"จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
+6
satan_baby
Meo
3มิติ
Rosy
MI-6
sunny
10 posters
หน้า 1 จาก 1
"จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
sunny Mon Apr 19, 2010 4:16 pm
Breaking News : 19 เมษา. 2553 15:24 น.
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ร่วมกันแถลง นายสมชาย แถลงว่า ในฐานะอดีตนายกฯ ขอออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดความแตกแยกในสังคม เกิดวิกฤติทางการเมืองในขณะนี้ว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรง ต่อผู้ชุมนุม รัฐบาลต้องรับประกันว่า จะไม่มีผู้เสียชีวิตอีก และควรยุบสภาในทันที
ขณะที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า นอกจากข้อเสนอแนะของตนและนายสมชาย ที่มองว่าจะเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้ ตนยังมีความหวังที่เห็นจะเป็นทางออกเดียวของบ้านเมือง คือ การที่จะขอรับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณที่จะเข้ามาหยุดความสูญเสียและปัญหาของบ้านเมืองทั้ง ทั้งนี้ ตนได้มีความพยายามที่จะประสานไปยัง ท่านราชเลขาธิการ เพื่อขอเข้าเฝ้า
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ร่วมกันแถลง นายสมชาย แถลงว่า ในฐานะอดีตนายกฯ ขอออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดความแตกแยกในสังคม เกิดวิกฤติทางการเมืองในขณะนี้ว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรง ต่อผู้ชุมนุม รัฐบาลต้องรับประกันว่า จะไม่มีผู้เสียชีวิตอีก และควรยุบสภาในทันที
ขณะที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า นอกจากข้อเสนอแนะของตนและนายสมชาย ที่มองว่าจะเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้ ตนยังมีความหวังที่เห็นจะเป็นทางออกเดียวของบ้านเมือง คือ การที่จะขอรับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณที่จะเข้ามาหยุดความสูญเสียและปัญหาของบ้านเมืองทั้ง ทั้งนี้ ตนได้มีความพยายามที่จะประสานไปยัง ท่านราชเลขาธิการ เพื่อขอเข้าเฝ้า
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
MI-6 Tue Apr 20, 2010 7:27 am
ด้วยมีคนวานมาให้ช่วยบ่น
เนื่องจากชนจัญไร ไร้สมอง
เคยเป็นถึง นายก นักปกครอง
แถมรองนายก ความมั่นคง ก็เคยเป็น
หนึ่งในนั้น อาการคล้าย อัลไซเมอร์
ชอบแกล้งเซ่อ บ้าไม่ใบ้ ให้เห็นเห็น
อีกหนึ่งนั้น ถนัดดู ซื้อตู้เย็น
ต่างเข้าเกณฑ์ พังเพราะเมีย เสียเชิงชาย
เนื่องจากชนจัญไร ไร้สมอง
เคยเป็นถึง นายก นักปกครอง
แถมรองนายก ความมั่นคง ก็เคยเป็น
หนึ่งในนั้น อาการคล้าย อัลไซเมอร์
ชอบแกล้งเซ่อ บ้าไม่ใบ้ ให้เห็นเห็น
อีกหนึ่งนั้น ถนัดดู ซื้อตู้เย็น
ต่างเข้าเกณฑ์ พังเพราะเมีย เสียเชิงชาย
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
Rosy Tue Apr 20, 2010 7:46 am
ดึงฟ้าต่ำ
อีกกลยุทธ์ในการดึงพระองค์ลงมาสู่เกมการเมือง.....ฮ่วย!
อีกกลยุทธ์ในการดึงพระองค์ลงมาสู่เกมการเมือง.....ฮ่วย!
Rosy- จำนวนข้อความ : 49
Registration date : 19/04/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
MI-6 Tue Apr 20, 2010 8:01 am
ที่ควรไม่ทำ ที่ทำไม่ควร ได้แก่คนในสังคมของเราในยามนี้แหละ
คิดดูว่า เคยเป็นนายก ทำพินาศมาแค่ไหนปี ๔๐ ยังจำได้ไหม ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เราประกาศลดค่าเงินบาท คนไทยจนทันตาเห็น แต่มีเหลือบฝูงใหญ่คงจะรวยทันตาเห็น แต่ว่า สิบสามปีก็ยังไม่สาย เพียงแต่กรรมเวรเดินทางช้าไปหน่อย เหลือบบางตัวแปลงร่างเป็นกระหัง บินไปบินมา แต่ก็เหมือนกับ กรรมมันยังเกาะติดกับคนในแผ่นดินไทยมาด้วย
พอเห็นหน้า คนที่เขาบอกว่า ขงเบ้งแห่ง กองทัพ ออกมาพ่นพิษ รู้สึก หนาวทุกที
เพราะตั้งแต่ปี ๔๐ เราก็เริ่มนับวันรอให้ประเทศฟื้น เพราะตอนนั้นมีอาการหนักมาก รอมาจนปี ๕๓ ปรากฎว่า มีหนักกว่าเสียอีก อะไรมันจะซ้ำเติมขนาดนั้น
อีตาคนนี้แหละ ใช่ไหม ที่เคยเป็นนายก รองนายกก็เป็น แถมยังเขียนจดหมายลาออกก่อนรับตำแหน่งซะอีก (จำได้บ่ ลงวันที่ เร็วไปหนึ่งเดือน ) จะว่าแกล้งโง่ หรือ โง่จริงก็ตาม แต่มันทุเรศ หากเปรียบเป็นดารา ก็จะเป็นพวกดารารับเชิญ คือมาเล่นช่วงสั้นๆ (เล่น่ยาวจะลืมบท)
หากนับข้อดีของพี่แก มีข้อเดียว คือ แกลาออกง่ายมาก (คือไม่รู้ว่าแกรู้ตัวอยู่หรือเปล่าว่า ทำอะไรในแต่ละขณะ หรือแกกำลังคิดว่า เล่นงิ้วเรื่องสามก๊ง อยู่ ...สะกดไม่ผิด สาม ก๊ง ...)
หรือยังอุตส่าห์ภูมิใจกับฉายาขงเบ้ง โดยลืมนึกถึงตอนท้ายของขงเบ้งฉบับหลอกว้านจง (สำหรับเล่นงิ้วโดยเฉพาะ) ขงเบ้งต้องตายก่อนวัย เพราะว่า ทำให้คนตายมาก ตายเพราะต้องการอวดศักดา เอาชนะเบ้งเฮก ตายเพราะแผนการผิด ตายเพราะไม่ควรตาย หากจะนึกถึงขงเบ้งในงิ้ว ก็ควรจะนึกเพื่อสังวรได้อย่างเดียวก็คือ การสร้างกรรมเวรกับชีวิตคน สร้างให้คนทุกข์เพราะสงคราม นั่นคือกรรมหนัก ที่คนสร้างหนีไม่พ้น
คนพวกนี้เคยทำงานรับใช้ภาคราชการมามาก ราชการ มีความหมายว่าเป็นงานรับใช้แผ่นดิน พวกคุณลืมความหมาย ไปหรือเปล่า
เพราะพวกเราที่เป็นประชาชน ไม่น้อยเลยที่แม้จะมิได้รับราชการ เราไม่เคยมีโอกาสรับใช้แผ่นดินเท่ากับพวกคุณ แต่เราก็ไม่เคยเอาเปรียบประเทศชาติ และไม่เคยคิดจะทำร้ายประเทศชาติ แบบที่คนซึ่งมีอำนาจอยู่ในเวลานี้ ทั้งที่กำลังมีอยู่ และ ที่เคยได้มาในอดีต ซึ่งยังกินบุญเก่าของแผ่นดินอยู่ หากมิเคยจะสำนึก และ ละอาย เลยสักนิดเดียว
คิดดูว่า เคยเป็นนายก ทำพินาศมาแค่ไหนปี ๔๐ ยังจำได้ไหม ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เราประกาศลดค่าเงินบาท คนไทยจนทันตาเห็น แต่มีเหลือบฝูงใหญ่คงจะรวยทันตาเห็น แต่ว่า สิบสามปีก็ยังไม่สาย เพียงแต่กรรมเวรเดินทางช้าไปหน่อย เหลือบบางตัวแปลงร่างเป็นกระหัง บินไปบินมา แต่ก็เหมือนกับ กรรมมันยังเกาะติดกับคนในแผ่นดินไทยมาด้วย
พอเห็นหน้า คนที่เขาบอกว่า ขงเบ้งแห่ง กองทัพ ออกมาพ่นพิษ รู้สึก หนาวทุกที
เพราะตั้งแต่ปี ๔๐ เราก็เริ่มนับวันรอให้ประเทศฟื้น เพราะตอนนั้นมีอาการหนักมาก รอมาจนปี ๕๓ ปรากฎว่า มีหนักกว่าเสียอีก อะไรมันจะซ้ำเติมขนาดนั้น
อีตาคนนี้แหละ ใช่ไหม ที่เคยเป็นนายก รองนายกก็เป็น แถมยังเขียนจดหมายลาออกก่อนรับตำแหน่งซะอีก (จำได้บ่ ลงวันที่ เร็วไปหนึ่งเดือน ) จะว่าแกล้งโง่ หรือ โง่จริงก็ตาม แต่มันทุเรศ หากเปรียบเป็นดารา ก็จะเป็นพวกดารารับเชิญ คือมาเล่นช่วงสั้นๆ (เล่น่ยาวจะลืมบท)
หากนับข้อดีของพี่แก มีข้อเดียว คือ แกลาออกง่ายมาก (คือไม่รู้ว่าแกรู้ตัวอยู่หรือเปล่าว่า ทำอะไรในแต่ละขณะ หรือแกกำลังคิดว่า เล่นงิ้วเรื่องสามก๊ง อยู่ ...สะกดไม่ผิด สาม ก๊ง ...)
