ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
2 posters
หน้า 1 จาก 1
ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
เหมาะสมหรือ? หนังสือเสียงทักษิณของกลุ่มคนเสื้อแดงฉบับปักษ์แรก มกราคม 2553
หยิบเอาภาพสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้นปกหน้า คู่กับ ทักษิณ ที่ปกหลัง
และพาดหัวว่า “กงกรรมประวัติศาสตร์ TAKSIN RETURNS”
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
ASTVผู้จัดการ - หนังสือเสื้อแดงเล่นของสูง!หยิบภาพอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินขึ้นปกหน้าคู่ทักษิณปกหลัง หวังปี 53
ชี้ชะตา “ทักษิณรีเทิร์น” จับแพะชนแกะให้ร้ายราชวงศ์จักรี ระบุไม่เคยเชิดชูอดีตพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างสมพระเกียรติ
อ้างบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนรัฐประหารพระเจ้าตากสิน โวปีนี้เป็นปีชี้ชะตาอดีตชำระแค้นปัจจุบัน
อ่านต่อที่ ASTVผู้จัดการ
ชี้ชะตา “ทักษิณรีเทิร์น” จับแพะชนแกะให้ร้ายราชวงศ์จักรี ระบุไม่เคยเชิดชูอดีตพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างสมพระเกียรติ
อ้างบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนรัฐประหารพระเจ้าตากสิน โวปีนี้เป็นปีชี้ชะตาอดีตชำระแค้นปัจจุบัน
อ่านต่อที่ ASTVผู้จัดการ
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
เนื้อข่าวมีข้อความว่า "ความเหมือนกันของ ทักษิณกับพระเจ้าตากสินคือเป็นคนเมืองเหนือเหมือนกัน, เป็นคนเชื้อสายจีนเหมือนกัน,สามารถกู้วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ของชาติได้เหมือนกัน โดยพยายามเปรียบเทียบการเสียกรุงกับการกู้หนี้ไอเอ็มเอฟ
และอ้างว่าพระนามของพระเจ้าตากสินนั้นหากเขียนเป็นตัวอักษรโรมันจะเหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ คือ TAKSIN"
เฮ้อ! อ้างกันเข้าไปเรื่องไอเอ็มเอฟ ประเทศไทยไม่ได้เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟซักกะหน่อย
ไหน...ขอดูหลักฐานการปลดหนี้หน่อยดิ
และอ้างว่าพระนามของพระเจ้าตากสินนั้นหากเขียนเป็นตัวอักษรโรมันจะเหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ คือ TAKSIN"
เฮ้อ! อ้างกันเข้าไปเรื่องไอเอ็มเอฟ ประเทศไทยไม่ได้เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟซักกะหน่อย
ไหน...ขอดูหลักฐานการปลดหนี้หน่อยดิ
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
Re: ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1262870134&grpid=00&catid=
วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 06:30:05 น.
มติชนออนไลน์
"แม้ว"บอกหมอดูทำนายตรงกันต้นปีรุนแรงย้ำบ้านเมือง 2มาตรฐาน
ทำปชช.-ชาติพังขอโทษที่เย็บปากหลายวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทวิตข้อความผ่าน twitter.com/Thaksinlive โดยระบุว่า บ้านเมืองยังคงเป็น 2 มาตรฐานอยู่ ทำให้พังทั้งประชาชน
และประเทศชาติ พรัอมกับระบุว่าที่ผ่านมาเงียบหายไปเพราะว่ามีผู้แนะนำให้นิ่งๆ ก่อนในช่วงปีใหม่
"ตอนนี้ถือว่า ball in your court คิดเอาเองว่าอยากให้บ้านเมืองลงเอยอย่างไรถ้าตอกย้ำความไม่เป็นธรรม2มาตรฐาน
อยู่ระบบก็พังประชาชนก็แย่ประเทศเสียหาย"
"เพียงแต่ปรับทัศนคติจากจะบี้ให้ตายมาเป็นหันมาปรองดองเพื่อประชาชน ทำให้เกิดความยุติธรรมขึ้น
มองโลกในแง่ดีเลิกฟังคำสอพลอจากพวกเกาะกินพวกกลัวแพ้"
"ช่วงนี้หมอดูออกมาทำนายหลายคนก็เหมือนทุกต้นปีแต่ที่แปลกก็คือออกมาโทนเดียวกันว่าจะมีเหตุรุนแรง
ความจริงก็เลี่ยงได้หากผู้มีอำนาจสั่งการอยากสันติ"
"สวัสดีปีใหม่อีกครั้ง ขอโทษด้วยครับที่หายไปหลายวันเพราะยุ่งจริงๆ อีกทั้งมีคำแนะนำให้ผมนิ่งๆ
ไม่พูดอะไรสัก 2-3 วันช่วงปีใหม่ก็เลยเพิ่งกลับมาวันนี้"
วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 06:30:05 น.
