พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
หน้า 1 จาก 1
พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:27 am
พุทธทำนาย
พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย
"สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและในอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า
ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในผมศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น
เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมืองข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะนักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ
ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ต้องอยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง
พระธรรมจะเริ่งเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา
ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"
พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย
"สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและในอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า
ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในผมศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น
เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมืองข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะนักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ
ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ต้องอยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง
พระธรรมจะเริ่งเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา
ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"
แก้ไขล่าสุดโดย satan_baby เมื่อ Wed Jun 23, 2010 10:30 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:28 am
จักรวาลและดาวนพเคราะห์
หลวงปู่ผู้ทรงธรรมฤทธิ์เล่าให้ฟังว่า !!
ดวงอาทิตย์
เหมือนกับโลก ความจริงมันไม่มีแสง มันเป็นธาตุทั้งโลกอาทิตย์ มีผิวแข็ง มันเหมือนหินเกลี้ยง มีไอระเหยริ้ว ๆ ๆ พุ่งออกมาไกล
• ดวงอาทิตย์หมุนเหมือนลูกข่าง
• การเสียดสีของโลกอาทิตย์กับอากาศ กับกระแสไฟฟ้ากระจายออกมาจากโลกอาทิตย์
• การระเหยนั้นกลายเป็นไฟ มีแสงสว่างและมีความร้อนมาก แต่การระเหยนั้น อยู่ไกลจากโลกอาทิตย์มาก
• ถ้าจะผ่านกลุ่มการระเหยนี้เข้าผิวโลกอาทิตย์ต้องทนความร้อนประมาณ 2 ล้านองศา จึงผ่านเข้าไปได้
• โลกไม่ได้หมุนอ้อมดวงอาทิตย์ แต่หมุนอ้อมข้ามหัวโลกอาทิตย์
• ในดวงอาทิตย์ไม่มีแสงไฟเลย จะเป็นก็แต่ไอระเหยออกมา
• ไอระเหยที่ออกมารอบโลกอาทิตย์นี้เมื่อเสียดสีกับอากาศเกิดเป็นประกายให้เกิดแสงสว่าง กระจายออกมาและส่งมาัยังโลกที่เราอยู่ด้วย
• ในดวงอาทิตย์เป็นแร่ที่เป็นเชื้อเพลิง และมีแร่ชนิดหนึ่งคล้ายแมงกานีส
• ความร้อนของดวงอาทิตย์แปลกที่มันไหม้ก็จริง แต่ว่ามันสร้างตัวเองแทนที่มันจะสลายตัว
• สิ่งที่ไหลเป็นเชื้อเพลิงแล้วมันสามารถสร้างตัวเองให้เกิดขึ้นมาได้
• ความร้อนแรงของโลกอาทิตย์จะไม่มีการลดตัวลง แต่จะร้อนมากขึ้นตามลำดับ
• เมื้อใกล้จะสิ้นกัป จะมีโลกอาทิตย์ดวงที่ 2,3,4,5,6 และ 7 เกิดขึ้นตามลำดับ
• ในปัจจุบันดวงอาทิตย์ที่สองเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่ละดวงมันเกิดแล้วแต่จับก้อนและยังโตไม่พอ
• ถ้าดวงที่ 2 โตพอ จะเกิดแสงสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ดวงนี้ และดวงอาทิตย์ดวงเดิมก็จะร้อนมากขึ้น และโลกที่เราอยู่อาศัยจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อน
• ที่ดวงอาทิตย์ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่นั่น
• ฝรั่งจะสามารถไปดวงอาทิตย์ได้ และสามารถจะใช้กระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ไปทำไฟฟ้าโลกได้ แต่ฝรั่งยังทำไม่ได้.. เขาต้องได้สิ่งที่ป้องกันความร้อนขนาดหนัก เขาจึงจะทำได้
• เมื่อสิ้นกัป โลกสลายตัว คือคนตายหมด น้ำแห้งหมด สัตว์ตายหมด ต้นไม้ทั้งหมดก็ไหม้หมด ทั้งโลกกลายเป็นดิน
• ดินที่เผาแล้วนี้มีความหอมระอุขึ้นมา ตอนนี้ถือว่าสิ้นกัป
• กัปใหม่ : ผู้ที่มาเกิดในชุดแรกเป็นพรหมที่หมดบุญวาสนาบารมีในการเป็นพรหม
• โลกเริ่มมีน้ำ ดินมีความชุ่มชื้น พืชธัญญาหารบางอย่างเริ่มเกิดขึ้น
• พรหมที่หมดบุญวาสนาบารมีหาพ่อแม่เกิดไม่ได้ ก็อยากกินง้วนดิน จึงลงมากินง้วนดินเพราะดินหอมจากไฟเผา ร่ายกายก็เลยหนัก มีเนื้อมีหนังขึ้นมา
• ตอนแรกนี้พรหมพวกนี้ยังไม่มีเพศ พระอาทิตย์ก็ยังไม่ปรากฎในเวลานั้น
• พระอาทิตย์ 6 ดวงได้สลายตัว ส่วนดวงเดิมก็จะอยู่ห่างมาก ดวงที่สลายตัวไม่ได้แตกแต่ว่ามีความร้อนกระแสไฟภายในดับและดวงเก่า (ดวงปัจจุบัน) มีกระแสไฟอ่อนลง
• จากนั้นพรหมทั้งหมดที่มาเกิดเป็นคนมากินง้วนดินก็กลายเป็นคนมีเนื้อมีหนังขึ้นมา
• ตอนนั้นยังมีบุญบารมีอยู่ ตัณหาอุปาทานยังไม่ปรากฎ ก็ยังคงมีแสงสว่างจากตัว ไปไหนก็มีแสงสว่าง
• พืชเกิดขึ้น ข้าวเกิดขึ้น ก็เป็นข้าวสาร เพราะบุญจึงเก็บข้าวแล้วมาต้มได้ทันทีทันใด
• ภายหลังความเป็นเพศปรากฎขึ้น ก็อยากมีสามีภรรยา (มีผัวมีเมีย) อารมณ์อย่างนี้เกิดแสงสว่างในกายก็ดับ
• เมื่อแสงสว่างในกายดับ โลกก็ดับแสงสว่างในโลกก็เกิดความมืด
• ต่อจากนั้นไปแสงอาทิตย์ก็ปรากฎแต่ปรากฎไม่นานเย็นก็ดับไป
• ต่อมาพระจันทร์ปรากฎ เธอก็ดีใจ เรียกว่า ฉันทะ แปลว่า ดีใจ พอใจ ตอนนี้เพี้ยนเป็น จันทระ
หลวงปู่ผู้ทรงธรรมฤทธิ์เล่าให้ฟังว่า !!