หรือยังอุตส่าห์ภูมิใจกับฉายาขงเบ้ง โดยลืมนึกถึงตอนท้ายของขงเบ้งฉบับหลอกว้านจง (สำหรับเล่นงิ้วโดยเฉพาะ) ขงเบ้งต้องตายก่อนวัย เพราะว่า ทำให้คนตายมาก ตายเพราะต้องการอวดศักดา เอาชนะเบ้งเฮก ตายเพราะแผนการผิด ตายเพราะไม่ควรตาย หากจะนึกถึงขงเบ้งในงิ้ว ก็ควรจะนึกเพื่อสังวรได้อย่างเดียวก็คือ การสร้างกรรมเวรกับชีวิตคน สร้างให้คนทุกข์เพราะสงคราม นั่นคือกรรมหนัก ที่คนสร้างหนีไม่พ้น
คนพวกนี้เคยทำงานรับใช้ภาคราชการมามาก ราชการ มีความหมายว่าเป็นงานรับใช้แผ่นดิน พวกคุณลืมความหมาย ไปหรือเปล่า
เพราะพวกเราที่เป็นประชาชน ไม่น้อยเลยที่แม้จะมิได้รับราชการ เราไม่เคยมีโอกาสรับใช้แผ่นดินเท่ากับพวกคุณ แต่เราก็ไม่เคยเอาเปรียบประเทศชาติ และไม่เคยคิดจะทำร้ายประเทศชาติ แบบที่คนซึ่งมีอำนาจอยู่ในเวลานี้ ทั้งที่กำลังมีอยู่ และ ที่เคยได้มาในอดีต ซึ่งยังกินบุญเก่าของแผ่นดินอยู่ หากมิเคยจะสำนึก และ ละอาย เลยสักนิดเดียว
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
sunny Tue Apr 20, 2010 8:41 am
เด็กจิ๋วออกโรงป้องนาย ยันไม่เคยพูดว่าจะขอเข้าเฝ้า เพียงแต่จะขอพึ่งพระบารมี จวกหากสังคมต้องการทำร้ายใคร จะนำเรื่องไม่จงรักภักดีมาเล่นงาน เผยเตรียมทำซีดีการให้สัมภาษณ์แจกทุกคน...
19 เม.ย. พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีข่าวว่าพล.อ.ชวลิต ระบุว่า จะทำเรื่องขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พล.อ.ชวลิตไม่ได้ระบุว่าจะทำหนังสือขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ตอนช่วงท้ายมีผู้สื่อข่าวถามพล.อ.ชวลิตว่า เรื่องนี้จะทำหนังสือถึงสำนักพระราชวังหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ชวลิตไม่ได้ตอบ และเดินเลี่ยงออกไป พอข่าวออกมาแบบนี้ก็รู้สึกตกใจว่า ข่าวมันทำไมไปแบบนี้ ตนขอยืนยันว่าพล.อ.ชวลิต ไม่เคยระบุว่าจะต้องทำเรื่องขอเข้าเฝ้าเลย เพียงแต่บอกว่าจะขอพึ่งพระบารมีพระองค์ท่าน แต่ไม่ได้จะไปขอเข้าเฝ้า
“พล.อ.ชวลิต ท่านก็ไม่สบายใจที่สังคมมันตีกลับมาแบบนี้ ท่านแค่พูดว่าจะขอพระพึ่งพระบารมี แต่ข่าวไปออกว่าจะทำเรื่องขอเข้าเฝ้า ถือเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และศอฉ.ก็เอามาบิดเบือนไปอีก ยืนยันท่านไม่ได้พูดว่าจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนคงต้องนำเทปที่ท่านพูดมาแกะให้ละเอียดก็จะทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคม พล.อ.ชวลิต จึงสั่งให้ทีมงานเตรียมทำวีซีดีที่ท่านให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ออกมาแจกจ่ายให้กับสังคมได้ทราบถึงข้อเท็จจิงในเรื่องดังกล่าว” พล.ท.พิรัชกล่าว
เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงข่าวตอบโต้เรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) พล.ท.พิรัช กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นแบบนี้ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป แต่พล.อ.ชวลิตคงไม่ต้องไปทำความเข้าใจ แต่อาจจะเอาซีดีที่ทำ ไปแจกให้พรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้ตนทราบว่าสังคมไม่สบายใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสังคมตอนนี้หากต้องการจะทำร้ายผู้หลักผู้ใหญ่หรือใครก็ตาม ก็จะต้องนำเรื่องความไม่จงรักภักดีมาทำลายกัน เพราะเรื่องนี้จะทำให้คนเสียหายได้เร็วที่สุด ถือเป็นวิธีการทำลายทางการเมือง ส่วนจะต้องให้พล.อ.ชวลิตออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวอีกหรือไม่ พล.ท.พิรัชกล่าวว่า คงไม่ต้องออกมาชี้แจง แต่จะทำซีดีแจก
http://www.thairath.co.th/content/pol/77816
19 เม.ย. พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีข่าวว่าพล.อ.ชวลิต ระบุว่า จะทำเรื่องขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พล.อ.ชวลิตไม่ได้ระบุว่าจะทำหนังสือขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ตอนช่วงท้ายมีผู้สื่อข่าวถามพล.อ.ชวลิตว่า เรื่องนี้จะทำหนังสือถึงสำนักพระราชวังหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ชวลิตไม่ได้ตอบ และเดินเลี่ยงออกไป พอข่าวออกมาแบบนี้ก็รู้สึกตกใจว่า ข่าวมันทำไมไปแบบนี้ ตนขอยืนยันว่าพล.อ.ชวลิต ไม่เคยระบุว่าจะต้องทำเรื่องขอเข้าเฝ้าเลย เพียงแต่บอกว่าจะขอพึ่งพระบารมีพระองค์ท่าน แต่ไม่ได้จะไปขอเข้าเฝ้า
“พล.อ.ชวลิต ท่านก็ไม่สบายใจที่สังคมมันตีกลับมาแบบนี้ ท่านแค่พูดว่าจะขอพระพึ่งพระบารมี แต่ข่าวไปออกว่าจะทำเรื่องขอเข้าเฝ้า ถือเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และศอฉ.ก็เอามาบิดเบือนไปอีก ยืนยันท่านไม่ได้พูดว่าจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนคงต้องนำเทปที่ท่านพูดมาแกะให้ละเอียดก็จะทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคม พล.อ.ชวลิต จึงสั่งให้ทีมงานเตรียมทำวีซีดีที่ท่านให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ออกมาแจกจ่ายให้กับสังคมได้ทราบถึงข้อเท็จจิงในเรื่องดังกล่าว” พล.ท.พิรัชกล่าว
เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงข่าวตอบโต้เรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) พล.ท.พิรัช กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นแบบนี้ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป แต่พล.อ.ชวลิตคงไม่ต้องไปทำความเข้าใจ แต่อาจจะเอาซีดีที่ทำ ไปแจกให้พรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้ตนทราบว่าสังคมไม่สบายใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสังคมตอนนี้หากต้องการจะทำร้ายผู้หลักผู้ใหญ่หรือใครก็ตาม ก็จะต้องนำเรื่องความไม่จงรักภักดีมาทำลายกัน เพราะเรื่องนี้จะทำให้คนเสียหายได้เร็วที่สุด ถือเป็นวิธีการทำลายทางการเมือง ส่วนจะต้องให้พล.อ.ชวลิตออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวอีกหรือไม่ พล.ท.พิรัชกล่าวว่า คงไม่ต้องออกมาชี้แจง แต่จะทำซีดีแจก
http://www.thairath.co.th/content/pol/77816
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
3มิติ Tue Apr 20, 2010 8:57 am
พวกฟายเหลืองขอร้อง...อย่าแถ
สองมาตรฐานนี่หว่า ทีพวกฟายเหลืองทำได้ไม่ผิด ไม่ดึงฟ้าต่ำนะ
ดูผลงานที่ทำไว้ซะมั่ง ไอ้พวกความจำเสื่อม สาวกศาสดาลิ้ม
เวลา 14.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมศรีพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และเครือข่ายสมัชชาประชาชน จ.นครราชสีมา กว่า 20 คน ร่วมกันออกแถลงการณ์สนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แทนการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยนายไชยวัฒน์กล่าวว่า ในประเทศต่างๆ ที่มีการพัฒนาประชาธิปไตย อาจมีปัญหาความไม่ปกติของบ้านเมืองเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องนำหลักความมั่นคงของชาติและหลักความปลอดภัยของประชาชนมาใช้ ดังนั้น การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล มิใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นรัฐบาลที่มาจากความยินยอมพร้อมใจของประชาชน หน้าที่หลัก 3 ประการของรัฐบาลเฉพาะกาลได้แก่ การแก้ปัญหาความแตกแยก การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการรักษาความมั่นคงของชาติ ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ จะมีการร่วมหารือกันระหว่างเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง เครือข่ายฟื้นฟูชาติและประชาธิปไตย และเครือข่ายภาคี " เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอให้มีการจัดตั้งรัฐบาล " เฉพาะในวันที่ 9 ธ.ค. 51
สองมาตรฐานนี่หว่า ทีพวกฟายเหลืองทำได้ไม่ผิด ไม่ดึงฟ้าต่ำนะ
ดูผลงานที่ทำไว้ซะมั่ง ไอ้พวกความจำเสื่อม สาวกศาสดาลิ้ม
3มิติ- จำนวนข้อความ : 56
Registration date : 01/12/2009
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
MI-6 Tue Apr 20, 2010 9:41 am
สงสัยสามมิติจะน้อยไป ต้องเพิ่มอีกหลายมิติ
ตราบใดที่โลกนี้ไม่ได้มีแค่สองสี เมื่อไม่ชอบสีแดง ก็เลยบอกว่าต้องเป็นสีเหลือง