มติชนออนไลน์
"แม้ว"บอกหมอดูทำนายตรงกันต้นปีรุนแรงย้ำบ้านเมือง 2มาตรฐาน
ทำปชช.-ชาติพังขอโทษที่เย็บปากหลายวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทวิตข้อความผ่าน twitter.com/Thaksinlive โดยระบุว่า บ้านเมืองยังคงเป็น 2 มาตรฐานอยู่ ทำให้พังทั้งประชาชน
และประเทศชาติ พรัอมกับระบุว่าที่ผ่านมาเงียบหายไปเพราะว่ามีผู้แนะนำให้นิ่งๆ ก่อนในช่วงปีใหม่
"ตอนนี้ถือว่า ball in your court คิดเอาเองว่าอยากให้บ้านเมืองลงเอยอย่างไรถ้าตอกย้ำความไม่เป็นธรรม2มาตรฐาน
อยู่ระบบก็พังประชาชนก็แย่ประเทศเสียหาย"
"เพียงแต่ปรับทัศนคติจากจะบี้ให้ตายมาเป็นหันมาปรองดองเพื่อประชาชน ทำให้เกิดความยุติธรรมขึ้น
มองโลกในแง่ดีเลิกฟังคำสอพลอจากพวกเกาะกินพวกกลัวแพ้"
"ช่วงนี้หมอดูออกมาทำนายหลายคนก็เหมือนทุกต้นปีแต่ที่แปลกก็คือออกมาโทนเดียวกันว่าจะมีเหตุรุนแรง
ความจริงก็เลี่ยงได้หากผู้มีอำนาจสั่งการอยากสันติ"
"สวัสดีปีใหม่อีกครั้ง ขอโทษด้วยครับที่หายไปหลายวันเพราะยุ่งจริงๆ อีกทั้งมีคำแนะนำให้ผมนิ่งๆ
ไม่พูดอะไรสัก 2-3 วันช่วงปีใหม่ก็เลยเพิ่งกลับมาวันนี้"
Unknown- จำนวนข้อความ : 517
Registration date : 09/09/2008
Re: ความเหิมเกริมของทักษิณ...ที่เกินเลย
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000002732
แผนอุบาทว์ “ทักษิณ” พุ่งชนฟ้า-ล้มราชวงศ์!?
9 มกราคม 2553 00:04 น.
เหิมเกริมปลุกระดมให้ร้าย “ราชวงศ์จักรี”
แต่ขณะเดียวกันอาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงของการโหมโรงเตรียมทำศึกขั้นแตกหักในอีกไม่ช้าก็เป็นได้
จำเป็นต้องเปิดหน้าเสี่ยงแลกหมัด เนื่องจากอีกด้านมีเงื่อนไขด้านเวลาบีบคั้นเข้ามา อีกทั้งอาจเป็นว่าถึงเวลาที่
จะต้องสร้างกระแสหาแนวร่วมจากคนบางกลุ่มในสังคม เพราะบังเอิญว่ามีบทความในนิตยสาร “เสียงทักษิณ”
หรือ Voice of Taksin ออกมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งออกมาก่อนการเคลื่อนไหวใหญ่ของคนเสื้อแดงสอดรับกันพอดี
โดยปกหน้าเป็นรูปราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมข้อความที่เป็นเรื่องหลักว่า
“กงกรรมประวัติศาสตร์ TAKSIN RETURNS” ส่วนปกหลัง เป็นภาพของ ทักิณ ชินวัตร
พร้อมข้อความอวยพรปีใหม่คนเสื้อแดง
สำหรับเนื้อหาบทความในนิตยสารดังกล่าว เป็นการจงใจหยิบยกเอากรณีของ “พระเจ้าตากสินมหาราช”
และเหตุการณ์ที่บันทึกในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการเมืองใน ปัจจุบัน มีเจตนา “ปลุกระดม”
เพื่อสร้างความแตกแยกและเกลียดชังอย่างชัดเจน และที่สำคัญก็คือคนเขียนบทความดังกล่าวจงใจมุ่งทำลาย
“ราชวงศ์จักรี” ซึ่งเหิมเกริมและท้าทายอย่างที่สุด
มีการเน้นย้ำเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ยุคกู้ชาติของพระเจ้าตากสินมหาราช และการเปลี่ยนผ่านจากสมัยกรุงธนบุรี
ไปสู่กรุงรัตนโกสินทร์และเป็นการเริ่มต้นของราชวงศ์จักรี
เจตนาของคนเขียนบทความที่ใช้ชื่อว่า “นายทหารเอก กรุงธน” ยังต้องการจงใจว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
หรือพระเจ้าตากสินถูกแย่งชิงอำนาจด้วยการทำรัฐประหารและพระญาติถูกไล่ล่า ประหารเสียสิ้น
อีกทั้งพยายามสื่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ช่วงนี้ว่าถูกบิดเบือนโดยฝ่ายที่เป็นผู้ชนะและกลายมาเป็นภาพแห่ง
ความสงสารของคนไทยตลอดกว่า 200 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันยังให้ร้ายกล่าวหาอย่างตรงๆว่า ราชวงศ์จักรีไม่ถวายพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือ
พยายามลบชื่อกรุงธนบุรีออกจากความทรงจำของไทยตลอดมา เป็นต้น
สร้างกระแส “ทักษิณ” เทียบ “พระเจ้าตาก”
นอกจากนี้ที่น่าสังเกตก็คือคนเขียนบทความดังกล่าวยังพยายามเปรียบเทียบโดยอ้อมและพยายามแก้ต่าง
ในเรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ และกรณีอุปโลกน์ ทักษิณ เป็น “พระเจ้ามูลเมือง” หรือ “เจ้าษิณ” อดีตกษัตริย์ล้านนา
ซึ่งเป็นพิธีกรรมของคนเสื้อแดงที่วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ โดยมี
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่เป็นประธาน รวมไปถึงการใช้เล่ห์เหลี่ยมยกตัวอย่างในเชิงปฏิเสธให้เห็นภาพและ
ให้เกิดเสียงซุบซิบต่อๆกันไป เช่น ปฏิเสธข้อกล่าวหาในเรื่องความเหมือนกันของ “ทักษิณ” กับ “พระเจ้าตากสิน”
แต่กลับจงใจยกตัวอย่างว่า เป็นคนเมืองเหนือเหมือนกัน เป็นคนเชื้อสายจีนเหมือนกัน รวมไปถึงเพิ่มเติมแบบบิดเบือน
ลงไปอีกว่าสามารถกู้วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ของชาติได้เหมือนกัน
โดยพยายามเปรียบเทียบการเสียกรุงกับการกู้หนี้ไอเอ็มเอฟ
และอ้างว่าพระนามของพระเจ้าตากสินนั้นหากเขียนเป็นตัวอักษรโรมันจะเหมือนกับ ทักษิณ คือ TAKSIN นั่นเอง
หากพิจารณาจากบทความบางช่วงบางตอนดังกล่าวสามารถเข้าใจถึงเจตนาของคนพวกนี้ได้ทันทีว่าต้องการบิดเบือน
เพื่อทำลายและมุ่งร้ายต่อราชวงศ์จักรีเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีคนไทยไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตามกล้ากระทำเรื่องเลวร้าย
แบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ดีอย่าได้แปลกใจหากพบว่าทีมงานของนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งเป็นหนังสือในเครือของสถานีโทรทัศน์
ผ่านดาวเทียมดีสเตชั่นของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีฐานบัญชาการอยู่ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว มี
สุธรรม แสงประทุม เป็นประธานบริหาร สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นบรรณาธิการบริหาร
นอกจากนี้เมื่อดูรายชื่อในกองบรรณาธิการ ที่มีนักเขียน และที่ปรึกษาอีกหลายคนที่มีทัศนคติที่เป็นอันตราย
ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บางคนถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพร่วมเป็นทีมงานอย่างพร้อมหน้า
พร้อมตา เช่น วีระ มุสิกพงศ์ สุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ จักรภพ เพ็ญแข จรัล ดิษฐาอภิชัย สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เป็นต้น
ขณะเดียวกันถ้าพิจารณาจากบทความในนิตยสารฉบับนี้ก็จะพบว่าเป็นความ พยายามที่จะสร้างกระแสในกรณีของ
พระเจ้าตากสิน กันจนผิดปกติและเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27-28 ธันวาคม 2552
ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงที่นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่เรียกว่าเป็นกลุ่ม “แดงสยาม”
และมีชื่อเป็นบรรณาธิการบริหารได้เคยนัดชุมนุมเพื่อรำลึกถึงวันปราบดาภิเษกของพระเจ้าตากสินในวันดังกล่าวมาแล้ว
และในชุมนุมครั้งนั้นก็มีการพูดตอกย้ำแบบโหมโรงในเรื่องการ “ถูกรัฐประหาร” อย่างจงใจมาแล้วเช่นเดียวกัน
วันนี้เมื่อ ๒๓๘ปีล่วงมาแล้ว เราลืมไปแล้วหรือเปล่า
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=3239&catid=8
ตอนจบพระเจ้าตาก บ้าจริง หรือ หนีภัย?