ดวงอาทิตย์
เหมือนกับโลก ความจริงมันไม่มีแสง มันเป็นธาตุทั้งโลกอาทิตย์ มีผิวแข็ง มันเหมือนหินเกลี้ยง มีไอระเหยริ้ว ๆ ๆ พุ่งออกมาไกล
• ดวงอาทิตย์หมุนเหมือนลูกข่าง
• การเสียดสีของโลกอาทิตย์กับอากาศ กับกระแสไฟฟ้ากระจายออกมาจากโลกอาทิตย์
• การระเหยนั้นกลายเป็นไฟ มีแสงสว่างและมีความร้อนมาก แต่การระเหยนั้น อยู่ไกลจากโลกอาทิตย์มาก
• ถ้าจะผ่านกลุ่มการระเหยนี้เข้าผิวโลกอาทิตย์ต้องทนความร้อนประมาณ 2 ล้านองศา จึงผ่านเข้าไปได้
• โลกไม่ได้หมุนอ้อมดวงอาทิตย์ แต่หมุนอ้อมข้ามหัวโลกอาทิตย์
• ในดวงอาทิตย์ไม่มีแสงไฟเลย จะเป็นก็แต่ไอระเหยออกมา
• ไอระเหยที่ออกมารอบโลกอาทิตย์นี้เมื่อเสียดสีกับอากาศเกิดเป็นประกายให้เกิดแสงสว่าง กระจายออกมาและส่งมาัยังโลกที่เราอยู่ด้วย
• ในดวงอาทิตย์เป็นแร่ที่เป็นเชื้อเพลิง และมีแร่ชนิดหนึ่งคล้ายแมงกานีส
• ความร้อนของดวงอาทิตย์แปลกที่มันไหม้ก็จริง แต่ว่ามันสร้างตัวเองแทนที่มันจะสลายตัว
• สิ่งที่ไหลเป็นเชื้อเพลิงแล้วมันสามารถสร้างตัวเองให้เกิดขึ้นมาได้
• ความร้อนแรงของโลกอาทิตย์จะไม่มีการลดตัวลง แต่จะร้อนมากขึ้นตามลำดับ
• เมื้อใกล้จะสิ้นกัป จะมีโลกอาทิตย์ดวงที่ 2,3,4,5,6 และ 7 เกิดขึ้นตามลำดับ
• ในปัจจุบันดวงอาทิตย์ที่สองเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่ละดวงมันเกิดแล้วแต่จับก้อนและยังโตไม่พอ
• ถ้าดวงที่ 2 โตพอ จะเกิดแสงสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ดวงนี้ และดวงอาทิตย์ดวงเดิมก็จะร้อนมากขึ้น และโลกที่เราอยู่อาศัยจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อน
• ที่ดวงอาทิตย์ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่นั่น
• ฝรั่งจะสามารถไปดวงอาทิตย์ได้ และสามารถจะใช้กระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ไปทำไฟฟ้าโลกได้ แต่ฝรั่งยังทำไม่ได้.. เขาต้องได้สิ่งที่ป้องกันความร้อนขนาดหนัก เขาจึงจะทำได้
• เมื่อสิ้นกัป โลกสลายตัว คือคนตายหมด น้ำแห้งหมด สัตว์ตายหมด ต้นไม้ทั้งหมดก็ไหม้หมด ทั้งโลกกลายเป็นดิน
• ดินที่เผาแล้วนี้มีความหอมระอุขึ้นมา ตอนนี้ถือว่าสิ้นกัป
• กัปใหม่ : ผู้ที่มาเกิดในชุดแรกเป็นพรหมที่หมดบุญวาสนาบารมีในการเป็นพรหม
• โลกเริ่มมีน้ำ ดินมีความชุ่มชื้น พืชธัญญาหารบางอย่างเริ่มเกิดขึ้น
• พรหมที่หมดบุญวาสนาบารมีหาพ่อแม่เกิดไม่ได้ ก็อยากกินง้วนดิน จึงลงมากินง้วนดินเพราะดินหอมจากไฟเผา ร่ายกายก็เลยหนัก มีเนื้อมีหนังขึ้นมา
• ตอนแรกนี้พรหมพวกนี้ยังไม่มีเพศ พระอาทิตย์ก็ยังไม่ปรากฎในเวลานั้น
• พระอาทิตย์ 6 ดวงได้สลายตัว ส่วนดวงเดิมก็จะอยู่ห่างมาก ดวงที่สลายตัวไม่ได้แตกแต่ว่ามีความร้อนกระแสไฟภายในดับและดวงเก่า (ดวงปัจจุบัน) มีกระแสไฟอ่อนลง
• จากนั้นพรหมทั้งหมดที่มาเกิดเป็นคนมากินง้วนดินก็กลายเป็นคนมีเนื้อมีหนังขึ้นมา
• ตอนนั้นยังมีบุญบารมีอยู่ ตัณหาอุปาทานยังไม่ปรากฎ ก็ยังคงมีแสงสว่างจากตัว ไปไหนก็มีแสงสว่าง
• พืชเกิดขึ้น ข้าวเกิดขึ้น ก็เป็นข้าวสาร เพราะบุญจึงเก็บข้าวแล้วมาต้มได้ทันทีทันใด
• ภายหลังความเป็นเพศปรากฎขึ้น ก็อยากมีสามีภรรยา (มีผัวมีเมีย) อารมณ์อย่างนี้เกิดแสงสว่างในกายก็ดับ
• เมื่อแสงสว่างในกายดับ โลกก็ดับแสงสว่างในโลกก็เกิดความมืด
• ต่อจากนั้นไปแสงอาทิตย์ก็ปรากฎแต่ปรากฎไม่นานเย็นก็ดับไป
• ต่อมาพระจันทร์ปรากฎ เธอก็ดีใจ เรียกว่า ฉันทะ แปลว่า ดีใจ พอใจ ตอนนี้เพี้ยนเป็น จันทระ
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:28 am
ดวงจันทร์
• พระอาทิตย์สาดแสงกระทบดวงจันทร์ ดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่าง
• โลกพระจันทร์ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ ไม่มีต้นไม้
• ตอนนี้พระจันทร์ไม่มีทะเล จะมีแต่ความชุ่มชื้น
• ดวงจันทร์เป็นหลุมเป็นบ่อ บางพื้นที่สีเทา, เหลือง, ขาว, สีเพชร
• มีทองคำธรรมชาติ เป็นเม็ดทรายเกลื่อนกลาดบริเวณกว้างมาก
• ฝรั่งเขามาที่ดวงจันทร์ได้นำทองกลับไปด้วย เพราะเขารู้ทุกอย่างแล้วว่าที่ผิวของโลกพระจันทร์มีอะไรบ้าง เพราะเขามีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ดี
• ดวงจันทร์มีทองขาว (ทองคำขาว) มากกว่าทองคำ
• ฝรั่งเค้าพบแล้วและได้ใช้เครื่องมือทุ่นแรงไสเอาผิว ๆ ไปใช้มากแล้ว
• มีแร่ทองแดง, แร่ตะกั่วก็มาก
• มีแหล่งแก้วที่ใสกว่าเพชรในโลกมนุษย์
• แร่ที่ฝรั่งได้ไปครั้งแรกได้แร่ผิวที่เป็นเพชรกลับไปด้วยแล้วฝรั่งเวลานี้ก็นำไปเยอะแล้ว
ดาวอังคาร
• วันที่ 26 มิ.ย. 2530 หลวงปู่ท่านป่วยอีกแล้ว..!!