หากคิดได้แค่นี้คงลำบาก
และ การตัดสินใจที่จะเลือกทำสิ่งใดก็ตาม ควรอยู่บนหลักง่ายๆ คือ ถูกต้อง ชอบธรรมหรือไม่
เช่น คนชอบแซงคิว ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ถูก ยังทำ เพราะเหตุผลว่า คนอื่นทำ จะได้ไม่เสียเปรียบที่จะต้องทำผิดเหมือนกัน
มองอีกมุม คนที่ทำความดี โดยไม่หวังผล แต่ไม่เห็นมีคนทำบ้าง ตามเหตุผลเดียวกับที่อ้าง ตอนที่คิดจะทำผิด
เรื่องสองมาตรฐาน นั้นเชยบรม โคตรงี่เง่าอีกต่างหาก ขยันพูดกันเสียจริง
หากจะอ้างสองมาตรฐาน ต้องอ้าง เรื่องการทำความดีด้วย อย่ามั่วนิ่มตอนจะทำชั่วเท่านั้น
ตราบใดที่โลกนี้ไม่ได้มีแค่สองสี เมื่อไม่ชอบสีแดง ก็เลยบอกว่าต้องเป็นสีเหลือง
หากคิดได้แค่นี้คงลำบาก
และ การตัดสินใจที่จะเลือกทำสิ่งใดก็ตาม ควรอยู่บนหลักง่ายๆ คือ ถูกต้อง ชอบธรรมหรือไม่
เช่น คนชอบแซงคิว ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ถูก ยังทำ เพราะเหตุผลว่า คนอื่นทำ จะได้ไม่เสียเปรียบที่จะต้องทำผิดเหมือนกัน
มองอีกมุม คนที่ทำความดี โดยไม่หวังผล แต่ไม่เห็นมีคนทำบ้าง ตามเหตุผลเดียวกับที่อ้าง ตอนที่คิดจะทำผิด
เรื่องสองมาตรฐาน นั้นเชยบรม โคตรงี่เง่าอีกต่างหาก ขยันพูดกันเสียจริง
หากจะอ้างสองมาตรฐาน ต้องอ้าง เรื่องการทำความดีด้วย อย่ามั่วนิ่มตอนจะทำชั่วเท่านั้น
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
Meo Tue Apr 20, 2010 10:39 am
คมชัดลึก : การออกมาของอดีต 2 นายกรัฐมนตรี อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่สังกัดพรรคเพื่อไทยออกมาเสนอข้อเรียกร้องเมื่อวันที่ 19 เมษายน ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามการอยู่นิ่งๆ ไม่ยุ่งไม่เกี่ยว ไม่ให้การสนับสนุนคนเสื้อแดง น่าจะทำให้สถานการณ์ค่อยๆ ลดความร้อนแรงลงเสียมากกว่า
คนหนึ่งทำราวกับเป็นแกนนำคนเสื้อแดงเสียเอง อุตส่าห์ยกข้อเรียกร้อง 5 ข้อ สรุปได้ใจความก็คือให้รัฐบาลยุบสภา พร้อมยัดเยียดข้อหาฆ่าประชาชนอีกกระทง
ขณะที่อีกคนเป็นอดีตนายทหารระดับสูง ได้รับพระราชทานเหรียญชั้นสูง แต่กลับพยายามขอเข้าเฝ้าฯ อ้างว่า ในวันสองวันนี้จะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
และยังมีข้อความอีกหลายประการที่คอลัมน์นี้ไม่อาจนำมาแสดงนำมาเสนอ เพราะเกรงว่าจะมีการเข้าใจไปในทิศทางที่ พล.อ.ชวลิต พยายามนำเสนอ หรืออาจเข้าไปถูกใจตามที่ พล.อ.ชวลิตพูดก็อาจเกิดเหตุได้เหมือนกัน
เพราะสิ่งที่ พล.อ.ชวลิต กำลังทำ กำลังเรียกร้องอยู่นั้น สุ่มเสี่ยง และแหลมคมอย่างยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
จริงอยู่ วิกฤติที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ก็คือสถานการณ์การชุมนุม เสื้อแดงบอก 2 วันจบ เสื้อหลายสีให้เวลา 7 วัน
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลและกองทัพได้ยกระดับการชุมนุมเสื้อแดงเป็นการชุมนุมที่มีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ โดยเน้นไปที่กลุ่มชายเสื้อดำผ้าพันคอแดงที่มุ่งสังหารนายทหาร และคนเสื้อแดงในค่ำคืนวันที่ 10 เมษายน และเตรียมขอคืนพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์
สถานการณ์เช่นนี้มีผลต่อผู้ชุมนุมโดยตรง เพราะเป็นเหตุให้กองทัพติดอาวุธเพื่อป้องกันตนเอง และเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย เสื้อแดงไม่อาจเข้าถนนสีลม และน่าเชื่อว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวออกจากสี่แยกราชประสงค์ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันก็รับรู้ด้วยว่า เมื่อท่าทีของกองทัพที่จัดกำลังพร้อมอาวุธไว้บนตึกสูงรายรอบผู้ชุมนุม รวมทั้งวางกำลังทหารติดอาวุธที่ถนนสีลมก็รับรู้ว่างานนี้ "ทหารเอาจริง"
"กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" ที่ อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดง ที่เคยประกาศว่า จะมาช่วยคนเสื้อแดงชนกับทหารนั้น น่าเชื่อว่า เมื่อแสงแดดสาดส่องเห็นหน้าค่าตากันชัดเจนก็คงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หรือหากมาอีกคราวนี้ คงจะยิงได้ยิงเอาอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว !
เสื้อแดงกำลังเข้าตาจน
สมชายบอกว่า สถานการณ์มาถึงวันนี้ถ้าหากตนเป็นนายกฯ ก็คงจะตัดสินใจลาออก หรือยุบสภาไปแล้ว ขณะที่ในความเป็นจริง เมื่อครั้งพันธมิตรยึดสนามบิน สมชายก็สั่ง พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.สลายการชุมนุม แต่ขอคำสั่งที่ชัดเจน สมชายกลับให้ตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณา แต่แนวโน้มของคณะกรรมการกลับปฏิเสธซ้ำยังไปบีบสมชาย จนขณะนั้น สมชายเดินทางไปเปรู ต้องบินกลับมาด้วยการให้เครื่องไปลงที่ จ.เชียงใหม่
ไม่มีการยุบสภา หรือลาออก !
เหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนมีคนเจ็บคนตาย ก็เช่นกัน สมชาย ยืนยันต่อ ป.ป.ช.ว่าไม่ได้สั่ง พล.อ.ชวลิตก็บอกว่า ไม่ได้สั่งแบบนั้น สุดท้าย พล.ต.ท.สุชาติ ในฐานะคุมตำรวจก็โดนไปตามระเบียบ
แล้ววันนี้ ทั้งสองอดีตนายกฯ กลับมาเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา...จะไปขอเข้าเฝ้าฯ เหมือนกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ทั้งที่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬนั้น ใครก็รู้ว่า พล.อ.ชวลิต มีส่วนมากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกันใครก็รู้ว่า แนวคิด "สภาเปรซิเดียม" ที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร แฉกลางสภานั้นเป็นแนวคิดฝังใจของ พล.อ.ชวลิต
นี่ยังไม่นับข้อเคลือบแคลงสงสัยเหตุปะทะกันระหว่างเสื้อแดงกับทหารเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่หลายคนข้องใจว่า นั่นเป็นฝีมือทหารพราน หรืออดีตทหารพราน ที่ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ก่อตั้งหน่วยและจนทุกวันนี้ เหล่านักรบดำก็ยังเทิดทูน พล.อ.ชวลิตอยู่ใช่หรือไม่
ทั้งสองถึงจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งสองก็น่าจะรู้ดีว่า ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่สังคมไทยให้ความเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ภูมิหลังที่ถูกบันทึกเอาไว้นั้น ควรแล้วหรือที่ดึงดันเดินหมากนี้
ทั้งคู่ต่างก็ขึ้นเวทีเสื้อแดง ชื่นชมการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ครั้นเมื่อถึงวันหนึ่งที่รัฐบาลกับกองทัพผนึกแน่น และเตรียมจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ก็อาจจะมองว่า หนทางนี้เป็นหาทางเดียวที่จะรอด
แต่แนวทางที่ พล.อ.ชวลิต ที่จะไปขอเข้าเฝ้าฯ โดยที่ตนและสมชายก็ยังสามารถแก้ปัญหาเองได้ ด้วยการเรียกร้องให้คนเสื้อแดงปฏิบัติตามกฎหมาย คำนึงถึงความเสียหายของชาติบ้านเมือง แต่กลับเลือกเดินตามแนวทางเสื้อแดง
หนักข้อก็คือว่า หากไม่มีข้อยุติก็อ้างว่าจะเกิดความเสียหาย สูญเสียเลือดเนื้อ
เสื้อแดงเอาเศรษฐกิจของประเทศเป็นตัวประกัน
แต่ บิ๊กจิ๋ว กลับกล้าพูดว่า ถ้าคำร้องขอถูกเพิกเฉย ก็จะเกิดความสูญเสีย ราวกับว่าชีวิตพี่น้องที่ชุมนุมไล่รัฐบาลเป็นตัวประกัน
จะว่าไปหากนับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬแล้วจนถึงวันนี้ พล.อ.ชวลิตผ่านเหตุการณ์นองเลือดในบ้านเรา 3 ครั้งแล้ว (อีก 2 คือ 7 ตุลาคม 2551 และ 10 เมษายน 2553)
ส่วน สมชาย แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ผ่านเหตุนองเลือดมาแล้ว 2 ครั้ง แม้ครั้งหลังจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ก็อยู่ในฐานะผู้สนับสนุนการชุมนุมของคนเสื้อแดง
แทนที่วันนี้ทั้งสองคนจะได้คิด ปลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หันหน้าเข้าวัด อยู่กับบ้านเลี้ยงหลานเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่กลับออกมาเคลื่อนไหวในแนวทางที่ไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองสงบเลยแม้แน่น้อย
เอาเถอะ ! ถึงจะไม่สงสัยในเบื้องหลัง แต่ก็ยังอยากถามว่า ที่ทำอยู่นั่นเรียกว่าเพื่อบ้านเพื่อเมืองแล้วหรือ ?