โดย วิภา จิรภาไพศาล wipha_chi@yahoo.com
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เป็นต้นมา คณะผู้บริหารขณะนั้นที่พยายามลดทอนอำนาจเก่า
โดยสร้างความสำคัญของพระเจ้าตากสิน รวมถึงการอธิบายการสวรรคตและเรื่องพระสติฟั่นเฟือนของพระเจ้าตากสิน
ในแง่มุมที่แตกต่างจากเอกสารที่กล่าวไปข้างต้น คำถามค้างคาในใจของประชาชนเริ่มปรากฏตัวออกมา
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K8008557/K8008557.html
http://www.newskythailand.us/board/index.php?topic=1582.0;wap2
ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า 24 มิถุนายนปีนี้ภาครัฐไม่ได้จัดงานใดๆเลย ภาคสภาคือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ก็ไม่ได้มีกิจกรรมใด สถาบันการศึกษาของชาติซึ่งมีอยู่นับจำนวนไม่ถ้วนก็ไม่มีกิจกรรมเช่นกันหนักที่สุด
ได้แก่ บรรดาสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ต่างก็พากันเงียบเชียบ เฉยเมย
เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ทราบเป็นเพราะว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 7 คนในสภาและเวทีปราศรัย
ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ล้อมทำเนียบอยู่แย่งพื้นที่ข่าวไปหมดหรืออย่างไร
ผู้เฒ่าผู้แก่ซึ่งมีความรู้ได้เล่าให้ผู้เขียนได้ฟังว่า ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475
คนไทยทั้งชาติแทบไม่รู้จักพระเจ้าตากสิน ผู้ครองกรุงธนบุรีและเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติ
จากการเป็นเมืองขึ้นของพม่าเลย พระเจ้าตากสิน ผู้สถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีและครองเมืองนี้อยู่ 15 ปี
มีคุณูปการมหาศาลต่อประเทศสยาม ถูกสภาพแวดล้อมทางสังคมและการเมืองแห่งยุคสมัยปิดบัง
มิให้คนรู้จักเป็นเวลา ยาวนานกว่า 150 ปี
ครั้นมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันทันยุคทันสมัยแล้ว ชื่อของพระเจ้าตากสิน
จึงได้รับการขานพระนามและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง รวดเร็ว และก็ไม่เห็นว่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ
ของพระราชวงศ์จักรีที่สถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นมาแต่ประการใด ประวัติศาสตร์ ก็คือประวัติศาสตร์
ความจริง ก็คือความจริง การเคารพความจริงทางประวัติศาสตร์มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ใคร
สถาบันใดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับทำให้มีความโปร่งใส มีความผุดผ่อง สูงเกียรติ และสง่างาม
กรณีของพระเจ้าตากเป็นฉันใด ผู้เขียนเห็นว่ากรณีของคณะราษฎรผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ก็คล้ายๆกันคือ เราควรให้ความสำคัญแก่บุคคลในคณะราษฎร และให้ความสำคัญ
แก่เหตุการณ์ในวันนั้นเพื่อให้อนุชนคนในปัจจุบันและลูกหลานในอนาคตได้รู้จักอย่างทะลุปรุโปร่งทุกแง่ทุกมุม
ประเทศที่เขาเจริญแล้วทั้งหลาย ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ล้วนแล้วแต่ผ่านประวัติศาสตร์อันขมขื่น เจ็บปวด
สลับกับความสุข ความสดชื่น มาแล้วทั้งสิ้น ประเทศไทยเราก็มิได้ต่างกับประเทศเหล่านั้น