• ตอน 5 ขวบหลวงปู่อ่านหนังสือพบว่าเยอรมันตั้งกล้องส่องโลกพระจันทร์
• ดาวนพเคราะห์ = [โลก, อาทิตย์, จันทร์, อังคาร, พุธ, ศุกร์, เสาร์, เกตุ, ราหู ]
• บาปเคราะห์ = [อาทิตย์, อังคาร, เสาร์, ราหู] ถ้าดวงไหนหรือพระดวงไหนเสวยอายุคนดวงนั้นจะเดือนร้อน
• สมพระเคราะห์ = [จันทร์, พุธ, ศุกร์, พฤหัส] เสวยอายุจะมีแต่ความสุข
• โลกอังคารใหญ่กว่าโลกพระจันทร์
• ด้านบนดวงอังคารเป็นแป้น ๆ ไม่กลมเหมือนโลกพระจันทร์ ตอนกลางมีรอยบุ๋มเข้าไป
• ที่ลุ่มตอนกลางเหมือนมีน้ำแต่เป็นน้ำแข็ง
• โลกพระอังคาร จะคล้ายผลชมพู่หรือแอปเปิ้ล
• โลกพระอังคารจะแข็งแกร่งกว่าโลกพระจันทร์ (มีส่วนยุ่ยมาก)
• รวมความว่าโลกพระอังคารมีความเย็นกับความร้อนไม่เสมอกัน
• ดาวอังคารไม่มีสิ่งมีชีวิต เพราะมีรังสีมาก ภายในมีความเร่าร้อนสูง ความเร่าร้อนนี้กลายเป็นไอระเหยออกมาภายนอก
• ดาวอังคารมีทะเลทองคำ มีความลึกมากและบริเวณกว้างมาก
• มีแร่ที่ให้กำลังงานสูงมาก ใช้ขับเคลื่อน, ใช้เป็นแรงทำลาย, ใช้เป็นแรงต้านสันติ
• แร่นี้ 1 กิโลกรัม มีกำลัง 1 แสนเท่าของน้ำมัน (ในการพุ่งตัวพาหนะ)
• เวลานี้คนเอาแร่ยูเรเนียม ทำนิวเคลียส์ แร่นี้ฆ่าคนได้
• เยอรมันคิดจะมาดาวอังคาร 80 ปีแล้ว ฉะนั้นไม่เป็นเหตุเกินวิสัยที่ชาวเยอรมันจะมาโลกนี้
• เมื่อเร็ว ๆ นี้เครื่องบินเยอรมัน (ขนาดเล็ก) มีหนุ่มอายุ 19 ปี ขับจากเยอรมันเข้าไปในเขตรัสเซีย ลง "จตุรัสแดง" แต่รัสเซียไม่สามารถจะจับภาพได้
•เมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ห้ามผลิตอาวุธ แต่เมื่อฮิตเลอร์ มีอำนาจได้ฉีก สัญญา "แวร์ซาย" ที่เคยทำสัญญาแพ้ศึกสมัยก่อน (ทำบนรถไฟเก่า ๆ) หลังจากนั้นเยอรมันมีอาวุธพิเศษกว่าชาวโลกทั้งหลาย
1. จรวด V-1 , V-2 มีเครื่องบังคับการยิงปืนใหญ่ ทหาร 1 คน สามารถบังคับปืนใหญ่ได้ 8 กระบอก
2. รถถังเยอรมัน เรียก "รถราชสีห์" (ใช้การบังคับกลไก Remote Control ซึ่งรถนี้แข็งแกร่งมาก
ปืนต่อสู้รถถังยิงจัง ๆ หน้าเพียงถลอกบาง ๆ เท่านั้น
• เมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ทางพันธมิตรห้ามเยอรมันกับญี่ปุ่นมีทหาร แต่เยอรมันสร้างอะไรลับ ๆ ที่น่าแปลก โดยมี รถถัง, เรือรบ
• ที่ดาวอังคารมีเต้นหรือกระโจมที่มีสภาพแข็งแรงมาก และมีเครื่องมือสำหรับขุดอยู่มากมาย และมีรถตีนตะขาบมีเครื่องเจาะ มีเครื่องตัด ที่เครื่องมือมีสัญลักษณ์เขียนคำว่า "สูตู"
• "สูตู" เป็นโลก ๆ หนึ่งหรือดาวดวงหนึ่ง อยู่ทิศตะวันออกของประเทศไทย ให้มองไปที่ดาวกัลปพฤกษ์ (ดาวกระพริบ) และเบื้องสูงจะเป็นจุดเล็ก ๆ ไกล ๆ ดวงเล็ก ๆ เรียกว่า ดาว "สูตู" มีนักวิทยาศาสตร์เก่งมาก ในโลกชมภู คือโลกที่เราอยู่นี้ยังไม่มีความสามารถเท่าเขา
• ที่พระอังคารนี้มีแร่ ชนิดหนึ่งที่มีความแข็งมาก ทนต่อการเสียดสี ถ้าใช้แร่นี้เป็นยานพาหนะใช้ความหนาพอสมควรจะทนการเสียดสีในอากาศและก็ทนความร้อนได้มาก แต่สิ่งมีชีวิตภายในยานจะตายหมดเพราะร้อนสูง
• มีแร่ชนิดหนึ่ง ที่สามารถขจัดความร้อนให้สะท้อนกลับได้ ถ้าเอาแร่นี้เคลือบในยานให้หนา เครื่องมือและสิ่งมีชีวิตภายในยานจะไม่มีอันตราย ความร้อนจะไม่เกิน 20 องศา
• เสื้อหุ่มร่างกายอย่างเดียวไม่พอ แม้จะมีออกซิเยนสูบเข้าไปก็ไม่พอนัก ต้องมีแร่ชนิดหนึ่งสามารถดูดรังสี ซึ่งมีแร่ดูดรังสีในดาวอังคารนี้
• อีก 1 แสนกิโลเมตร มีเครื่องมืออีกชุด ประกอบด้วย กระโจม (โรงเก็บ), วัตถุเจาะ, เครื่องรถตีนตะขาบ มีสัญลักษณ์เป็นสีเขียว อ่านว่า "จามร"
• ดาวจามรอยู่เหนือดาวพระศุกร์
• ดาวสูตูและดาวจามร มีความสามารถเชี่ยวชาญไม่แพ้กัน
• พระอังคาร คือ จอมเทวดาแห่งสงคราม (พระเจ้าแห่งสงคราม)
• คนที่ดาวจามรคล้ายคนไทย ท่าทางนิ่มนวลมีความเยือกเย็น จิตมีความเมตตาสูง ตรงข้ามกับคนที่ดาวสูตู
• ชาวเยอรมันตะวันตก จากโลกมนุษย์สามารถชนะรังสีนี้ได้นานแล้ว เขาชนะได้ 20 กว่าปีแล้วและมาถึงโลกพระอังคารนี้แล้วเงียบ ๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว
