เมล็ดพันธ์แห่งศรัทธา สละชีวารักษาชาติ

[MI-6]

ดิฉันเพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังฝรั่งชื่อ สปาต้า ๓๐๐ จากแผ่นซีดี เป็นหนังที่เก็บไว้เป็นปีแล้ว โดยไม่คิดที่จะหยิบมาเปิดดู

นั่นเพราะว่า รุ้ตอนจบของหนังเรื่องนี้ ว่า จบแบบโศก ฝ่ายสปาร์ตา ๓๐๐ คน ตาย ๒๙๙ คน เหลือรอดหนึ่งคน เป็นนายพลตาเดียว เป็นคนที่ กษัตริย์สปาร์ตา ปล่อยให้กลับไปส่งข่าวยัง ครอบครัวของ กองทัพนักรบสปาร์ตา ๒๙๙ คนให้รู้ว่า ผู้ชายในบ้าน สละชีพเพื่อรักษาศักดิ์ศรีไว้แล้ว

[MI-6]

กษัตริย์สปาตาร์ กับ นักรบอาสา ๓๐๐ คน ร่วมกันออกไปต้านกองทัพเปอร์เชียร์ ที่ปกครองโดยกษัตริย์ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสมมติเทพ มีกองทัพนับแสน ใช้แรดเป็นหนึ่งในพาหนะของนักรบ ซึ่งส่งคนเข้ามาเพื่อขอรับบรรณาการจาก คนสปาร์ตา

กษัตริย์สปาตา ผู้อหังการ์ เพราะเชื่อมั่นว่า คนสปาร์ตาไม่เคยยอมแพ้ให้กับใคร คนสปาร์ตาเกิดมาเป็นนักรบ ที่ต้องรบ โดยมิได้คำนึงผลการแพ้ชนะ เมื่อมีศึก ก็เพียงแต่คัดเลือกคนที่เป็นนักรบ และพร้อมรบ เพื่อออกไปสู้ศึก

คนที่พร้อมจะไปสู่สมรภูมิ โดยไม่ต้องใส่ใจจำนวนฝ่ายตรงข้าม ความน่ากลัวของศัตรูว่ามีเท่าใด
รู้แต่เพียงหน้าที่ของตัวที่ต้องทำ คือ สู้ !!!!!

กษัตริย์สปาร์ตานำทัพด้วยตนเอง คำว่านำทัพมิใช่ว่าเป็นแค่คำพูด เป็นแม่ทัพในลักษณะไข่แดงของกองทัพ แต่กษัตริย์ วิ่งนำเอง ในตอนหนึ่ง กษัตริย์เอ่ยปากถาม กองทัพร่วมของคนเผ่าอื่นที่มาร่วมรบ เพราะตระหนักว่า พวกเปอร์เชียร์จะไม่หยุดแค่สปาร์ตาแน่ เป้าหมายต่อไปคือเผ่าใกล้เคียง ทั้งหมด
คำถามที่กษัตริย์ถามเกิดจากคำปรามาสของ ผู้นำกองทัพร่วม ที่มองว่าทหารหยิบมือแค่นี้จะต้านทานกองทัพอำมหิตของพวกเปอร์เชียร์ได้อย่างไร

พระองค์รับสั่งกับ ทหารผู้ติดตามของกองทัพร่วมว่ามีอาชีพใดบ้าง คำตอบที่ได้ก็คือ บางคนเป็นช่างตีเหล็ก บางคนเป็นช่างตัดผม บางคนเป็นช่างอาชีพต่างๆ กันไป จากนั้นพระองค์ก็หันกลับมาถาม ทหารในกองทัพของพระองค์ว่า
" พวกเจ้าเล่า ทหารสปาร์ตา เจ้ามีอาชีพอะไร "
" สู้ " คำตอบ นั้นคือทหารทั้ง ๒๙๙ คนตอบเป็นเสียงเดียวกัน

แต่มันก้องกังวาลไปทั้งป่าทีเดียว


การส่งนายพลตาเดียวให้กลับมาแจ้งข่าว กับคนในเมือง ไม่ได้เพียงเพื่อส่งข่าวความเป็นตายเท่านั้น
หาก กษัตริย์หวังผลว่า เมล็ดพันธุ์แห่งการต่อสู้ ที่พระองค์ ร่วมกับ นักรบ ๒๙๙ คน ได้หว่านลงไป ด้วยร่าง วิญญาณ และ หัวใจ ในสมรภูมิแห่งนั้น มันจะเติบโตเป็นต้นกล้าขึ้น ด้วยคนสปาร์ตาที่เหลือ

