เกิดอย่างไพร่ สู้อย่างไท ตายอย่างเสรีชน
2 posters
หน้า 1 จาก 1
เกิดอย่างไพร่ สู้อย่างไท ตายอย่างเสรีชน
'''''' ไม่มีอะไรในกอไผ่(เพราะป่าถูกเผาทำสนามก๊อฟหมดแล้ว)...มีแต่ศพอยู่ที่สี่แยก จ้า...
A-Team- จำนวนข้อความ : 44
Registration date : 02/09/2010
ไพร่ กับ ทาส
ยุคนี้ไม่มีทั้งไพร่ และ ทาส ที่เป็นคำนาม แทนชนชั้น
ไพร่ มีความหมายสองอย่าง อย่างที่หนึ่ง สามัญชน คนทั่วไป หรือ ประชาชน ธรรมดา
อย่างที่สอง คือ คนเลว
ทาส มีหลายความหมาย เขานิบามว่า แบบนี้
อย่างแรก..... ผู้ที่อุทิศตนแก่สิ่งที่เลื่อมใสศรัทธา เช่น เป็นทาส
ความรู้
๒ ผู้ที่ยอมตนให้ตกอยู่ในอํานาจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เป็นทาส
การพนัน
๓ เป็นทาสอมายมุข โลกียะ เช่น ยาเสพติด เป็นทาสความรัก เป็นทาสเงิน กลุ่มนี้คือพวก
ผีโม่แป้ง
๔ ผู้ที่ขายตัวลงเป็นคนรับใช้หรือที่นายเงินไถ่ค่าตัวมา เรียกว่า
ทาสนํ้าเงิน หรือ บ่าว ,
๕ ลูกของทาสนํ้าเงิน เรียกว่า ทาสเรือนเบี้ย หรือ ทาสในเรือนเบี้ย
๖ ทาสที่เอาเงินไปซื้อมา เรียกว่าทาสสินไถ่
๗ แพ้สงครามเขาก็ต้องตกเป็นเชลย เรียกว่า ทาสเชลย,
คำว่าไพร่ เมื่อพูดแล้ว ไม่รู้ว่าเจตนาของคนพูด คนเขียนบทความต่างๆ ต้องการสื่อความหมายอะไร
จะกดดันให้คนอ่าน เจ็บใจเล่น แล้วร่วมกันลุกฮือ เพื่อหาความเท่าเทียม (ซึ่งมันไม่มี ต่อให้เปลี่ยนระบบอะไร
ก็ไม่มีวันที่จะได้สิ่งนั้น) หาสิ่งที่ไม่มีจริง แล้วก็มองไม่เห็น
สังคมไทยที่เป็นมาไม่เคยมีความเลวทรามในแบบที่ นักเขียนหลายคนพยายามปลุกปั่น
แล้วพวกนี้ก็ควรจะพอเสียทีกับสิ่งทีพ่ยายามกระทำอยู่
ปล่อยให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข ทำมาหากิน บ้าง ถ้าว่างๆ ก็ควรจะหาทางเพิ่มรายได้ให้ประเทศชาติ
พวกนักวิชาการ พวกองค์กรที่ดูว่าจะพิทักษ์ประชาเหล่านี้ มีรายได้จากไหน แล้วทำอะไรเป็นรูปธรรม
ความเปลี่ยนแปลงในสังคมใดๆ มันย่อมเป็นไปตามกลไก โดยธรรมชาติอยู่เอง ทำไมต้องใช้น้ำมือ
มนุษย์เป็นตัวกระทำด้วย
และที่ทำกันอยู่ก็ไม่ได้จะต้องการให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่เป็นการเล่นตามเกมส์
และบทบาทที่คนบงการต้องการต่างหาก ไม่ว่าใครมีอำนาจ ประชาชนก็มีขนาดพื้นที่ของสิทธิ
เท่าเดิม
ไพร่ มีความหมายสองอย่าง อย่างที่หนึ่ง สามัญชน คนทั่วไป หรือ ประชาชน ธรรมดา
อย่างที่สอง คือ คนเลว
ทาส มีหลายความหมาย เขานิบามว่า แบบนี้
อย่างแรก..... ผู้ที่อุทิศตนแก่สิ่งที่เลื่อมใสศรัทธา เช่น เป็นทาส
ความรู้
๒ ผู้ที่ยอมตนให้ตกอยู่ในอํานาจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เป็นทาส
การพนัน
๓ เป็นทาสอมายมุข โลกียะ เช่น ยาเสพติด เป็นทาสความรัก เป็นทาสเงิน กลุ่มนี้คือพวก
ผีโม่แป้ง
๔ ผู้ที่ขายตัวลงเป็นคนรับใช้หรือที่นายเงินไถ่ค่าตัวมา เรียกว่า
ทาสนํ้าเงิน หรือ บ่าว ,
๕ ลูกของทาสนํ้าเงิน เรียกว่า ทาสเรือนเบี้ย หรือ ทาสในเรือนเบี้ย
๖ ทาสที่เอาเงินไปซื้อมา เรียกว่าทาสสินไถ่
๗ แพ้สงครามเขาก็ต้องตกเป็นเชลย เรียกว่า ทาสเชลย,
คำว่าไพร่ เมื่อพูดแล้ว ไม่รู้ว่าเจตนาของคนพูด คนเขียนบทความต่างๆ ต้องการสื่อความหมายอะไร
จะกดดันให้คนอ่าน เจ็บใจเล่น แล้วร่วมกันลุกฮือ เพื่อหาความเท่าเทียม (ซึ่งมันไม่มี ต่อให้เปลี่ยนระบบอะไร
ก็ไม่มีวันที่จะได้สิ่งนั้น) หาสิ่งที่ไม่มีจริง แล้วก็มองไม่เห็น
สังคมไทยที่เป็นมาไม่เคยมีความเลวทรามในแบบที่ นักเขียนหลายคนพยายามปลุกปั่น
แล้วพวกนี้ก็ควรจะพอเสียทีกับสิ่งทีพ่ยายามกระทำอยู่
ปล่อยให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข ทำมาหากิน บ้าง ถ้าว่างๆ ก็ควรจะหาทางเพิ่มรายได้ให้ประเทศชาติ
พวกนักวิชาการ พวกองค์กรที่ดูว่าจะพิทักษ์ประชาเหล่านี้ มีรายได้จากไหน แล้วทำอะไรเป็นรูปธรรม
ความเปลี่ยนแปลงในสังคมใดๆ มันย่อมเป็นไปตามกลไก โดยธรรมชาติอยู่เอง ทำไมต้องใช้น้ำมือ
มนุษย์เป็นตัวกระทำด้วย
และที่ทำกันอยู่ก็ไม่ได้จะต้องการให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่เป็นการเล่นตามเกมส์
และบทบาทที่คนบงการต้องการต่างหาก ไม่ว่าใครมีอำนาจ ประชาชนก็มีขนาดพื้นที่ของสิทธิ
เท่าเดิม
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|