สมถวิล เทพสวัสดิ์ / ณยา ใจกาวัง
Meo- จำนวนข้อความ : 64
Registration date : 13/10/2008
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
Rosy Tue Apr 20, 2010 10:52 am
3มิติ พิมพ์ว่า:พวกฟายเหลืองขอร้อง...อย่าแถ
สองมาตรฐานนี่หว่า ทีพวกฟายเหลืองทำได้ไม่ผิด ไม่ดึงฟ้าต่ำนะ
ดูผลงานที่ทำไว้ซะมั่ง ไอ้พวกความจำเสื่อม สาวกศาสดาลิ้ม
เวลา 14.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมศรีพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และเครือข่ายสมัชชาประชาชน จ.นครราชสีมา กว่า 20 คน ร่วมกันออกแถลงการณ์สนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แทนการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยนายไชยวัฒน์กล่าวว่า ในประเทศต่างๆ ที่มีการพัฒนาประชาธิปไตย อาจมีปัญหาความไม่ปกติของบ้านเมืองเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องนำหลักความมั่นคงของชาติและหลักความปลอดภัยของประชาชนมาใช้ ดังนั้น การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล มิใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นรัฐบาลที่มาจากความยินยอมพร้อมใจของประชาชน หน้าที่หลัก 3 ประการของรัฐบาลเฉพาะกาลได้แก่ การแก้ปัญหาความแตกแยก การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการรักษาความมั่นคงของชาติ ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ จะมีการร่วมหารือกันระหว่างเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง เครือข่ายฟื้นฟูชาติและประชาธิปไตย และเครือข่ายภาคี " เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอให้มีการจัดตั้งรัฐบาล " เฉพาะในวันที่ 9 ธ.ค. 51
แหม่ๆๆๆ 3 มิติ ตรงไหนที่บอกว่าเป็นเหลือง เขาเว้ากันน้ำหมากกระจายในเวบนี้ว่า "แดงกับเหลือง" ก็ วรนุส พอๆ กันน่ะแหล่ะ (แกนนำนะ ประชาชน ที่ไปร่วมด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยว) ที่ยกมาอ้างข้างบนน่ะ นั่นก็ดึงฟ้าต่ำเหมือนกัน วัตถุประสงค์เดียวกัน อย่างนี้เขาเรียกว่าเลือด (สีแดง) เข้าตา ระวังเลือดตากระเด็น อ่านไม่ศัพท์ ก็อย่า เหวง ครับพี่น้อง
ระวังฟายธนู หน่อยนะ มันดุไช่ย่อย อย่าล้อเล่น
สงสัยตั้งใจดึงฟ้าต่ำจริง comment ตรงใจดำนิ๊ดส์ส์ เดียว มันเจ็บจี๊ดๆๆ อ่ะจิ่
Rosy- จำนวนข้อความ : 49
Registration date : 19/04/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
satan_baby Thu Apr 22, 2010 10:25 pm
วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 16:52 น. ข่าวสดออนไลน์
"จิ๋ว" แถลงการณ์แจงกรณีขอเข้าเฝ้าฯ
ปัดไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเจ้าหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมือง ใจความว่ากระผมขอย้ำว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต และไม่เห็นประชาธิปไตยในระบอบไหนที่จะดีสำหรับเมืองไทยเกินกว่าระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงอยู่นอกการเมือง แต่ทรงอยู่เพื่อปกเกล้าประชาธิปไตย ทรงมีคุณูปการต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ประเทศไทยรักษาเอกราชบ้านเมืองอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และยามใดที่ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบเผด็จการ มีฝ่ายใดที่ได้อำนาจ และใช้อำนาจจนก่อความเดือดร้อนเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน ท่านก็ทรงคานการใช้อำนาจเช่นนั้น ดังเช่นในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่พระมหากษัตริย์ทรงทำให้การเมืองถูกต้องมิใช่หรือ
นอกจากนั้นพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสถาบันแห่งความยุติธรรมทางการเมือง ทรงยุติความขัดแย้ง นำประเทศออกจากวิกฤตมาได้โดยตลอด ดังที่เคยรับสั่งให้พล.อ.สุจินดา คราประยูร และพล.ต จำลอง ศรีเมือง เข้าเฝ้าฯพร้อมกัน และทรงตรัสให้ทังสองฝ่ายร่วมกันยุติวิกฤตการณ์ ถ้าไม่มีบทบาทของพระมหากษัตริย์เช่นนั้นแล้ว บ้านเมืองคงได้พินาศย่อยยับไปแล้ว เช่นนี้จะไม่ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในยามวิกฤตได้อย่างไร ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยเรียกร้องรัฐบาลพระราชทาน ตามมาตรา 7 และพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 7 ไม่ได้บัญญัติไว้ให้อำนาจพระมหากษัตริย์ในการพระราชทานรัฐบาล แต่การที่กระผมได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณฯพระบารมีปกเกล้าฯให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยที่ยังไม่ได้มีพระราชวินิจฉัยใดๆทั้งสิ้นว่าเป็นเช่นไร แล้วทำไมจึงมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กระผมก่อน ซึ่งมิถือเป็นการละเมิดพระบรมราชวินิจฉัย และพระราชอำนาจหรือ
พล.อ.ชวลิต ระบุอีกว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เคยเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เมื่อครั้งซาวเสียงผู้ควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมกับนายสมัคร สุนทรเวช แต่ต่อมาก็ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตามพระราชดำรัส ”รู้รักสามัคคี” และต่อมายังได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่าไม่ได้เคยเสนอรัฐบาลแห่งชาติ ทำให้เห็นว่าท่านไม่มีจุดยืน เพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ถือเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ครับ ท่านสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้การทรงรับฎีกาจากราษฎร ถือเป็นธรรมเนียมอันมีมายาวนานของพระมหากษัตริย์ไทย และการถวายฎีกาเป็นเสรีภาพของประชาราษฎรตลอดมา ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงจนถึงปัจจุบัน เป็นสัมพันธภาพระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ และพสกนิกรของพระองค์ที่ดีงามสูงส่งตลอดมาสะท้อนภาพถึงทศพิธราชธรรมของสถาบันพระมหากษัตริย์ และสะท้อนภาพความจงรักภักดีอย่างยิ่งของประชาราษฎร
การขอพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลขอพระบารมีปกเกล้าฯต่อปวงชนชาวไทย มิให้ถูกเข่นฆ่าโดยทหารบางคนในกองทัพ โดยคำสั่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมของรัฐบาลนั้น มิได้ตีตนไปก่อนไข้แต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ทหารบางคนโดยคำสั่งของรัฐบาล ได้เกิดการเข่นฆ่าประชาชนแล้วนับสิบๆศพ และด้วยคำสั่งรัฐบาลที่ผิดนี้ จึงเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิตประมาณ 5-6 ศพ และบาดเจ็บทั้งสิ้นกว่า 800 คน ซึ่งขัดต่อพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ในฐานะพระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ และองค์รัฏฐาธิปัตย์ และจอมทัพไทย ที่ทั้งรัฐบาลและทหารจะต้องขึ้นต่อพระองค์ และเมื่อมีการบาดเจ็บล้มตายเสียเลือดเนื้อแล้ว รัฐบาลยังไม่หยุด ยังจะมีการเดินหน้าเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนต่อไปอีก กระผมจึงไม่มีทางเลือก เพราะเห็นว่าไม่มีสถาบันใดอีกแล้ว ที่จะสามารถหยุดยั้งได้ นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่ทรงความยุติธรรมทางการเมืองเพียงสถาบันเดียวเท่านั้น และจะต้องยุติยับยั้งให้ทันต่อสถานการณ์ก่อนจะสายเกินการณ์ กระผมจึงตัดสินใจของพระบารมีปกเกล้าฯให้แก่ประชาชนดังกล่าว อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และไม่มีทางเลือกใดทั้งสิ้น ใครคือผู้รับผิดชอบและใครกันแน่ที่ไม่รับผิดชอบ ใครผิดใครถูก ลองคิดดูด้วยจิตใจที่เที่ยงธรรมและมีคุณธรรม อย่ายึดแต่หลักนิติรัฐ แต่ไม่มีหลักนิติธรรม หรือจงถือหลักธรรมเป็นอำนาจ อย่าถืออำนาจเป็นธรรม และขอยืนยันว่ากระผมเป็นหัวหน้าขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ เพื่อต่อสู้เอาชนะขบวนการการเผด็จการรัฐสภา เผด็จการรัฐประหาร และเผด็จการทุกชนิด มิใช่หัวหน้าผู้ก่อการร้ายตามที่มีผู้ป้ายสีไว้แต่ประการใดทั้งสิ้น