เราเสียอีกที่มีความ “พิเศษ” มากกว่า เพราะประเทศเรามีพระราชากับราษฎรร่วมมือร่วมใจกันสร้างความเจริญมั่นคง
และความผาสุก ไม่มีการทำลายล้าง แม้การเมืองจะมีการขัดแย้งกันบ้างก็เป็นไปตามปรกติวิสัย วันที่ 24 มิถุนายน
จึงน่าจะเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่ทุกฝ่ายควรยอมรับกันได้ ผู้เขียนจะทวงอย่างนี้ทุกปีจนกว่าจะหมดแรง
att on Fri Dec 25, 2009 5:23 pmhttp://www.pantown.com/board.php?id=14227&name=board1&topic=19&action=view
ความคิดเห็นที่ 18
เหลือเชื่อ การปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ จำเป็นจะต้องประหารชีวิต ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่ดี แม้แต่เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก
ยังยอมถอดอาคมสละชีวิตพร้อมพระเจ้าตาก การยึดอำนาจในหนนั้นมีขุนนางผู้จงรักภักดี ถูกสังหารราว 30 คน
เจ้าฟ้าเหม็น พระโอรสพระเจ้าตาก มารดาเป็นลูกสาวแท้ๆของ พระพุทธยอดฟ้า เจ้าฟ้าเหม็นซึ่งเป็นหลานแท้ๆ
ก็ยังถูกประหารชีวิตพร้อมๆกับครอบครัว หลังจากพระเจ้ายอดฟ้าสวรรคต ร. 2 ซึ่งมีกีกาวิเศษคาบข่าวมาบอกว่า
ลูกหลานพระเจ้าตากจะทวงคืนสมบัติ จึงทำการประหารชีวิตทั้งหมด เป็นการตัดเสี้ยนหนามสิ้น ( เรื่องนี้อ้างแล้ว
จากหนังสือโหราศาสตร์ของคุณยอดธง ทับทิวไม้ วางขายไปทั่ว ถ้าไม่จริงคงโดนฟ้องแล้วมั้ง!!!! )
พระเจ้ายอดฟ้าเก่งมากด้าน โหราศาสตร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่สามารถโค่นบัลลังค์พระเจ้าตากลงสำเร็จ
ปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นเรื่องธรรมดา สมัยก่อนบ้านเมืองใครใหญ่ใครอยู่
.......ประวัติศาสตร์คือนิยายน้ำเน่า
โกหกให้คนทั้งหลายเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องที่แปลก พระเจ้าตากวิกลจริต ต้องทุบด้วยท่อนจันทร์ 9 ครั้ง
ถึงสิ้นลม ทุกวันนี้ ตามคำบันทึก บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ แต่ที่แน่ๆ และถูกบันทึกไว้ในพงศาวดาน คือ
พระเจ้ายอดฟ้าหรือพระพุทธยอดฟ้า พออายุเยอะขึ้น 60 กว่าๆ ก็เริ่มสติวิปลาส วิกลจริตและสวรรคตทั้งวิกลจริตอย่างนั้น
ทุกวันนี้ วิญญาณพระเจ้ายอดฟ้ายังหวงห่วงราชสมบัติและแผ่นดินอยู่จึงยังวนเวียนและ มิได้ไปไหน
เคยเข้าฝันพระบาทสมเด็จฯ ร. 9 บ่อยๆ (หนังสืองานศพหลวงพ่อพุทธวัดป่าสาละวัน ยังเขียนลงเลย
เหตุเมื่อปี พ.ศ. 2512 ) และทุกวันนี้ วิญญาณก็ยังคงเป็นห่วง อยู่เช่นเดิม
...........
แม่ชีวรมัย อ่านแล้ว เข้าใจว่าท่านอยากสื่ออะไรบางอย่าง อ่านดีๆ อ่านซัก 10 รอบ และค้นคว้าหนังสือโหราศาสตร์ประกอบ
ก็จะประติดประต่ออะไรได้บ้าง ) ..... ทุกวันนี้ใครรู้บ้าง พระยาสรรค์เป็นใครหล่ะ ????
" คำคม เป็นธรรมดา กรรมย่อมหมุนกลับตามกฏของโลก ในทางการเมืองก็เหมือนกัน
การยึดมันง่ายกว่าการสร้างใหม่ " แต่จงระลึกไว้เถิดว่า แม้ยึดได้มา ตนเองมีความสุขที่แท้จริงหรือไม่ ?
"พฤกษาผกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง โฑธนเสน่งคงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
แปลตรงๆ ต้นไม้ วัวควาย ตายแล้ว เขาวัวเขาควาย ยังเอามาใช้ทำประโยชน์
แต่มนุษย์เมื่อตายไปหาประโยชน์อันใดไม่ เหลือไว้อย่างเดียว คือความดีอันเป็นอมตะ
แผนอุบาทว์ “ทักษิณ” พุ่งชนฟ้า-ล้มราชวงศ์!?
9 มกราคม 2553 00:04 น.