• เยอรมันได้รังสีที่มีความดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังสีที่ทำลายเครื่องตรวจสอบน่านฟ้า เยอรมันก็ได้ไปแล้ว แร่ที่ได้ไปนี้มีสีขาวคล้ายเงิน แต่ขาวกว่าเงินมีความแจ่มใสกว่า มีรังสีแผ่ออกมาเป็นความเยือกเย็น แต่มีความแรงสูง
• พระอังคารเป็นบาปเคราะห์ มีทุกสิ่งที่เป็นเครื่องสังหาร และที่ทำให้เกิดสุขหรือทุกข์ได้
• พระอาทิตย์สาดแสงกระทบดวงจันทร์ ดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่าง
• โลกพระจันทร์ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ ไม่มีต้นไม้
• ตอนนี้พระจันทร์ไม่มีทะเล จะมีแต่ความชุ่มชื้น
• ดวงจันทร์เป็นหลุมเป็นบ่อ บางพื้นที่สีเทา, เหลือง, ขาว, สีเพชร
• มีทองคำธรรมชาติ เป็นเม็ดทรายเกลื่อนกลาดบริเวณกว้างมาก
• ฝรั่งเขามาที่ดวงจันทร์ได้นำทองกลับไปด้วย เพราะเขารู้ทุกอย่างแล้วว่าที่ผิวของโลกพระจันทร์มีอะไรบ้าง เพราะเขามีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ดี
• ดวงจันทร์มีทองขาว (ทองคำขาว) มากกว่าทองคำ
• ฝรั่งเค้าพบแล้วและได้ใช้เครื่องมือทุ่นแรงไสเอาผิว ๆ ไปใช้มากแล้ว
• มีแร่ทองแดง, แร่ตะกั่วก็มาก
• มีแหล่งแก้วที่ใสกว่าเพชรในโลกมนุษย์
• แร่ที่ฝรั่งได้ไปครั้งแรกได้แร่ผิวที่เป็นเพชรกลับไปด้วยแล้วฝรั่งเวลานี้ก็นำไปเยอะแล้ว
ดาวอังคาร
• วันที่ 26 มิ.ย. 2530 หลวงปู่ท่านป่วยอีกแล้ว..!!
• ตอน 5 ขวบหลวงปู่อ่านหนังสือพบว่าเยอรมันตั้งกล้องส่องโลกพระจันทร์
• ดาวนพเคราะห์ = [โลก, อาทิตย์, จันทร์, อังคาร, พุธ, ศุกร์, เสาร์, เกตุ, ราหู ]
• บาปเคราะห์ = [อาทิตย์, อังคาร, เสาร์, ราหู] ถ้าดวงไหนหรือพระดวงไหนเสวยอายุคนดวงนั้นจะเดือนร้อน
• สมพระเคราะห์ = [จันทร์, พุธ, ศุกร์, พฤหัส] เสวยอายุจะมีแต่ความสุข
• โลกอังคารใหญ่กว่าโลกพระจันทร์
• ด้านบนดวงอังคารเป็นแป้น ๆ ไม่กลมเหมือนโลกพระจันทร์ ตอนกลางมีรอยบุ๋มเข้าไป
• ที่ลุ่มตอนกลางเหมือนมีน้ำแต่เป็นน้ำแข็ง
• โลกพระอังคาร จะคล้ายผลชมพู่หรือแอปเปิ้ล
• โลกพระอังคารจะแข็งแกร่งกว่าโลกพระจันทร์ (มีส่วนยุ่ยมาก)
• รวมความว่าโลกพระอังคารมีความเย็นกับความร้อนไม่เสมอกัน
• ดาวอังคารไม่มีสิ่งมีชีวิต เพราะมีรังสีมาก ภายในมีความเร่าร้อนสูง ความเร่าร้อนนี้กลายเป็นไอระเหยออกมาภายนอก
• ดาวอังคารมีทะเลทองคำ มีความลึกมากและบริเวณกว้างมาก
• มีแร่ที่ให้กำลังงานสูงมาก ใช้ขับเคลื่อน, ใช้เป็นแรงทำลาย, ใช้เป็นแรงต้านสันติ
• แร่นี้ 1 กิโลกรัม มีกำลัง 1 แสนเท่าของน้ำมัน (ในการพุ่งตัวพาหนะ)
• เวลานี้คนเอาแร่ยูเรเนียม ทำนิวเคลียส์ แร่นี้ฆ่าคนได้
• เยอรมันคิดจะมาดาวอังคาร 80 ปีแล้ว ฉะนั้นไม่เป็นเหตุเกินวิสัยที่ชาวเยอรมันจะมาโลกนี้
• เมื่อเร็ว ๆ นี้เครื่องบินเยอรมัน (ขนาดเล็ก) มีหนุ่มอายุ 19 ปี ขับจากเยอรมันเข้าไปในเขตรัสเซีย ลง "จตุรัสแดง" แต่รัสเซียไม่สามารถจะจับภาพได้
•เมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ห้ามผลิตอาวุธ แต่เมื่อฮิตเลอร์ มีอำนาจได้ฉีก สัญญา "แวร์ซาย" ที่เคยทำสัญญาแพ้ศึกสมัยก่อน (ทำบนรถไฟเก่า ๆ) หลังจากนั้นเยอรมันมีอาวุธพิเศษกว่าชาวโลกทั้งหลาย
1. จรวด V-1 , V-2 มีเครื่องบังคับการยิงปืนใหญ่ ทหาร 1 คน สามารถบังคับปืนใหญ่ได้ 8 กระบอก
2. รถถังเยอรมัน เรียก "รถราชสีห์" (ใช้การบังคับกลไก Remote Control ซึ่งรถนี้แข็งแกร่งมาก
ปืนต่อสู้รถถังยิงจัง ๆ หน้าเพียงถลอกบาง ๆ เท่านั้น
• เมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ทางพันธมิตรห้ามเยอรมันกับญี่ปุ่นมีทหาร แต่เยอรมันสร้างอะไรลับ ๆ ที่น่าแปลก โดยมี รถถัง, เรือรบ
• ที่ดาวอังคารมีเต้นหรือกระโจมที่มีสภาพแข็งแรงมาก และมีเครื่องมือสำหรับขุดอยู่มากมาย และมีรถตีนตะขาบมีเครื่องเจาะ มีเครื่องตัด ที่เครื่องมือมีสัญลักษณ์เขียนคำว่า "สูตู"