"จิ๋ว" แถลงการณ์แจงกรณีขอเข้าเฝ้าฯ
ปัดไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเจ้าหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมือง ใจความว่ากระผมขอย้ำว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต และไม่เห็นประชาธิปไตยในระบอบไหนที่จะดีสำหรับเมืองไทยเกินกว่าระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงอยู่นอกการเมือง แต่ทรงอยู่เพื่อปกเกล้าประชาธิปไตย ทรงมีคุณูปการต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ประเทศไทยรักษาเอกราชบ้านเมืองอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และยามใดที่ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบเผด็จการ มีฝ่ายใดที่ได้อำนาจ และใช้อำนาจจนก่อความเดือดร้อนเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน ท่านก็ทรงคานการใช้อำนาจเช่นนั้น ดังเช่นในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่พระมหากษัตริย์ทรงทำให้การเมืองถูกต้องมิใช่หรือ
นอกจากนั้นพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสถาบันแห่งความยุติธรรมทางการเมือง ทรงยุติความขัดแย้ง นำประเทศออกจากวิกฤตมาได้โดยตลอด ดังที่เคยรับสั่งให้พล.อ.สุจินดา คราประยูร และพล.ต จำลอง ศรีเมือง เข้าเฝ้าฯพร้อมกัน และทรงตรัสให้ทังสองฝ่ายร่วมกันยุติวิกฤตการณ์ ถ้าไม่มีบทบาทของพระมหากษัตริย์เช่นนั้นแล้ว บ้านเมืองคงได้พินาศย่อยยับไปแล้ว เช่นนี้จะไม่ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในยามวิกฤตได้อย่างไร ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยเรียกร้องรัฐบาลพระราชทาน ตามมาตรา 7 และพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 7 ไม่ได้บัญญัติไว้ให้อำนาจพระมหากษัตริย์ในการพระราชทานรัฐบาล แต่การที่กระผมได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณฯพระบารมีปกเกล้าฯให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยที่ยังไม่ได้มีพระราชวินิจฉัยใดๆทั้งสิ้นว่าเป็นเช่นไร แล้วทำไมจึงมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กระผมก่อน ซึ่งมิถือเป็นการละเมิดพระบรมราชวินิจฉัย และพระราชอำนาจหรือ
พล.อ.ชวลิต ระบุอีกว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เคยเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เมื่อครั้งซาวเสียงผู้ควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมกับนายสมัคร สุนทรเวช แต่ต่อมาก็ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตามพระราชดำรัส ”รู้รักสามัคคี” และต่อมายังได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่าไม่ได้เคยเสนอรัฐบาลแห่งชาติ ทำให้เห็นว่าท่านไม่มีจุดยืน เพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ถือเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ครับ ท่านสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้การทรงรับฎีกาจากราษฎร ถือเป็นธรรมเนียมอันมีมายาวนานของพระมหากษัตริย์ไทย และการถวายฎีกาเป็นเสรีภาพของประชาราษฎรตลอดมา ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงจนถึงปัจจุบัน เป็นสัมพันธภาพระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ และพสกนิกรของพระองค์ที่ดีงามสูงส่งตลอดมาสะท้อนภาพถึงทศพิธราชธรรมของสถาบันพระมหากษัตริย์ และสะท้อนภาพความจงรักภักดีอย่างยิ่งของประชาราษฎร
การขอพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลขอพระบารมีปกเกล้าฯต่อปวงชนชาวไทย มิให้ถูกเข่นฆ่าโดยทหารบางคนในกองทัพ โดยคำสั่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมของรัฐบาลนั้น มิได้ตีตนไปก่อนไข้แต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ทหารบางคนโดยคำสั่งของรัฐบาล ได้เกิดการเข่นฆ่าประชาชนแล้วนับสิบๆศพ และด้วยคำสั่งรัฐบาลที่ผิดนี้ จึงเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิตประมาณ 5-6 ศพ และบาดเจ็บทั้งสิ้นกว่า 800 คน ซึ่งขัดต่อพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ในฐานะพระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ และองค์รัฏฐาธิปัตย์ และจอมทัพไทย ที่ทั้งรัฐบาลและทหารจะต้องขึ้นต่อพระองค์ และเมื่อมีการบาดเจ็บล้มตายเสียเลือดเนื้อแล้ว รัฐบาลยังไม่หยุด ยังจะมีการเดินหน้าเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนต่อไปอีก กระผมจึงไม่มีทางเลือก เพราะเห็นว่าไม่มีสถาบันใดอีกแล้ว ที่จะสามารถหยุดยั้งได้ นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่ทรงความยุติธรรมทางการเมืองเพียงสถาบันเดียวเท่านั้น และจะต้องยุติยับยั้งให้ทันต่อสถานการณ์ก่อนจะสายเกินการณ์ กระผมจึงตัดสินใจของพระบารมีปกเกล้าฯให้แก่ประชาชนดังกล่าว อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และไม่มีทางเลือกใดทั้งสิ้น ใครคือผู้รับผิดชอบและใครกันแน่ที่ไม่รับผิดชอบ ใครผิดใครถูก ลองคิดดูด้วยจิตใจที่เที่ยงธรรมและมีคุณธรรม อย่ายึดแต่หลักนิติรัฐ แต่ไม่มีหลักนิติธรรม หรือจงถือหลักธรรมเป็นอำนาจ อย่าถืออำนาจเป็นธรรม และขอยืนยันว่ากระผมเป็นหัวหน้าขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ เพื่อต่อสู้เอาชนะขบวนการการเผด็จการรัฐสภา เผด็จการรัฐประหาร และเผด็จการทุกชนิด มิใช่หัวหน้าผู้ก่อการร้ายตามที่มีผู้ป้ายสีไว้แต่ประการใดทั้งสิ้น
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
hacksecret Wed Apr 28, 2010 10:59 pm
http://www.oknation.net/blog/naiman/2008/12/01/entry-1
วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม 2551
"ตุลาการภิวัฒน์"....จัดการ "ชาย"แห่งนอมินีทักษิณ....ข้อเสนอ "ส.ศิวรักษ์" เป็นหมันแน่นอน...???
Posted by นายหัวไทร
ข้อเสนออาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม นักคิดนักเขียนอาวุโส
ให้นายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อขอพระราชวินิฉัยในการแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองเป็นข้อเสนอที่น่ารับฟัง
น่ารับฟังเพราะเป็นเรื่องปกติที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเข้าเฝ้าถวายรายงานเหตุบ้านการเมือง
เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะไทยเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นพระประมุข แม้พระมหากษัตริย์จะทรงอยู่เหนือการเมือง แต่เป็นพระราชอำนาจ
ของพระองค์ที่จะทรงมีพระราชวินิฉัยต่อปัญหาของบ้านเมืองและพระองค์ทรงปฏิบัติ
พระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อบ้านเมืองมาตลอด 60 กว่าปี
แต่ข้อเสนอให้ "ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ" นั้น ไม่ใช่ข้อเสนอใหม่ พ่อใหญ่จิ๋ว อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บวชอยู่เชียงใหม่ ก็เคยเสนอมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะ "รัฐบาลแห่งชาติ"เป็นเรื่องจากทุกพรรคการเมืองจะต้องมาร่วมมือกัน
จัดตั้งรัฐบาล ยิ่งข้อเสนอของ ส.ศิวรักษ์ ให้เอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรียิ่งยากเข้าไปอีก
ยากเข้าไปอีกเพราะ "นายกฯคนนอก" ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเหตุว่ารัฐธรรมนูญเขียนให้
นายกฯมาจาก ส.ส.เท่านั้น ถ้าจะเอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพื่อเปิดช่องก่อน แม้นายกฯจะเห็นด้วย แต่ต้องเสนอผ่านสภาฯอยู่ดี และพันธมิตรฯก็ค้าน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ เพราะกลัวแทรกประเด็นเพื่อ "ทักษิณ" เข้าไป แต่ถ้าเป็น
พระราชวินิฉัยของในหลวงพันธมิตรฯก็อาจจะไม่คัดค้าน แต่หมายถึงแก้เพียงประเด็นสองประเด็น
เพื่อยุติปัญหาบ้านเมืองเท่านั้น ไม่มีการแทรกประเด็นเพื่อ "คนคนเดียว"เท่านั้น
แต่นั้นเป็นเรื่องที่ต้องเสียเวลาอีกมาก และอาจจะไม่ทันต่อเหตุการณ์เสียแล้ว......???