มันเป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์ เพื่อการธำรงรักษาความเป็นชาติ มิใช่เป็นแค่การส่งสารธรรมดา

[MI-6]

กษัตริย์สปาร์ตา บอกกับ คนต่างเผ่าว่า อย่าดูถูกว่ากองทัพพระองค์มาแค่ ๓๐๐ คน กองทัพเปอร์เซียร์มานับหมื่น เป็นแสน แต่จะรู้ได้ยังไงว่า กองทัพใครมีนักรบมากกว่ากัน จำนวนคนเป็นหมื่นเป็นแสนเหล่านั้น จะมีนักรบจริงๆ กี่คน ?

จำนวนคนมิใช่เครื่องกำหนดผลแห่งการต่อสู้

เฉกเช่นเดียวกันกับ การทำงานเพื่อชาติ หากท่านมีคนรักชาติ จำนวนหนึ่งเพื่องานเสียสละ ท่านไม่ต้องมีจำนวนมากมาย แต่หากท่านสามารถเริ่มต้น จากจำนวนคนที่ทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทนจำนวนเล็กน้อย หนึ่ง สอง สาม .... ในเบื้องต้น

ความบริสุทธิ์แห่งจิตใจที่เป็นกุศลเหล่านี้ จะสามารถชักนำ สร้างกระแสสนามความคิดดี ชักนำคนที่คิดดีให้มาอยู่ในเส้นทางร่วมกัน

การต่อสู้กับความเลวร้าย คนดีจำต้องใช้อุบายในการต่อสู้ อุบายที่ว่าคือปัญญาที่แยบยล แต่มิใช่ใช้วิธีเดียวกับผู้ร้ายเลือกใช้

ผู้ร้ายอาจบอกว่า ใครขวางทางต้องตาย
แต่ถ้าเป็นผุ้ดี ก็ต้องบอกว่า ใครขวางทาง เราหาทางเลี่ยงไปทางอื่นจะดีกว่า หาวิธีการอื่นก็ได้

เราอาจต้องเลียนแบบกองทัพสปาร์ตาว่า จำนวนคนมิใช่สิ่งสำคัญ หากท่านสามารถชักจูงคนเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก หากเต็มไปด้วยคนที่เข้ามาเพื่อมุ่งหวังผลใดๆ ติดมือกลับบ้าน มันจะมีประโยชน์อันใด มิสู้ท่านมีจำนวนคนที่เป็นตัวกลั่น เพียงไม่กี่คน เป็นนักสู้ตัวจริง แบบสปาร์ตา จึงส่งผลที่แท้จริงได้

ถามว่าแล้วจะใช้อะไรเป็นเครื่องพิสูจน์คำกล่าวที่ว่า

ตอบได้ง่ายๆ แบบวิทยาศาสตร์ หรือ ทางพระพุทธศาสนาก็ตาม คือจะต้องลงมือปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกต้อง
อย่างแน่วแน่ คนที่จะเข้ามาร่วมต้องมาด้วยใจ มิใช่เพื่อมุ่งหวังผิดๆ แล้วต้องมีของชำร่วยกลับไป ไม่ยอมกลับบ้านมือเปล่า

เพราะหากเป็นแบบนั้น เหมือนกับจะเป็นวิชามาร มากกว่าวิชาระดับเทพค้างคาว ... ขอบอก

[MI-6]

จินตนาการว่า หากเราคิดเหมือนนักรบสปาร์ตา คือ ทำทุกอย่าง เพราะต้องทำ แต่จะไม่สนใจกับผลที่เกิดขึ้น ความวุ่นวายจะไม่มีอย่างแน่นอน

ที่โลกวุ่นทุกวันนี้เพราะคนมองผลที่คาดว่าจะได้รับมากกว่า สิ่งที่จะต้องทำ

ซึ่งเป็นการทำสิ่งที่เรียกว่า ผิดขั้นตอน ผิดกฏแท้ๆ

อย่าไปติดกับดักของผล กับเงื่อนเวลา ว่าจะกำหนดสิ่งนั้นได้เมื่อนั่นเมื่อนี่

เราแค่คนเท่านั้น มิอาจวางสิ่งใดไว้ได้แม่นยำ

แค่ของในตัวเรา เรายังวางมันในที่ที่ควรมิได้เลย จริงไหม

[att]

http://www.oknation.net/blog/only1/2007/10/21/entry-1

เมื่อ ปวงประชา...สิ้นศรัทธา..กองทัพไทย ??