• "สูตู" เป็นโลก ๆ หนึ่งหรือดาวดวงหนึ่ง อยู่ทิศตะวันออกของประเทศไทย ให้มองไปที่ดาวกัลปพฤกษ์ (ดาวกระพริบ) และเบื้องสูงจะเป็นจุดเล็ก ๆ ไกล ๆ ดวงเล็ก ๆ เรียกว่า ดาว "สูตู" มีนักวิทยาศาสตร์เก่งมาก ในโลกชมภู คือโลกที่เราอยู่นี้ยังไม่มีความสามารถเท่าเขา
• ที่พระอังคารนี้มีแร่ ชนิดหนึ่งที่มีความแข็งมาก ทนต่อการเสียดสี ถ้าใช้แร่นี้เป็นยานพาหนะใช้ความหนาพอสมควรจะทนการเสียดสีในอากาศและก็ทนความร้อนได้มาก แต่สิ่งมีชีวิตภายในยานจะตายหมดเพราะร้อนสูง
• มีแร่ชนิดหนึ่ง ที่สามารถขจัดความร้อนให้สะท้อนกลับได้ ถ้าเอาแร่นี้เคลือบในยานให้หนา เครื่องมือและสิ่งมีชีวิตภายในยานจะไม่มีอันตราย ความร้อนจะไม่เกิน 20 องศา
• เสื้อหุ่มร่างกายอย่างเดียวไม่พอ แม้จะมีออกซิเยนสูบเข้าไปก็ไม่พอนัก ต้องมีแร่ชนิดหนึ่งสามารถดูดรังสี ซึ่งมีแร่ดูดรังสีในดาวอังคารนี้
• อีก 1 แสนกิโลเมตร มีเครื่องมืออีกชุด ประกอบด้วย กระโจม (โรงเก็บ), วัตถุเจาะ, เครื่องรถตีนตะขาบ มีสัญลักษณ์เป็นสีเขียว อ่านว่า "จามร"
• ดาวจามรอยู่เหนือดาวพระศุกร์
• ดาวสูตูและดาวจามร มีความสามารถเชี่ยวชาญไม่แพ้กัน
• พระอังคาร คือ จอมเทวดาแห่งสงคราม (พระเจ้าแห่งสงคราม)
• คนที่ดาวจามรคล้ายคนไทย ท่าทางนิ่มนวลมีความเยือกเย็น จิตมีความเมตตาสูง ตรงข้ามกับคนที่ดาวสูตู
• ชาวเยอรมันตะวันตก จากโลกมนุษย์สามารถชนะรังสีนี้ได้นานแล้ว เขาชนะได้ 20 กว่าปีแล้วและมาถึงโลกพระอังคารนี้แล้วเงียบ ๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว
• เยอรมันได้รังสีที่มีความดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังสีที่ทำลายเครื่องตรวจสอบน่านฟ้า เยอรมันก็ได้ไปแล้ว แร่ที่ได้ไปนี้มีสีขาวคล้ายเงิน แต่ขาวกว่าเงินมีความแจ่มใสกว่า มีรังสีแผ่ออกมาเป็นความเยือกเย็น แต่มีความแรงสูง
• พระอังคารเป็นบาปเคราะห์ มีทุกสิ่งที่เป็นเครื่องสังหาร และที่ทำให้เกิดสุขหรือทุกข์ได้
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:29 am
ดาวพุธ
• 27 มิ.ย. 2530 หลวงปู่ป่วยอีกแล้ว
• "อะนาผมลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละ มุตตะมัง" การที่มีการงานไม่คั่งค้างจัดว่าเป็นอุดมมงคล
• ด้านหัวดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จะมีความร้อน ไม่มีสิ่งมีชีวิตในบริเวณนี้
• ด้านกลางอุ่น ร้อนประมาณตะวันออกกลาง มีกระแสน้ำ
• ด้านล่างเย็นเฉียบเ็ป็นน้ำแข็ง
• ที่ด้านกลางนี้ น้ำมีรสเค็มจากกระแสดินและทราย
• ส่วนความอุ่น สร้างสิ่งมีชีวิตและพืชพันธ์ โลกพุธเป็นดินไม่ใช่หิน (หินมีน้อย)
• มีบ้านเรือน มีถนนหนทาง มีต้นไม้เขียวชอุ่มไปหมด
• มีต้นกล้วย อ้อย มะพร้าว เหมือนที่มีในโลกเรามี
• คนดาวพุธมีสีผิวขาวนวล ไม่บอกอาการของความทุกข์
• ที่ดาวพุธไม่มีสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีปลา
• ที่ดาวพุธไม่มีรถยนต์ ไม่มีเครื่องจักรกล
• ข้าวสารที่นี่แก่เต็มที่เปลือกจะแตกออก โลกนี้ไม่มีโรงสี ไม่ต้องซ้อมข้าว
• คนที่ดาวพุธมีอายุ 8 หมื่นปี
ดาวพฤหัส
• ดาวพฤหัสเป็นครู
• เป็นดาวที่มีความใหญ่มากกว่าทุกดวง
• ถ้าจะเทียบกับดวงอื่น ๆ ก็เหมือนกับช้างสีดอ คือช้างใหญ่ ยืนอยู่กลางฝูงวัว
• สิ่งที่มองจากโลกเห็นดาวพฤหัสมีหมอก หรือมีสภาพหมุนของลม แต่การหมุนของลมหรือเมฆ ที่ลอยไปเป็นหมอกอยู่ประเภทนี้ อยู่ไกลจากตัวดวงดาวพฤหัสมาก หลายหมื่นฟิต มันจะมีสภาพไกลกว่าเครื่องบินที่บินจากเหนือโลกขึ้นไป 3 หมื่นฟิต แต่ความจริงบินสูงขึ้นไป 3 หมื่นฟิต มองลงมาก็จะเห็นเมฆเป็นก้อน เมฆดำก็มี เมฆขาวก็มี ลอยต่ำคล้ายกับติดพื้นดิน แต่บรรดาเมฆละอองทั้งหลายที่มีลมพัดแรงอยู่ไกลกว่า เมฆประเภทนั้นกับพื้นผิวดินของโลกมาก
• เมื่อเข้าไปในม่านของเมฆหมอก และเข้าไปในมุมเหนือมุมที่ปรากฎว่ามีหิมะมาก มีต้นไม้ ต้นหญ้า หนาทึบเขียวชอุ่ม มุมที่หนาวจัดบอกได้เลยว่ามุมนี้หนาวจัดคล้ายโลกพระศุกร์