วิกฤติการเมืองต้องแก้ด้วย "ตุลาการภิวัฒน์" ตุลาการภิวัฒน์ เคยจัดการกับการเมือง
ที่วิกฤติมาแล้วหลายครั้ง "ยุบพรรคไทยรักไทย" "จำคุกทักษิณ" "จำคุกสมัคร"
แต่วิกฤติการเมืองก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง เพราะคนสำคัญที่มีอยู่เพียงคนเดียว
ยังไม่ถูกจัดการขั้นเด็ดขาดกับคนคนเดียว "ทักษิณ ชินวัตร" แต่ "ตุลาการภิวัฒน์"
กำลังจะทำงานอีกครั้ง คดียุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคชาติไทย ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดให้หัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคมาแถลงปิดคดี ในวันที่ 2 ธันวาคม 2551
และเป็นการแถลงปิดคดีที่เกิดขึ้น หลังจาก 3 พรรคการเมืองยื่นพยานไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
และศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่า "ไม่จำเป็นแล้ว" เหตุเพราะว่า "หลักฐานเพียงพอแล้ว"
ทั้งพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย นั้นกลัวจนตัวสั้นว่าพรรคจะถูกยุบ
แต่ตอนทำผิดกฏหมาย ซื้อสิทธิจากประชาชน เพียงหวังให้ชนะการเลือกตั้งนั้น ไม่คิด
คิดแต่ให้ได้มาซึ่งอำนาจชื่อเสียงเท่านั้น พลพรรคของพลังประชาชนกลัวชนตัวสั่น
ถึงขั้นระดมคนเสื้อแดงมาชุมนุมลานคนเมือง เพื่ออะไรครับ "กดดันศาล" ไง วีระ มุสิกพงศ์
แกนนำ นปช.บอกว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน เท่ากับเป็น
"การปฏิวัติซ่อนรูป" นั้นแปลความว่าอย่างไรครับ.... แต่เชื่อเหลือเดินครับว่า หลังวันที่ 2 ธันวาคม 2551
ที่บรรดาหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น "สมชาย วงศ์สวัสดิ์-บรรหาร ศิลปอาชา" และอนงวรรณ เทพสุทิน
ไปแถลงปิดคดีในวันที่ 2 ธันวาคม แล้ว "ตุลาการภิวัฒน์" จะเริ่มต้นทำงาน และนัดอ่านคำวินิจฉัย
คดียุบพรรคทั้ง 3 ในวันที่ 3 ธันวาคม คดี "ชิมไปบ่นไป" ของอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช เคยเจอ
วิกฤติเช่นเดียวกัน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดให้นายกฯสมัครไปให้ปากคำ เช้าขึ้นมาอีกวัน ศาลนัด
อ่านคำวินิจฉัยทันที จนอดีตนายกฯสมัคร ยังตั้งตัวไม่ทัน พ้นจากเก้าอี้โดยไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว
เช่นเดียวกับนายกฯสมชาย กำลังเดินไปสู่หลุมฝังศพของตัวเองแบบไม่ตั้งเนื้อตั้งตัวเช่นกัน
นายกฯสมชาย เดินออกจากทำเนียบ ไปเอเปก กลับมาไปเชียงใหม่ ทำบุญเลี้ยงเจ้าที่ในบ้าน
สัมพเวสีไปนครพนม และไปซุกหัวอยู่กับกองกำลังเสื้อแดงแห่งอุดรธานี ของ "ขวัญชัย ไพรพนา"
และกำลังเดินลงสู่หลุมฝังศพในวันที่ 3 ธันวาคมนี้แน่นอน
หลุมฝังศพที่ตุลาการภิวัฒน์จัดการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว.....และจัดการไว้ให้กับ "บรรหาร ศิลปอาชา"
แห่งพรรคชาติไทยด้วย ชาติไทยที่ก่อวิกฤติเหตุการณ์ 6 ตุลาฯมาก่อนหน้าแล้ว...คงจำได้นะ
พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร และ พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ ทำอะไรไว้ ใครจำไม่ได้ให้กลับไป
อ่านจดหมายจากพระสุรินทร์ ที่ผมเคยนำมาเขียนไว้ดูซิ แค่นี้พอนะ....
เดี่ยวยาวไป รอลุ้น 3 ธันวาคม 2551 ดีกว่า
http://www.meeboard.com/view.asp?user=chaiyaphum&groupid=2&rid=22&qid=22
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208037
กล่าวคือ ถ้าหากย้อนกลับไปดูคำพูดของ นช.ทักษิณที่วิดีโอลิงก์กลับมาที่เวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง
ก็จะพบว่า ครั้งหนึ่ง นช.ทักษิณเคยพูดว่า วิธีที่จะทำให้เขากลับประเทศไทยได้มี 2 หนทางคือ
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับใช้พลังของมวลชน
ดังนั้น การขอเข้าเฝ้าฯ ของ พล.อ.ชวลิตจึงเป็นไปตามเกมที่พวกเขากำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ ภายหลัง พล.อ.ชวลิตเสนอแนวความคิดออกมา ทุกภาคส่วนของสังคมต่างก็พากันตำหนิ
ความเหิมเกริมในครั้งนี้(ยกเว้นกลุ่มคน เสื้อแดงแ ละพรรคเพื่อไทย) ไม่ว่าจะเป็น 3 อดีตนายกรัฐมนตรี
ของไทยอย่างนายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายอานันท์ ปันยารชุน รวมถึง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
เช่นเดียวกับนักวิชาการ เช่น รศ.ดร.ไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้ความเห็นว่า การที่ พล..อ.ชวลิต และ นายสมชาย
เสนอเรื่องขอกราบบังคมทูลเข้าเฝ้าฯ ในสถานการณ์แบบนี้ คงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร โดยเฉพาะ
ผู้ที่มีความคิดและประสบการณ์ทางการเมือง ถ้ายังจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงไม่ควรนำ
เรื่องนี้เข้าไปกราบบังคมทูล
เช่นเดียวกับ “นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์” หรือ “ส.ศิวรักษ์” ที่ให้สัมภาษณ์ “ทีวีไทย” ว่า
“คุณชวลิตต้องพูดคุยกับคุณทักษิณในเรื่องของความจงรักภักดีและให้คนเสื้อแดง
เลิกชุมนุมจะเป็นการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ”
เปิดโปง...ขบวนการ CIA ทำลายประเทศไทย
- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น
นายกรัฐมนตรีเช่นกัน นอกเหนือจากจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ CIA ของสหรัฐฯ
แล้วที่ปรึกษาคนสำคัญของ พล.อ.ชวลิต ฯ คือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เลขาธิการสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ ในห้วงปี ๒๕๒๓ - ๒๕๓๑ ในสมัยรัฐบาลของ
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีรายงานว่า น.ต.ประสงค์ ฯ เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง
ใน ทีม B (ต่อต้านสหภาพโซเวียต) ของ CIA ซึ่งอีกส่วนหนึ่งของทีมนี้คือ
หน่วยงาน Freedom House ในนิวยอร์ค
http://watch.pair.com/FreedomHouse.html
FREEDOM HOUSE A CFR FRONT
- สุลักษณ์ ศิวะรักษ์ ผู้หลบหนีออกนอกประเทศเมื่อ ต.ค.๒๕๓๔
หลังจากถูกกล่าวหาว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพในตอนต้นเดือน พ.ค. สุลักษณ์ ฯ
ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการต่อต้านในประเทศไทยได้รับเชิญเป็นกรรมการผู้หนึ่งของ
Foreign Intelligence Advisory Board
http://en.wikipedia.org/wiki/President%27s_Foreign_Intelligence_Advisory_Board
สุลักษณ์ ฯ ยังได้รับการรับรองและดูแลขณะที่อยู่ในสหรัฐฯ
โดยหน่วยงาน Asians for Democracy ซึ่งดำเนินงานโดย Elsie Bush
ผู้เป็นญาติของ George Bush สุลักษณ์ ฯ เป็นบุคลากรหลัก
สำหรับการปฏิบัติงานขององค์การ Non-Government Organizations (NGOS)
ทั้งมวลในประเทศไทยโครงสร้างการบังคับบัญชาการเคลื่อนไหวเพื่อ
ประชาธิปไตยที่เกี่ยวพันกับผู้นำเหล่านี้ มีการจัดทำ สั่งการและปฏิบัติการ
จากภายนอกประเทศหน่วยควบคุมสูงสุดของแผนการณ์คือ
AFL – CIO International Department , มูลนิธิฟอร์ด, มูลนิธิเอเซีย ที่อ้างอยู่ที่วอชิงตัน
(เป็นหน่วยงานด้านเอกสารของ CIA) และ Carnegia Endowment for Peace
(ศูนย์รับบริจาคเพื่อสันติภาพคาร์เนกี) ซึ่งทำงานโดยใกล้ชิดกับ Langley
ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติในประเทศไทย คือ Catherine Dalpino ผู้ตั้งเป็น
ศูนย์ปฏิบัติการเอเชียแปซิฟิกของมูลนิธิเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์รับบริจาคคาร์เนกี
วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม 2551
"ตุลาการภิวัฒน์"....จัดการ "ชาย"แห่งนอมินีทักษิณ....ข้อเสนอ "ส.ศิวรักษ์" เป็นหมันแน่นอน...???
Posted by นายหัวไทร
ข้อเสนออาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม นักคิดนักเขียนอาวุโส
ให้นายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อขอพระราชวินิฉัยในการแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองเป็นข้อเสนอที่น่ารับฟัง
น่ารับฟังเพราะเป็นเรื่องปกติที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเข้าเฝ้าถวายรายงานเหตุบ้านการเมือง
เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะไทยเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นพระประมุข แม้พระมหากษัตริย์จะทรงอยู่เหนือการเมือง แต่เป็นพระราชอำนาจ
ของพระองค์ที่จะทรงมีพระราชวินิฉัยต่อปัญหาของบ้านเมืองและพระองค์ทรงปฏิบัติ
พระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อบ้านเมืองมาตลอด 60 กว่าปี
แต่ข้อเสนอให้ "ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ" นั้น ไม่ใช่ข้อเสนอใหม่ พ่อใหญ่จิ๋ว อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บวชอยู่เชียงใหม่ ก็เคยเสนอมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะ "รัฐบาลแห่งชาติ"เป็นเรื่องจากทุกพรรคการเมืองจะต้องมาร่วมมือกัน
จัดตั้งรัฐบาล ยิ่งข้อเสนอของ ส.ศิวรักษ์ ให้เอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรียิ่งยากเข้าไปอีก
ยากเข้าไปอีกเพราะ "นายกฯคนนอก" ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเหตุว่ารัฐธรรมนูญเขียนให้
นายกฯมาจาก ส.ส.เท่านั้น ถ้าจะเอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพื่อเปิดช่องก่อน แม้นายกฯจะเห็นด้วย แต่ต้องเสนอผ่านสภาฯอยู่ดี และพันธมิตรฯก็ค้าน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ เพราะกลัวแทรกประเด็นเพื่อ "ทักษิณ" เข้าไป แต่ถ้าเป็น
พระราชวินิฉัยของในหลวงพันธมิตรฯก็อาจจะไม่คัดค้าน แต่หมายถึงแก้เพียงประเด็นสองประเด็น
เพื่อยุติปัญหาบ้านเมืองเท่านั้น ไม่มีการแทรกประเด็นเพื่อ "คนคนเดียว"เท่านั้น
แต่นั้นเป็นเรื่องที่ต้องเสียเวลาอีกมาก และอาจจะไม่ทันต่อเหตุการณ์เสียแล้ว......???