เหิมเกริมปลุกระดมให้ร้าย “ราชวงศ์จักรี”
แต่ขณะเดียวกันอาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงของการโหมโรงเตรียมทำศึกขั้นแตกหักในอีกไม่ช้าก็เป็นได้
จำเป็นต้องเปิดหน้าเสี่ยงแลกหมัด เนื่องจากอีกด้านมีเงื่อนไขด้านเวลาบีบคั้นเข้ามา อีกทั้งอาจเป็นว่าถึงเวลาที่
จะต้องสร้างกระแสหาแนวร่วมจากคนบางกลุ่มในสังคม เพราะบังเอิญว่ามีบทความในนิตยสาร “เสียงทักษิณ”
หรือ Voice of Taksin ออกมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งออกมาก่อนการเคลื่อนไหวใหญ่ของคนเสื้อแดงสอดรับกันพอดี
โดยปกหน้าเป็นรูปราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมข้อความที่เป็นเรื่องหลักว่า
“กงกรรมประวัติศาสตร์ TAKSIN RETURNS” ส่วนปกหลัง เป็นภาพของ ทักิณ ชินวัตร
พร้อมข้อความอวยพรปีใหม่คนเสื้อแดง
สำหรับเนื้อหาบทความในนิตยสารดังกล่าว เป็นการจงใจหยิบยกเอากรณีของ “พระเจ้าตากสินมหาราช”
และเหตุการณ์ที่บันทึกในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการเมืองใน ปัจจุบัน มีเจตนา “ปลุกระดม”
เพื่อสร้างความแตกแยกและเกลียดชังอย่างชัดเจน และที่สำคัญก็คือคนเขียนบทความดังกล่าวจงใจมุ่งทำลาย
“ราชวงศ์จักรี” ซึ่งเหิมเกริมและท้าทายอย่างที่สุด
มีการเน้นย้ำเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ยุคกู้ชาติของพระเจ้าตากสินมหาราช และการเปลี่ยนผ่านจากสมัยกรุงธนบุรี
ไปสู่กรุงรัตนโกสินทร์และเป็นการเริ่มต้นของราชวงศ์จักรี
เจตนาของคนเขียนบทความที่ใช้ชื่อว่า “นายทหารเอก กรุงธน” ยังต้องการจงใจว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
หรือพระเจ้าตากสินถูกแย่งชิงอำนาจด้วยการทำรัฐประหารและพระญาติถูกไล่ล่า ประหารเสียสิ้น
อีกทั้งพยายามสื่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ช่วงนี้ว่าถูกบิดเบือนโดยฝ่ายที่เป็นผู้ชนะและกลายมาเป็นภาพแห่ง
ความสงสารของคนไทยตลอดกว่า 200 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันยังให้ร้ายกล่าวหาอย่างตรงๆว่า ราชวงศ์จักรีไม่ถวายพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือ
พยายามลบชื่อกรุงธนบุรีออกจากความทรงจำของไทยตลอดมา เป็นต้น
สร้างกระแส “ทักษิณ” เทียบ “พระเจ้าตาก”
นอกจากนี้ที่น่าสังเกตก็คือคนเขียนบทความดังกล่าวยังพยายามเปรียบเทียบโดยอ้อมและพยายามแก้ต่าง
ในเรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ และกรณีอุปโลกน์ ทักษิณ เป็น “พระเจ้ามูลเมือง” หรือ “เจ้าษิณ” อดีตกษัตริย์ล้านนา
ซึ่งเป็นพิธีกรรมของคนเสื้อแดงที่วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ โดยมี
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่เป็นประธาน รวมไปถึงการใช้เล่ห์เหลี่ยมยกตัวอย่างในเชิงปฏิเสธให้เห็นภาพและ
ให้เกิดเสียงซุบซิบต่อๆกันไป เช่น ปฏิเสธข้อกล่าวหาในเรื่องความเหมือนกันของ “ทักษิณ” กับ “พระเจ้าตากสิน”
แต่กลับจงใจยกตัวอย่างว่า เป็นคนเมืองเหนือเหมือนกัน เป็นคนเชื้อสายจีนเหมือนกัน รวมไปถึงเพิ่มเติมแบบบิดเบือน
ลงไปอีกว่าสามารถกู้วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ของชาติได้เหมือนกัน
โดยพยายามเปรียบเทียบการเสียกรุงกับการกู้หนี้ไอเอ็มเอฟ
และอ้างว่าพระนามของพระเจ้าตากสินนั้นหากเขียนเป็นตัวอักษรโรมันจะเหมือนกับ ทักษิณ คือ TAKSIN นั่นเอง
หากพิจารณาจากบทความบางช่วงบางตอนดังกล่าวสามารถเข้าใจถึงเจตนาของคนพวกนี้ได้ทันทีว่าต้องการบิดเบือน
เพื่อทำลายและมุ่งร้ายต่อราชวงศ์จักรีเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีคนไทยไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตามกล้ากระทำเรื่องเลวร้าย
แบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ดีอย่าได้แปลกใจหากพบว่าทีมงานของนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งเป็นหนังสือในเครือของสถานีโทรทัศน์
ผ่านดาวเทียมดีสเตชั่นของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีฐานบัญชาการอยู่ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว มี
สุธรรม แสงประทุม เป็นประธานบริหาร สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นบรรณาธิการบริหาร
นอกจากนี้เมื่อดูรายชื่อในกองบรรณาธิการ ที่มีนักเขียน และที่ปรึกษาอีกหลายคนที่มีทัศนคติที่เป็นอันตราย
ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บางคนถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพร่วมเป็นทีมงานอย่างพร้อมหน้า
พร้อมตา เช่น วีระ มุสิกพงศ์ สุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ จักรภพ เพ็ญแข จรัล ดิษฐาอภิชัย สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เป็นต้น
ขณะเดียวกันถ้าพิจารณาจากบทความในนิตยสารฉบับนี้ก็จะพบว่าเป็นความ พยายามที่จะสร้างกระแสในกรณีของ
พระเจ้าตากสิน กันจนผิดปกติและเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27-28 ธันวาคม 2552
ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงที่นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่เรียกว่าเป็นกลุ่ม “แดงสยาม”
และมีชื่อเป็นบรรณาธิการบริหารได้เคยนัดชุมนุมเพื่อรำลึกถึงวันปราบดาภิเษกของพระเจ้าตากสินในวันดังกล่าวมาแล้ว
และในชุมนุมครั้งนั้นก็มีการพูดตอกย้ำแบบโหมโรงในเรื่องการ “ถูกรัฐประหาร” อย่างจงใจมาแล้วเช่นเดียวกัน
วันนี้เมื่อ ๒๓๘ปีล่วงมาแล้ว เราลืมไปแล้วหรือเปล่า
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=3239&catid=8
ตอนจบพระเจ้าตาก บ้าจริง หรือ หนีภัย?