• รวมความว่าทางทิศเหนือของดาวพฤหัสก็ไม่ต่างกับขั้วโลกเหนือของโลกมนุษย์ หรือโลกชมภู มีน้ำแข็ง ไปดูน้ำค้างยังเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างเย็นยะเยือก
• สัตว์ต่าง ๆ ก็หายาก
• มีละเลใหญ่ตอนท้ายดาว เป็นมหาสมุทรใหญ่ แต่มีสภาพเป็นน้ำแข็ง
• สิ่งที่น่าอัศจรรย์ ท้ายดาวพฤหัสมีสัตว์แล้วก็มีคน คนพวกนี้เดินบนน้ำแข็งได้แบบสบาย ๆ เขาเดินได้อย่างมีความสุข แล้วก็ไม่แสดงอาการหนาว มีสภาพเป็นปกติ แต่ใช้เสื้อผ้าหนาเตอะ
• แต่ดูหน้าตา ดูตา หน้าเขาเปิด เขาไม่ได้ปิด ไม่ได้คลุม มีอาการร่าเริง มีหมวกหนา มีเสื้อหนา มีกางเกงหนา มีผ้าหุ้มเท้า หุ้มแข้งมีรองเท้าหนา เดินแบบสบาย ๆ
• ครั้นเข้าไปใกล้ พวกเขาแทนที่จะแสดงอาการแปลกใจหรือตกใจ เขาก็ยิ้ม
• เข้าไปเขาก็ส่งภาษาของเขา โบกมือโบกไม้ โบ๊เบ๊ ๆ ฟังไม่ออก ก็ต้องใช้กำลังใจฟัง ก็สามารถพูดภาษาของเขาได้ ก็ถามว่า "เขาอยู่ที่นี่มีความสุขหรือ" พวกเขาก็ตอบว่า "มีความสุขดี"
• ที่นี่ไม่มีการปลูกข้าว
• คนที่นี่กินผลไม้ ซึ่งมีมากมายตลอดปี
• สถานที่นี้ไม่มีการรบราฆ่าฟันกัน
• บ้านเมืองของคนที่นี่มีความสวยงาม รู้สึกว่ามี เครื่องจักรกลต่าง ๆ มีมาก
• บ้านเมืองที่นี่มีไฟฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเกือบไม่ต้องใช้กำลังคน ระบบต่าง ๆ เป็นเครื่องจักรกล หรือเป็นระบบไฟฟ้าหมด
• ที่นี่ไม่มีอาวุธยุทธโธปกรณ์
• คนโลกนี้กินเนื้อสัตว์ แต่กินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว ไม่รวบกวนกัน
• ที่ดาวนี้เขามีจรวดมานับแสนปี ที่โลกชมภูเราเพิ่งจะมีเมื่อเร็ว ๆ นี้
• 27 มิ.ย. 2530 หลวงปู่ป่วยอีกแล้ว
• "อะนาผมลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละ มุตตะมัง" การที่มีการงานไม่คั่งค้างจัดว่าเป็นอุดมมงคล
• ด้านหัวดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จะมีความร้อน ไม่มีสิ่งมีชีวิตในบริเวณนี้
• ด้านกลางอุ่น ร้อนประมาณตะวันออกกลาง มีกระแสน้ำ
• ด้านล่างเย็นเฉียบเ็ป็นน้ำแข็ง
• ที่ด้านกลางนี้ น้ำมีรสเค็มจากกระแสดินและทราย
• ส่วนความอุ่น สร้างสิ่งมีชีวิตและพืชพันธ์ โลกพุธเป็นดินไม่ใช่หิน (หินมีน้อย)
• มีบ้านเรือน มีถนนหนทาง มีต้นไม้เขียวชอุ่มไปหมด
• มีต้นกล้วย อ้อย มะพร้าว เหมือนที่มีในโลกเรามี
• คนดาวพุธมีสีผิวขาวนวล ไม่บอกอาการของความทุกข์
• ที่ดาวพุธไม่มีสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีปลา
• ที่ดาวพุธไม่มีรถยนต์ ไม่มีเครื่องจักรกล
• ข้าวสารที่นี่แก่เต็มที่เปลือกจะแตกออก โลกนี้ไม่มีโรงสี ไม่ต้องซ้อมข้าว
• คนที่ดาวพุธมีอายุ 8 หมื่นปี
ดาวพฤหัส
• ดาวพฤหัสเป็นครู
• เป็นดาวที่มีความใหญ่มากกว่าทุกดวง
• ถ้าจะเทียบกับดวงอื่น ๆ ก็เหมือนกับช้างสีดอ คือช้างใหญ่ ยืนอยู่กลางฝูงวัว
• สิ่งที่มองจากโลกเห็นดาวพฤหัสมีหมอก หรือมีสภาพหมุนของลม แต่การหมุนของลมหรือเมฆ ที่ลอยไปเป็นหมอกอยู่ประเภทนี้ อยู่ไกลจากตัวดวงดาวพฤหัสมาก หลายหมื่นฟิต มันจะมีสภาพไกลกว่าเครื่องบินที่บินจากเหนือโลกขึ้นไป 3 หมื่นฟิต แต่ความจริงบินสูงขึ้นไป 3 หมื่นฟิต มองลงมาก็จะเห็นเมฆเป็นก้อน เมฆดำก็มี เมฆขาวก็มี ลอยต่ำคล้ายกับติดพื้นดิน แต่บรรดาเมฆละอองทั้งหลายที่มีลมพัดแรงอยู่ไกลกว่า เมฆประเภทนั้นกับพื้นผิวดินของโลกมาก
• เมื่อเข้าไปในม่านของเมฆหมอก และเข้าไปในมุมเหนือมุมที่ปรากฎว่ามีหิมะมาก มีต้นไม้ ต้นหญ้า หนาทึบเขียวชอุ่ม มุมที่หนาวจัดบอกได้เลยว่ามุมนี้หนาวจัดคล้ายโลกพระศุกร์
• รวมความว่าทางทิศเหนือของดาวพฤหัสก็ไม่ต่างกับขั้วโลกเหนือของโลกมนุษย์ หรือโลกชมภู มีน้ำแข็ง ไปดูน้ำค้างยังเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างเย็นยะเยือก
• สัตว์ต่าง ๆ ก็หายาก
• มีละเลใหญ่ตอนท้ายดาว เป็นมหาสมุทรใหญ่ แต่มีสภาพเป็นน้ำแข็ง
