้าแตะดังกล่าวไปวางจำหน่ายอีกจะทำให้เกิดความไม่สงบ กระทบต่อความมั่นคง ตนก็สงสัยว่าการที่ตำรวจเข้าไปจับกุมและไม่จับกุมอย่างไหนจะทำให้เกิด ความสงบมากกว่า เพราะหากไม่จับกุมทุกอย่างก็เป็นปกติและเจ้าทุกข์ที่หน้าเหมือนคนในรองเท้าแตะก็ไม่ได้เดือดร้อนด้วย แต่หากจับกุมทุกวันและคนก็นำออกมาวางขายทุกวันก็สงสัยว่าอย่างนี้จะสงบหรือไม่