"........
ครั้งหนึ่ง กองทัพไทย ทหารไทยเคยได้รับความศรัทธาและความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนทุกหมู่เหล่า
บทบาทของทหารต่อสังคมไทยในอดีตนั้นดูดีและเป็นเหมือนที่พึ่งแรกๆของประชาชนเสมอเมื่อยามชาติวิกฤต
ภาพของความเป็นองค์กรที่มีวินัย มีระบบ มีระเบียบดูเข้มแข็งและหนักแน่นเสมอในสายตาของประชาชนทั้งชาติ

การที่เป็นอย่างนี้ได้นั้นไม่ใช่สามารถเกิดได้ ทำได้ในระยะเวลาแค่สั้นๆ ทุกสิ่งนั้นล้วนสร้างสมผ่านมารุ่นต่อรุ่น
วันผ่านวัน คุณงามความดีของเหล่าวีรบุรุษของกองทัพทั้งที่ยังคงอยู่และที่สละชีพไปแล้วนั้น
ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเสริมให้กองทัพไทยเป็นที่รักและนับถือจากประชาชน ทั้งหลายสืบเนื่องตลอดมา
ไม่ว่ากองทัพจะทำสิ่งใด ทำอะไร มีพัฒนาการอย่างไรสังคมไทยมิเคยคลางแคลง แม้นมีการทุจริต คอรัปชั่น
มีความผิดพลาดบ้างประชาชนทั่วไปก็ยังคงมองกองทัพในแง่ค่อนข้างดีเสมอและส่วนใหญ่มักจะไว้ใจ
เชื่อใจบรรดาเหล่าขุนศึกแม่ทัพนายกองของกองทัพแทบทุกเรื่อง
อาจกล่าวได้ว่านี่คงเป็นเพราะผลบุญจากสิ่งดีงามในอดีตที่กองทัพเคยสร้าง
สรรค์ไว้ให้แก่ชาติมาตลอดในยามที่ชาติต้องการความสามารถของกองทัพ
ภาพเหล่านี้นั้นจึงดูเหมือนจะหักล้างสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดในกองทัพได้ตลอดมา



.........กาลผ่านไป วันนี้กองทัพไทยยังคงได้รับสิ่งเหล่านี้จากสังคมไทยอยู่หรือไม่
ภาพของกองทัพไทยยังคงเป็นเหมือนที่พึ่งของเหล่าประชายามชาติมีภัยเหมือนดัง
ครั้งอดีตหรือไม่ขุนศึก แม่ทัพ นายกองของกองทัพ ยังคงเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจในเกียรติและ
ศักดิ์ศรีของความเป็นทหารอยู่เหมือนเดิมหรือไม่
องค์กรของทหารยังคงเข้มแข็งและมีระบบระเบียบและวินัยดีหรือไม่ในสายตาของชน
ทั้งชาติ กองทัพไทยยามนี้ได้คิดถึงคำพังเพยเก่าแก่นี้บ้างหรือไม่ "ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา" เรื่องอย่าง
นี้นั้นตัวเองมักจะมองภาพตัวเองไม่เห็นหรือไม่ก็มองเห็นแต่มักจะเป็นภาพลวง
ที่ตัวเองคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ แต่คนอื่นน่ะ เขามักจะมองเห็นเสมอ

http://hacksecrets.getphpbb.com/viewtopic.php?f=6&t=16
ปณิธานทหารอาชีพ

เรียบเรียง/เขียนโดย
น.ต.สมชาติ บุญมาวงค์

"...จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด

จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา..."