วิกฤติการเมืองต้องแก้ด้วย "ตุลาการภิวัฒน์" ตุลาการภิวัฒน์ เคยจัดการกับการเมือง
ที่วิกฤติมาแล้วหลายครั้ง "ยุบพรรคไทยรักไทย" "จำคุกทักษิณ" "จำคุกสมัคร"
แต่วิกฤติการเมืองก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง เพราะคนสำคัญที่มีอยู่เพียงคนเดียว
ยังไม่ถูกจัดการขั้นเด็ดขาดกับคนคนเดียว "ทักษิณ ชินวัตร" แต่ "ตุลาการภิวัฒน์"
กำลังจะทำงานอีกครั้ง คดียุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคชาติไทย ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดให้หัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคมาแถลงปิดคดี ในวันที่ 2 ธันวาคม 2551
และเป็นการแถลงปิดคดีที่เกิดขึ้น หลังจาก 3 พรรคการเมืองยื่นพยานไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
และศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่า "ไม่จำเป็นแล้ว" เหตุเพราะว่า "หลักฐานเพียงพอแล้ว"
ทั้งพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย นั้นกลัวจนตัวสั้นว่าพรรคจะถูกยุบ
แต่ตอนทำผิดกฏหมาย ซื้อสิทธิจากประชาชน เพียงหวังให้ชนะการเลือกตั้งนั้น ไม่คิด
คิดแต่ให้ได้มาซึ่งอำนาจชื่อเสียงเท่านั้น พลพรรคของพลังประชาชนกลัวชนตัวสั่น
ถึงขั้นระดมคนเสื้อแดงมาชุมนุมลานคนเมือง เพื่ออะไรครับ "กดดันศาล" ไง วีระ มุสิกพงศ์
แกนนำ นปช.บอกว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน เท่ากับเป็น
"การปฏิวัติซ่อนรูป" นั้นแปลความว่าอย่างไรครับ.... แต่เชื่อเหลือเดินครับว่า หลังวันที่ 2 ธันวาคม 2551
ที่บรรดาหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น "สมชาย วงศ์สวัสดิ์-บรรหาร ศิลปอาชา" และอนงวรรณ เทพสุทิน
ไปแถลงปิดคดีในวันที่ 2 ธันวาคม แล้ว "ตุลาการภิวัฒน์" จะเริ่มต้นทำงาน และนัดอ่านคำวินิจฉัย
คดียุบพรรคทั้ง 3 ในวันที่ 3 ธันวาคม คดี "ชิมไปบ่นไป" ของอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช เคยเจอ
วิกฤติเช่นเดียวกัน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดให้นายกฯสมัครไปให้ปากคำ เช้าขึ้นมาอีกวัน ศาลนัด
อ่านคำวินิจฉัยทันที จนอดีตนายกฯสมัคร ยังตั้งตัวไม่ทัน พ้นจากเก้าอี้โดยไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว
เช่นเดียวกับนายกฯสมชาย กำลังเดินไปสู่หลุมฝังศพของตัวเองแบบไม่ตั้งเนื้อตั้งตัวเช่นกัน
นายกฯสมชาย เดินออกจากทำเนียบ ไปเอเปก กลับมาไปเชียงใหม่ ทำบุญเลี้ยงเจ้าที่ในบ้าน
สัมพเวสีไปนครพนม และไปซุกหัวอยู่กับกองกำลังเสื้อแดงแห่งอุดรธานี ของ "ขวัญชัย ไพรพนา"
และกำลังเดินลงสู่หลุมฝังศพในวันที่ 3 ธันวาคมนี้แน่นอน
หลุมฝังศพที่ตุลาการภิวัฒน์จัดการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว.....และจัดการไว้ให้กับ "บรรหาร ศิลปอาชา"
แห่งพรรคชาติไทยด้วย ชาติไทยที่ก่อวิกฤติเหตุการณ์ 6 ตุลาฯมาก่อนหน้าแล้ว...คงจำได้นะ
พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร และ พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ ทำอะไรไว้ ใครจำไม่ได้ให้กลับไป
อ่านจดหมายจากพระสุรินทร์ ที่ผมเคยนำมาเขียนไว้ดูซิ แค่นี้พอนะ....
เดี่ยวยาวไป รอลุ้น 3 ธันวาคม 2551 ดีกว่า
http://www.meeboard.com/view.asp?user=chaiyaphum&groupid=2&rid=22&qid=22
| รุมถอนหงอก"บิ๊กจิ๋ว-สมชาย"มิบังควร ดึงฟ้าต่ำ-ทำเพื่อกลุ่มเสื้อแดง (รายงานพิเศษ) |
 |
|
  หมายเหตุ:พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เพื่อหาทางออกให้ปัญหาทางการเมืองโดยการเสนอให้นายกฯ ยุบสภา ขณะเดียวกันมีนักการเมืองอีกหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย |
กล่าวคือ ถ้าหากย้อนกลับไปดูคำพูดของ นช.ทักษิณที่วิดีโอลิงก์กลับมาที่เวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง
ก็จะพบว่า ครั้งหนึ่ง นช.ทักษิณเคยพูดว่า วิธีที่จะทำให้เขากลับประเทศไทยได้มี 2 หนทางคือ
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับใช้พลังของมวลชน
ดังนั้น การขอเข้าเฝ้าฯ ของ พล.อ.ชวลิตจึงเป็นไปตามเกมที่พวกเขากำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ ภายหลัง พล.อ.ชวลิตเสนอแนวความคิดออกมา ทุกภาคส่วนของสังคมต่างก็พากันตำหนิ
ความเหิมเกริมในครั้งนี้(ยกเว้นกลุ่มคน เสื้อแดงแ ละพรรคเพื่อไทย) ไม่ว่าจะเป็น 3 อดีตนายกรัฐมนตรี
ของไทยอย่างนายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายอานันท์ ปันยารชุน รวมถึง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
เช่นเดียวกับนักวิชาการ เช่น รศ.ดร.ไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้ความเห็นว่า การที่ พล..อ.ชวลิต และ นายสมชาย
เสนอเรื่องขอกราบบังคมทูลเข้าเฝ้าฯ ในสถานการณ์แบบนี้ คงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร โดยเฉพาะ
ผู้ที่มีความคิดและประสบการณ์ทางการเมือง ถ้ายังจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงไม่ควรนำ
เรื่องนี้เข้าไปกราบบังคมทูล
เช่นเดียวกับ “นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์” หรือ “ส.ศิวรักษ์” ที่ให้สัมภาษณ์ “ทีวีไทย” ว่า
“คุณชวลิตต้องพูดคุยกับคุณทักษิณในเรื่องของความจงรักภักดีและให้คนเสื้อแดง
เลิกชุมนุมจะเป็นการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ”
เปิดโปง...ขบวนการ CIA ทำลายประเทศไทย- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น
นายกรัฐมนตรีเช่นกัน นอกเหนือจากจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ CIA ของสหรัฐฯ
แล้วที่ปรึกษาคนสำคัญของ พล.อ.ชวลิต ฯ คือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เลขาธิการสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ ในห้วงปี ๒๕๒๓ - ๒๕๓๑ ในสมัยรัฐบาลของ
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีรายงานว่า น.ต.ประสงค์ ฯ เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง
ใน ทีม B (ต่อต้านสหภาพโซเวียต) ของ CIA ซึ่งอีกส่วนหนึ่งของทีมนี้คือ
หน่วยงาน Freedom House ในนิวยอร์ค
http://watch.pair.com/FreedomHouse.html
FREEDOM HOUSE A CFR FRONT
- สุลักษณ์ ศิวะรักษ์ ผู้หลบหนีออกนอกประเทศเมื่อ ต.ค.๒๕๓๔
หลังจากถูกกล่าวหาว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพในตอนต้นเดือน พ.ค. สุลักษณ์ ฯ
ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการต่อต้านในประเทศไทยได้รับเชิญเป็นกรรมการผู้หนึ่งของ
Foreign Intelligence Advisory Board
http://en.wikipedia.org/wiki/President%27s_Foreign_Intelligence_Advisory_Board
สุลักษณ์ ฯ ยังได้รับการรับรองและดูแลขณะที่อยู่ในสหรัฐฯ
โดยหน่วยงาน Asians for Democracy ซึ่งดำเนินงานโดย Elsie Bush
ผู้เป็นญาติของ George Bush สุลักษณ์ ฯ เป็นบุคลากรหลัก
สำหรับการปฏิบัติงานขององค์การ Non-Government Organizations (NGOS)
ทั้งมวลในประเทศไทยโครงสร้างการบังคับบัญชาการเคลื่อนไหวเพื่อ
ประชาธิปไตยที่เกี่ยวพันกับผู้นำเหล่านี้ มีการจัดทำ สั่งการและปฏิบัติการ
จากภายนอกประเทศหน่วยควบคุมสูงสุดของแผนการณ์คือ
AFL – CIO International Department , มูลนิธิฟอร์ด, มูลนิธิเอเซีย ที่อ้างอยู่ที่วอชิงตัน
(เป็นหน่วยงานด้านเอกสารของ CIA) และ Carnegia Endowment for Peace
(ศูนย์รับบริจาคเพื่อสันติภาพคาร์เนกี) ซึ่งทำงานโดยใกล้ชิดกับ Langley
ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติในประเทศไทย คือ Catherine Dalpino ผู้ตั้งเป็น