โดย วิภา จิรภาไพศาล wipha_chi@yahoo.com
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เป็นต้นมา คณะผู้บริหารขณะนั้นที่พยายามลดทอนอำนาจเก่า
โดยสร้างความสำคัญของพระเจ้าตากสิน รวมถึงการอธิบายการสวรรคตและเรื่องพระสติฟั่นเฟือนของพระเจ้าตากสิน
ในแง่มุมที่แตกต่างจากเอกสารที่กล่าวไปข้างต้น คำถามค้างคาในใจของประชาชนเริ่มปรากฏตัวออกมา
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K8008557/K8008557.html
http://www.newskythailand.us/board/index.php?topic=1582.0;wap2
ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า 24 มิถุนายนปีนี้ภาครัฐไม่ได้จัดงานใดๆเลย ภาคสภาคือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ก็ไม่ได้มีกิจกรรมใด สถาบันการศึกษาของชาติซึ่งมีอยู่นับจำนวนไม่ถ้วนก็ไม่มีกิจกรรมเช่นกันหนักที่สุด
ได้แก่ บรรดาสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ต่างก็พากันเงียบเชียบ เฉยเมย
เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ทราบเป็นเพราะว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 7 คนในสภาและเวทีปราศรัย
ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ล้อมทำเนียบอยู่แย่งพื้นที่ข่าวไปหมดหรืออย่างไร
ผู้เฒ่าผู้แก่ซึ่งมีความรู้ได้เล่าให้ผู้เขียนได้ฟังว่า ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475
คนไทยทั้งชาติแทบไม่รู้จักพระเจ้าตากสิน ผู้ครองกรุงธนบุรีและเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติ
จากการเป็นเมืองขึ้นของพม่าเลย พระเจ้าตากสิน ผู้สถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีและครองเมืองนี้อยู่ 15 ปี
มีคุณูปการมหาศาลต่อประเทศสยาม ถูกสภาพแวดล้อมทางสังคมและการเมืองแห่งยุคสมัยปิดบัง
มิให้คนรู้จักเป็นเวลา ยาวนานกว่า 150 ปี
ครั้นมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันทันยุคทันสมัยแล้ว ชื่อของพระเจ้าตากสิน
จึงได้รับการขานพระนามและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง รวดเร็ว และก็ไม่เห็นว่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ
ของพระราชวงศ์จักรีที่สถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นมาแต่ประการใด ประวัติศาสตร์ ก็คือประวัติศาสตร์
ความจริง ก็คือความจริง การเคารพความจริงทางประวัติศาสตร์มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ใคร
สถาบันใดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับทำให้มีความโปร่งใส มีความผุดผ่อง สูงเกียรติ และสง่างาม
กรณีของพระเจ้าตากเป็นฉันใด ผู้เขียนเห็นว่ากรณีของคณะราษฎรผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ก็คล้ายๆกันคือ เราควรให้ความสำคัญแก่บุคคลในคณะราษฎร และให้ความสำคัญ
แก่เหตุการณ์ในวันนั้นเพื่อให้อนุชนคนในปัจจุบันและลูกหลานในอนาคตได้รู้จักอย่างทะลุปรุโปร่งทุกแง่ทุกมุม
ประเทศที่เขาเจริญแล้วทั้งหลาย ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ล้วนแล้วแต่ผ่านประวัติศาสตร์อันขมขื่น เจ็บปวด
สลับกับความสุข ความสดชื่น มาแล้วทั้งสิ้น ประเทศไทยเราก็มิได้ต่างกับประเทศเหล่านั้น
เราเสียอีกที่มีความ “พิเศษ” มากกว่า เพราะประเทศเรามีพระราชากับราษฎรร่วมมือร่วมใจกันสร้างความเจริญมั่นคง