• สิ่งที่น่าอัศจรรย์ ท้ายดาวพฤหัสมีสัตว์แล้วก็มีคน คนพวกนี้เดินบนน้ำแข็งได้แบบสบาย ๆ เขาเดินได้อย่างมีความสุข แล้วก็ไม่แสดงอาการหนาว มีสภาพเป็นปกติ แต่ใช้เสื้อผ้าหนาเตอะ
• แต่ดูหน้าตา ดูตา หน้าเขาเปิด เขาไม่ได้ปิด ไม่ได้คลุม มีอาการร่าเริง มีหมวกหนา มีเสื้อหนา มีกางเกงหนา มีผ้าหุ้มเท้า หุ้มแข้งมีรองเท้าหนา เดินแบบสบาย ๆ
• ครั้นเข้าไปใกล้ พวกเขาแทนที่จะแสดงอาการแปลกใจหรือตกใจ เขาก็ยิ้ม
• เข้าไปเขาก็ส่งภาษาของเขา โบกมือโบกไม้ โบ๊เบ๊ ๆ ฟังไม่ออก ก็ต้องใช้กำลังใจฟัง ก็สามารถพูดภาษาของเขาได้ ก็ถามว่า "เขาอยู่ที่นี่มีความสุขหรือ" พวกเขาก็ตอบว่า "มีความสุขดี"
• ที่นี่ไม่มีการปลูกข้าว
• คนที่นี่กินผลไม้ ซึ่งมีมากมายตลอดปี
• สถานที่นี้ไม่มีการรบราฆ่าฟันกัน
• บ้านเมืองของคนที่นี่มีความสวยงาม รู้สึกว่ามี เครื่องจักรกลต่าง ๆ มีมาก
• บ้านเมืองที่นี่มีไฟฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเกือบไม่ต้องใช้กำลังคน ระบบต่าง ๆ เป็นเครื่องจักรกล หรือเป็นระบบไฟฟ้าหมด
• ที่นี่ไม่มีอาวุธยุทธโธปกรณ์
• คนโลกนี้กินเนื้อสัตว์ แต่กินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว ไม่รวบกวนกัน
• ที่ดาวนี้เขามีจรวดมานับแสนปี ที่โลกชมภูเราเพิ่งจะมีเมื่อเร็ว ๆ นี้
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:30 am
ดาวศุกร์
• มีเมฆหมอก ห่อหุ้มด้วยอากาศธาตุ พายุอยู่ภายนอก ไม่สามารถจะเข้าไปได้
• ยานพาหนะธรรมดาจะเข้าไปได้ยาก
• ถ้าเป็นจรวดของฝรั่งก็ไปไม่อยากเหมือนกัน เพราะไม่กลัวกระแสลม อาจจะถูกลมต้านได้บ้าง แต่ก็ไม่มาก
• แสงแพรวพราวจากหิมะหมอกน้ำ ที่ลอยอยู่ใกล้ดาวพระศุกร์ เมื่อแสงพระอาทิตย์พุ่งเข้ามาถึงก็ปรากฎว่ากระทบน้ำนั้นเข้า ดูไกล ๆ คล้าย ๆ กับกระจก สะท้อนแสงพระอาทิตย์
• โลกศุกร์มี 2 ส่วน
1. ด้านหน้าได้รับการแผดเผาของดวงอาทิตย์ให้เป็นดินสุก ไม่มีต้นไม้ คนและสัตว์ก็ไม่มีใครจะอยู่ได้
2. ด้านกลางถึงด้านท้าย มีพืชพันธ์ธัญญาหารมีต้นไม้
• ยิ่งไปด้านเหนือมากเท่าไรก็ตาม จะยิ่งมีต้นไม้หนามากขึ้น มีความชุ่มชื้นมาก มีสิ่งมีชีวิตมาก
• ที่ดาวศุกร์ มีแร่ที่มีประโยชน์ มีทองคำ มีแร่เงิน แร่ทองแดง
• มีแร่ที่ไม่เจอในโลกอื่น มีคุณค่าสูง แข็ง มีสีใสคล้ายกระจก แต่ว่าใสกว่ามาก แร่ประเภทนี้มีพิษมาก คือในด้านสันติก็มีประโยชน์มาก ในด้านทำลายมีจุดทำลายสูงสุดทีเดียว ถ้าใช้รังสีของแร่ประเภทนี้ในการขับเคลื่อน ก็จะมีความเร็วสูง ถ้าใช้รังสีนี้ในการทำลาย วัตถุธาตุทั้งหลายเมื่อถูกรังสีนี้ของแร่ประเภทนี้เข้าจะละลายในทันทีทันใด แม้แต่เหล็กก้อนใหญ่ ๆ ก็ไม่เหลือ มีความแรงสูงสุดกว่าแร่ในโลกอื่น
• คนดาวนี้ผิวดำ ดำเป็นหมึก คนที่นี่นุ่งห่มผ้าสีฟ้า กางเกงยาว เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ผู้ชายมีแถบขาว ผู้หญิ่งนุ่งสโร่ง
• ดาวนี้มีสัตว์ โคก็มี ควายก็มี หมูก็มี ไก่ก็มี มีหลาย ๆ อย่าง นกก็มี
• ดาวศุกร์ทั้งดวงมีประเทศอยู่ 43 ประเทศ
• เครื่องบินที่ขับขี่ใช้แร่ธาตุที่สกัดน้ำให้เป็นน้ำมันมีอยู่ แต่ว่าโลกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะว่ามีแร่ที่มีรังสีใช้แทนน้ำมันมีมากมาย
• โลกพระศุกร์ก็มีทะเล มีมหาสมุทร มีน้ำใส มีปลาใหญ่ มีนกใหญ่ นกเล็ก เหมือนกันหมด
• รวมความว่าส่วนกลางของโลกพระศุกร์นี่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก
• คนและสัตว์ที่ดาวนี้ใช้มือและส่งเสียงโบ๊เบ๊ ๆ สัตว์ก็มีความเข้าใจ เมื่อสัตว์ตัวใดส่งเสียงอึ้ดอ๊าด ๆ ขึ้นมา คนก็มีความเข้าใจความต้องการของสัตว์
• คนที่โลกนี้มีอายุ 2 หมื่นปี
ดาวจามร
• ถ้าอยู่ที่โลกชมภูมองไปที่ดาวพระศุกร์และเหนือขึ้นไปจากดาวพระศุกร์จะเห็นดวงดาวเล็ก ๆ ดาวหนึ่งริบหรี่ ๆ ไม่โตนัก ดวงดาวลูกนั้นมองจากดาวพระศุกร์ก็ใส่สว่างมาก
[ถ้ามีเวลาผมพิมพ์มาให้อ่านอีก... เรื่องราวเหล่านี้เล่าโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงปู่ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี]