ศูนย์ปฏิบัติการเอเชียแปซิฟิกของมูลนิธิเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์รับบริจาคคาร์เนกี
hacksecret- จำนวนข้อความ : 1111
Registration date : 02/03/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
red_suit Thu Apr 29, 2010 10:14 am
โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ
1 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนไม่ปฏิบัติตาม เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
2 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนตีความเข้าตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล่ะ เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
3 ถ้าหากท่านไม่ออกมาพูดล่ะ คนจะคิดอย่างไร
กดดันทั้งหมดทั้งมวล
1 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนไม่ปฏิบัติตาม เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
2 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนตีความเข้าตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล่ะ เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
3 ถ้าหากท่านไม่ออกมาพูดล่ะ คนจะคิดอย่างไร
กดดันทั้งหมดทั้งมวล
red_suit- จำนวนข้อความ : 7
Registration date : 27/04/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
satan_baby Thu Apr 29, 2010 10:26 am
red_suit พิมพ์ว่า:โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ
1 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนไม่ปฏิบัติตาม เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
2 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนตีความเข้าตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล่ะ เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
3 ถ้าหากท่านไม่ออกมาพูดล่ะ คนจะคิดอย่างไร
กดดันทั้งหมดทั้งมวล
ถูกต้อง เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร มีแต่ผลเสียที่ตามมาทั้งนั้น
เนื่องด้วยแต่ละฝ่ายต่างอ้างสถาบันเป็นเกราะกำบังคนตน
และต่างฝ่ายต่างอ้างความชอบธรรมในการเป็นลูกของตน
บางครั้งคนเป็นพ่อหรือแม่ เห็นลูกตีกันหลายครั้ง และห้ามไม่เคยฟัง
มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องปล่อยให้มันตีกันให้หนำใจ
เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างเจ็บ และบอบช้ำ ก็จะมานั่งนึกได้ทีหลัง
ว่าไม่น่ามาตีกันเลย คุยกันดีๆซะตั้งแต่ต้นก็จบ
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: "จิ๋ว-สมชาย" ขอเฝ้าในหลวงหยุดปัญหาขัดแย้ง
dannyonline Thu Apr 29, 2010 10:46 am
เห็นด้วยครับ ถ้าต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าวมันคงจะดีกว่า อย่าให้ท่านเหนื่อยเลยsatan_baby พิมพ์ว่า:red_suit พิมพ์ว่า:โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ
1 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนไม่ปฏิบัติตาม เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
2 ถ้าหากท่านออกมาพูดแล้วคนตีความเข้าตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล่ะ เมืองไทยจะเป็นอย่างไร
3 ถ้าหากท่านไม่ออกมาพูดล่ะ คนจะคิดอย่างไร
กดดันทั้งหมดทั้งมวล
ถูกต้อง เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร มีแต่ผลเสียที่ตามมาทั้งนั้น
เนื่องด้วยแต่ละฝ่ายต่างอ้างสถาบันเป็นเกราะกำบังคนตน
และต่างฝ่ายต่างอ้างความชอบธรรมในการเป็นลูกของตน
บางครั้งคนเป็นพ่อหรือแม่ เห็นลูกตีกันหลายครั้ง และห้ามไม่เคยฟัง
มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องปล่อยให้มันตีกันให้หนำใจ
เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างเจ็บ และบอบช้ำ ก็จะมานั่งนึกได้ทีหลัง
ว่าไม่น่ามาตีกันเลย คุยกันดีๆซะตั้งแต่ต้นก็จบ
รัฐบาลก็แค่ทำตามคำเรียกร้อง แล้วมาเลือกตั้งกันใหม่ตามระบอบประชาธิปไตย
ถ้าคุณได้รับการเลือกตั้งมาไม่มีใครมาขับไล่คุณหรอก ถึงตอนนี้รัฐบาลก็เอาแต่ท่านมาอ้าง
เริ่มแรงถึงขนาดจัดทำเคลือข่ายล้มเจ้า คุณรู้มั้ยสิ่งที่คุณทำที่คุณคิดมันเหมือนคุณวางหมาก
ไว้เองว่าคุณจะทำแค่เปลี่ยนตัวละคร คุณไม่สามารถทำให้คนที่ไม่เชื่อคุณเชื่อคุณได้หรอก
ยิ่งทำยิ่งเข้าตัวมากกว่า นะ
dannyonline- จำนวนข้อความ : 33
Registration date : 28/04/2010
คือใครกันที่หมิ่นเบื่องสูง
satta Thu Apr 29, 2010 12:05 pm
แค่มีข่าวออกมาว่า จิ๋ว และสมชาย จะเข้าเฝ้า
หลายฝ่ายก็ออกมาคัดค้าน
ไม่รู้ใครมองเหมือนผมบ้างนะ ว่า ใครกันที่อ้างเสมอว่าจะปกป้องสถาบัน รัฐบาลใช่หรือไม่
ที่ออกโรงตลอดว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงบ้างล่ะที่หมิ่นสถาบัน
ถามว่าจริงๆแล้วเสื้อแดงเขาเรียกร้องอะไร
ให้รัฐบาล ยุบสภา คืนอำนาจ มิใช่หรือ
แล้วใครหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อไหร่
หรือว่านี่เองที่เขาเรียกว่าดึงฟ้าลงต่ำ
เอาสถาบันมาปกป้องตนเอง เพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อไป
พอมีคนบอกว่าจะทูลขอเพื่อที่จะให้พระองค์ออกมาช่วย เหมือนขอให้พ่อช่วยห้ามที พี่จะตีน้อง น้องขอร้องมันก็ไม่ฟัง
แต่พี่ก็ออกโรง บอกน้องจะทำลายพ่อ งั้นไม่ให้น้องพบพ่อดีกว่า
นี่ไม่ใช่หรือ คือการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระองค์ ตั้งตนเป็นผู้ตัดสิน ทั้งที่จริงพ่อจะพูดอย่างไร ก็ไม่มีใครรู้ต่างก็เดาไปต่างๆนาๆ
เอาเข้าจริงๆ ใครกันแน่ที่คอยปูดแต่เรื่องล้มล้างสถาบัน ใครคนนั้นกำลังกินปูนร้อนท้องอยู่ไหม
หรือกำลังเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อให้การทำงานสำเร็จได้
แล้วให้ใครอีกหลายคน ที่บริสุทธิ์เป็นแพะรับบาปไป
หลายฝ่ายก็ออกมาคัดค้าน
ไม่รู้ใครมองเหมือนผมบ้างนะ ว่า ใครกันที่อ้างเสมอว่าจะปกป้องสถาบัน รัฐบาลใช่หรือไม่
ที่ออกโรงตลอดว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงบ้างล่ะที่หมิ่นสถาบัน
ถามว่าจริงๆแล้วเสื้อแดงเขาเรียกร้องอะไร
ให้รัฐบาล ยุบสภา คืนอำนาจ มิใช่หรือ
แล้วใครหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อไหร่
หรือว่านี่เองที่เขาเรียกว่าดึงฟ้าลงต่ำ
เอาสถาบันมาปกป้องตนเอง เพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อไป
พอมีคนบอกว่าจะทูลขอเพื่อที่จะให้พระองค์ออกมาช่วย เหมือนขอให้พ่อช่วยห้ามที พี่จะตีน้อง น้องขอร้องมันก็ไม่ฟัง
แต่พี่ก็ออกโรง บอกน้องจะทำลายพ่อ งั้นไม่ให้น้องพบพ่อดีกว่า
นี่ไม่ใช่หรือ คือการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระองค์ ตั้งตนเป็นผู้ตัดสิน ทั้งที่จริงพ่อจะพูดอย่างไร ก็ไม่มีใครรู้ต่างก็เดาไปต่างๆนาๆ
เอาเข้าจริงๆ ใครกันแน่ที่คอยปูดแต่เรื่องล้มล้างสถาบัน ใครคนนั้นกำลังกินปูนร้อนท้องอยู่ไหม
หรือกำลังเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อให้การทำงานสำเร็จได้
แล้วให้ใครอีกหลายคน ที่บริสุทธิ์เป็นแพะรับบาปไป
satta- จำนวนข้อความ : 3
Registration date : 29/04/2010
Similar topics» "พระเจ้าให้ Hijack"
» กรมอุตุฯ เตือนภัย "เกตสนา" KETSANA
» "เหรียญควอนตั้ม" ทำได้ทุกอย่างจริงหรือ ?
» ภาพชุด สมรภูมิ "ศึกเขาพระวิหาร" ที่สื่อไทยไม่ได้ลงตีพิมพ์
» เขาบอกว่า คนไทยล้าหลังเพราะสิบประการนี้ ...
» กรมอุตุฯ เตือนภัย "เกตสนา" KETSANA
» "เหรียญควอนตั้ม" ทำได้ทุกอย่างจริงหรือ ?
» ภาพชุด สมรภูมิ "ศึกเขาพระวิหาร" ที่สื่อไทยไม่ได้ลงตีพิมพ์
» เขาบอกว่า คนไทยล้าหลังเพราะสิบประการนี้ ...
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ|
|
|