และความผาสุก ไม่มีการทำลายล้าง แม้การเมืองจะมีการขัดแย้งกันบ้างก็เป็นไปตามปรกติวิสัย วันที่ 24 มิถุนายน
จึงน่าจะเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่ทุกฝ่ายควรยอมรับกันได้ ผู้เขียนจะทวงอย่างนี้ทุกปีจนกว่าจะหมดแรง
att on Fri Dec 25, 2009 5:23 pmhttp://www.pantown.com/board.php?id=14227&name=board1&topic=19&action=view
ความคิดเห็นที่ 18
เหลือเชื่อ การปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ จำเป็นจะต้องประหารชีวิต ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่ดี แม้แต่เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก
ยังยอมถอดอาคมสละชีวิตพร้อมพระเจ้าตาก การยึดอำนาจในหนนั้นมีขุนนางผู้จงรักภักดี ถูกสังหารราว 30 คน
เจ้าฟ้าเหม็น พระโอรสพระเจ้าตาก มารดาเป็นลูกสาวแท้ๆของ พระพุทธยอดฟ้า เจ้าฟ้าเหม็นซึ่งเป็นหลานแท้ๆ
ก็ยังถูกประหารชีวิตพร้อมๆกับครอบครัว หลังจากพระเจ้ายอดฟ้าสวรรคต ร. 2 ซึ่งมีกีกาวิเศษคาบข่าวมาบอกว่า
ลูกหลานพระเจ้าตากจะทวงคืนสมบัติ จึงทำการประหารชีวิตทั้งหมด เป็นการตัดเสี้ยนหนามสิ้น ( เรื่องนี้อ้างแล้ว
จากหนังสือโหราศาสตร์ของคุณยอดธง ทับทิวไม้ วางขายไปทั่ว ถ้าไม่จริงคงโดนฟ้องแล้วมั้ง!!!! )
พระเจ้ายอดฟ้าเก่งมากด้าน โหราศาสตร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่สามารถโค่นบัลลังค์พระเจ้าตากลงสำเร็จ
ปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นเรื่องธรรมดา สมัยก่อนบ้านเมืองใครใหญ่ใครอยู่
.......ประวัติศาสตร์คือนิยายน้ำเน่า
โกหกให้คนทั้งหลายเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องที่แปลก พระเจ้าตากวิกลจริต ต้องทุบด้วยท่อนจันทร์ 9 ครั้ง
ถึงสิ้นลม ทุกวันนี้ ตามคำบันทึก บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ แต่ที่แน่ๆ และถูกบันทึกไว้ในพงศาวดาน คือ
พระเจ้ายอดฟ้าหรือพระพุทธยอดฟ้า พออายุเยอะขึ้น 60 กว่าๆ ก็เริ่มสติวิปลาส วิกลจริตและสวรรคตทั้งวิกลจริตอย่างนั้น
ทุกวันนี้ วิญญาณพระเจ้ายอดฟ้ายังหวงห่วงราชสมบัติและแผ่นดินอยู่จึงยังวนเวียนและ มิได้ไปไหน
เคยเข้าฝันพระบาทสมเด็จฯ ร. 9 บ่อยๆ (หนังสืองานศพหลวงพ่อพุทธวัดป่าสาละวัน ยังเขียนลงเลย
เหตุเมื่อปี พ.ศ. 2512 ) และทุกวันนี้ วิญญาณก็ยังคงเป็นห่วง อยู่เช่นเดิม
...........
แม่ชีวรมัย อ่านแล้ว เข้าใจว่าท่านอยากสื่ออะไรบางอย่าง อ่านดีๆ อ่านซัก 10 รอบ และค้นคว้าหนังสือโหราศาสตร์ประกอบ
ก็จะประติดประต่ออะไรได้บ้าง ) ..... ทุกวันนี้ใครรู้บ้าง พระยาสรรค์เป็นใครหล่ะ ????
" คำคม เป็นธรรมดา กรรมย่อมหมุนกลับตามกฏของโลก ในทางการเมืองก็เหมือนกัน
การยึดมันง่ายกว่าการสร้างใหม่ " แต่จงระลึกไว้เถิดว่า แม้ยึดได้มา ตนเองมีความสุขที่แท้จริงหรือไม่ ?
"พฤกษาผกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง โฑธนเสน่งคงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
แปลตรงๆ ต้นไม้ วัวควาย ตายแล้ว เขาวัวเขาควาย ยังเอามาใช้ทำประโยชน์
แต่มนุษย์เมื่อตายไปหาประโยชน์อันใดไม่ เหลือไว้อย่างเดียว คือความดีอันเป็นอมตะ
Unknown- จำนวนข้อความ : 517
Registration date : 09/09/2008
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|