Credit : http://is.msu.ac.th/e-learning/tumma/
โปรดใช้วิจรณญานในการอ่านการศึกษากันด้วย ควรใช้พระไตรปิฏกอ้างอิง
• มีเมฆหมอก ห่อหุ้มด้วยอากาศธาตุ พายุอยู่ภายนอก ไม่สามารถจะเข้าไปได้
• ยานพาหนะธรรมดาจะเข้าไปได้ยาก
• ถ้าเป็นจรวดของฝรั่งก็ไปไม่อยากเหมือนกัน เพราะไม่กลัวกระแสลม อาจจะถูกลมต้านได้บ้าง แต่ก็ไม่มาก
• แสงแพรวพราวจากหิมะหมอกน้ำ ที่ลอยอยู่ใกล้ดาวพระศุกร์ เมื่อแสงพระอาทิตย์พุ่งเข้ามาถึงก็ปรากฎว่ากระทบน้ำนั้นเข้า ดูไกล ๆ คล้าย ๆ กับกระจก สะท้อนแสงพระอาทิตย์
• โลกศุกร์มี 2 ส่วน
1. ด้านหน้าได้รับการแผดเผาของดวงอาทิตย์ให้เป็นดินสุก ไม่มีต้นไม้ คนและสัตว์ก็ไม่มีใครจะอยู่ได้
2. ด้านกลางถึงด้านท้าย มีพืชพันธ์ธัญญาหารมีต้นไม้
• ยิ่งไปด้านเหนือมากเท่าไรก็ตาม จะยิ่งมีต้นไม้หนามากขึ้น มีความชุ่มชื้นมาก มีสิ่งมีชีวิตมาก
• ที่ดาวศุกร์ มีแร่ที่มีประโยชน์ มีทองคำ มีแร่เงิน แร่ทองแดง
• มีแร่ที่ไม่เจอในโลกอื่น มีคุณค่าสูง แข็ง มีสีใสคล้ายกระจก แต่ว่าใสกว่ามาก แร่ประเภทนี้มีพิษมาก คือในด้านสันติก็มีประโยชน์มาก ในด้านทำลายมีจุดทำลายสูงสุดทีเดียว ถ้าใช้รังสีของแร่ประเภทนี้ในการขับเคลื่อน ก็จะมีความเร็วสูง ถ้าใช้รังสีนี้ในการทำลาย วัตถุธาตุทั้งหลายเมื่อถูกรังสีนี้ของแร่ประเภทนี้เข้าจะละลายในทันทีทันใด แม้แต่เหล็กก้อนใหญ่ ๆ ก็ไม่เหลือ มีความแรงสูงสุดกว่าแร่ในโลกอื่น
• คนดาวนี้ผิวดำ ดำเป็นหมึก คนที่นี่นุ่งห่มผ้าสีฟ้า กางเกงยาว เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ผู้ชายมีแถบขาว ผู้หญิ่งนุ่งสโร่ง
• ดาวนี้มีสัตว์ โคก็มี ควายก็มี หมูก็มี ไก่ก็มี มีหลาย ๆ อย่าง นกก็มี
• ดาวศุกร์ทั้งดวงมีประเทศอยู่ 43 ประเทศ
• เครื่องบินที่ขับขี่ใช้แร่ธาตุที่สกัดน้ำให้เป็นน้ำมันมีอยู่ แต่ว่าโลกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะว่ามีแร่ที่มีรังสีใช้แทนน้ำมันมีมากมาย
• โลกพระศุกร์ก็มีทะเล มีมหาสมุทร มีน้ำใส มีปลาใหญ่ มีนกใหญ่ นกเล็ก เหมือนกันหมด
• รวมความว่าส่วนกลางของโลกพระศุกร์นี่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก
• คนและสัตว์ที่ดาวนี้ใช้มือและส่งเสียงโบ๊เบ๊ ๆ สัตว์ก็มีความเข้าใจ เมื่อสัตว์ตัวใดส่งเสียงอึ้ดอ๊าด ๆ ขึ้นมา คนก็มีความเข้าใจความต้องการของสัตว์
• คนที่โลกนี้มีอายุ 2 หมื่นปี
ดาวจามร
• ถ้าอยู่ที่โลกชมภูมองไปที่ดาวพระศุกร์และเหนือขึ้นไปจากดาวพระศุกร์จะเห็นดวงดาวเล็ก ๆ ดาวหนึ่งริบหรี่ ๆ ไม่โตนัก ดวงดาวลูกนั้นมองจากดาวพระศุกร์ก็ใส่สว่างมาก
[ถ้ามีเวลาผมพิมพ์มาให้อ่านอีก... เรื่องราวเหล่านี้เล่าโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงปู่ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี]
Credit : http://is.msu.ac.th/e-learning/tumma/
โปรดใช้วิจรณญานในการอ่านการศึกษากันด้วย ควรใช้พระไตรปิฏกอ้างอิง
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Re: พุทธทำนาย กับ ภาพยนต์เรื่อง 2012
satan_baby Wed Jun 23, 2010 10:31 am
ถ้าไม่ตายเพราะ โลกแตกในปี 2012
ผมอาจจะตายเพราะไปจีบแฟนชาวบ้าน
แล้วโดน สามีเขายิงทิ้ง 555+++
ทุกวันนี้ผมจะตาย ตอนไหน เวลาไหน ผมไม่เคยเสียดาย
เพราะผมใช้ ทุกวันคุ้ม ค่าทึ่สุดแล้ว
ผมอาจจะตายเพราะไปจีบแฟนชาวบ้าน
แล้วโดน สามีเขายิงทิ้ง 555+++
ทุกวันนี้ผมจะตาย ตอนไหน เวลาไหน ผมไม่เคยเสียดาย
เพราะผมใช้ ทุกวันคุ้ม ค่าทึ่สุดแล้ว
satan_baby- จำนวนข้อความ : 192
Registration date : 08/02/2010
Similar topics» 2012 สิ้นโลก ?
» 2012 ::: โลกาวินาศ !!!??
» 2012 : Are you ready ??!!!
» The Day After Tomorrow : 2012
» 2012 ::: โลกาวินาศ !!!??
» 2012 : Are you ready ??!!!
» The Day After Tomorrow : 2012
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ|
|
|