*
เราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว *
เรา คือหนึ่ง ซึ่งเป็นไทย
ในใต้หล้า
เรา มีฟ้า อากาศดิน เป็นถิ่นผอง
เรา มีราก เหง้าชีวิต
พิชิตครอง
เรา จึงร้อง บอกทุกที่ นี่เมืองไทย

เป็น สยาม ตามกำเนิด
ควรเชิดไว้
เป็น คนไทย ใจสยาม ตามวงศา
เป็น ชีวิต ที่ลิขิต ตามกันมา
เป็น
ดวงตรา จารึกไว้ ในใจเรา

ทหาร ไทย ใจองอาจ ชาตินักสู้
ทหาร อยู่ คู่ประชา
มาแต่ไหน
ทหาร เทิด เชิดในเกียรติ จอมทัพไทย
ทหาร ไทย ใจยังเที่ยง
เสียงมวลชน

ของ แผ่นดิน กินไม่ได้ ให้มันรู้
ของ ย่าปู่ รู้บ้างไหม
ต้องรักษา
ของ ประเทศ มีขอบเขต ให้เมตตา
ของ พารา อย่าขึ้นป้าย
จำหน่ายมัน

พระ บาทคุ้ม คลุมทั้งเกศ ประเทศชาติ
พระ บาทมาตร์ ราษฎ์จงรัก
ภักดีสรวง
พระ บาทเบศร์ ทั้งขันธ์เขต ไทยทั้งปวง
พระ บาทสรวง ปวงชนภักดิ์
พระจักรี

สมเด็จ เจ้า เนาผ่านฟ้า มาพิภพ
สมเด็จ นบ พบพระคู่
สู่จอมไท้
สมเด็จ นารถ ราชชินี จักรีไทย
สมเด็จ ใน ใจทั่วหล้า
ทั่วฟ้าดิน

พระเจ้า ฟ้า โอรสสา มกุฎราช
พระเจ้า วาด พระอาจ-อง
ทรงเวหน
พระเจ้า เดช สู่ประเทศ เจตน์เบื้องบน
พระเจ้า รณ ณรงค์ยุทธ
พสุธไทย

อยู่หัว ไทย ใจทั้งผอง ขอรองบาท
อยู่หัว มาตร์ ราษฎ์ทั้งหลาย
มลายสูร
อยู่หัว เทิด เกิดสมาน ฉันท์เพิ่มพูน
อยู่หัว ทูน คูณอำนาจ
ให้ชาติเรา

บท ประพันธ์ของนักรบนิรนาม..ถ้าจักตายก็ขอตายในหน้าที่
ถ้าจักพลีก็ขอพลีแด่เหนือหัว ถ้าจักอยู่ก็ขออยู่เพื่อครอบครัว
ถ้าจักชั่วก็ขอชั่วแก่ไพรี..

http://www.oknation.net/blog/StayFoolish/2009/09/12/entry-3


วันเสาร์ ที่ 12 กันยายน 2552

... ฝันเปียกปลายฤดูฝน ของ.. พลเอก ชัยสิทธิ์ พี่ชายแม้วว สนับสนุนให้มีรัฐประหาร หวังช่วยน้อง. ???

(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต)

... ด่วน !!! พลเอกชัยสิทธิ์ พี่ชายแม้วว สนับสนุนให้มีรัฐประหาร .. ฝันเปียกปลายฤดูฝน .....

ข่าวล่าจากบางกอกโพสต์วันนี้ 12 กย.

อดีตผบ.สส. พล้อกชัยสิทธิ์ ชินวัตร กล่าวว่า เขาจะให้ความสนับสนุนการรัฐประหารครั้งใหม่
หากมันสามารถช่วยให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤติการณ์ทางการเมือง“หัวหน้ากลุ่มทำรัฐประหาร
ต้องแก้ปัญหาความแตกแยกทางสังคมสร้างหนทางใหม่ที่ถูกต้องกับประเทศชาติ
แล้วคืนอำนาจให้กับประชาชนเร็วที่สุด” พลเอกชัยสิทธิ์กล่าว พลเอกชัยสิทธิ์ กล่าว
ภายหลังที่มีการคาดการ โดยจตุพร แกนนำของกลุ่มสันบสนุนทักษิณ (นปช.) ที่ว่า อาจจะมีการทำรัฐประหาร
ขณะที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เยี่ยมเยือนสหรัฐฯในปลายสัปดาห์หน้า พลเอกชัยสิทธิ์ ยอมรับว่า
เขาเพิ่งเดินทางกลับจากเยี่ยมอดีตนายกฯทักษิณที่ดูไบ. เขากล่าวว่า ทักษิณมีความสุขในการทำธุรกิจ
กับนักลงทุนต่างชาติแต่เขายังคงต้องการกลับประเทศ เพื่อมาอยู่กับครอบครัว.

[hacksecrets]