3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
4 posters
หน้า 1 จาก 1
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
โชคดีที่ตายก่อน
MI-6 Tue Sep 21, 2010 9:40 am
ข่าวเขาว่า.....
วันนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมถึงเรื่องการประมูล 3จี ว่า อยากจะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับสาธารณชน หรือผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่า แม้ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ... (กสทช.) จะสามารถเร่งรัดให้เสร็จภายใน 3-5 เดือน ซึ่งเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 4-5 เดือน แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ออกมาแล้ว จะมีคณะกรรมการ กสทช.ภายใน 1-2 เดือน ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งวุฒิสภาเป็นสำนักเลขานุการในการจัดสรรหา มีกระบวนการในการจดทะเบียนของผู้ที่มีสิทธิ์เข้ามาเป็นคณะกรรมการสรรหา และก็ต้องมีการคัดเลือกกันเอง ซึ่งคาดว่า กว่าจะสรรหากรรมการ กสทช.ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือมากกว่านั้น ดังนั้น เป็นการชี้นำที่ไม่ถูกต้อง และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจผิด หรือผู้ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เชื่อว่าอีก 4 เดือน จะมีการ กสทช.
.... บอกกอ่นว่าไม่ได้ปลื้มปิติกับรัฐบาล นายกอิมพอร์ต คนนี้ แต่ก็ระอาใจกับ ความ .... ไมใช้คำหยายคายดีกว่า เขียนไปก็มีแต่จะทำให้คนเขียนเสื่อมค่าลงไป
...ร่าง กม.ที่จะตั้ง กสทช ผู้มีอำนาจในการจัดสรรคลื่น ความถี่ เรื่อง ๓ จี นี้ เขาเสนอมาตั้งแต่สมัย สมัคร รักแมวเป็นนายก และ ต่อเนื่องจนถึง สมชาย ผู้ขอบสะสมตู้(เย็น) ก็มีอันต้องตีกลับ และ ตาม รธน ปี ๕๐ บอกว่าจะต้องตั้ง คณะกรรมการภายใน ๑๘๐ วัน ในวันที่รัฐบาล ประกาศนโยบาย ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะตั้ง
เหตุผลก็คือ ไม่มีใครอยากให้ ๓ จีได้ใช้ เพราะว่า บริษัทที่เป็นคนขายคลื่น เขายังไม่อยาก แต่ตอนนี้อยากแล้ว
เนื่องจากว่า อัตราเงินที่จะคืนกำไรให้รัฐ สำหรับใบอนุญาตของ ๓ จี เป็นแค่ ร้อยละ ๖ ของค่าบริการเท่านั้น
ในขณะที่ระบบเก่า เป็น ๒๕ % และอาจจะสูงขึ้นตามระบุในสัญญาสัมปทาน
อันที่จริงมันมีดีกว่านั้น นั่นก็คือ ทสท ซึ่งเป็นเจ้าของเลขหมาย สามารถจัดสรร และให้บริการระบบสามจีนี่ได้แล้ว เพราะมีความพร้อม ทั้งระบบโครงข่าย ซึ่งบริษัท สัมปทานโทรศัพท์ระบบ ๒ จี ลงทุนและตามสัญญาจะต้อง
ตกเป็นของรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นเจ้าของเลขหมายด้วยอีกต่างหาก
ที่เขาอยากจะผลักดันให้มี ๓ จี ด้วยค่ายเอกชน ในตอนนี้จนตัวสั่นนั้น เพราะกลัวว่า ระบบโทรศัพท์นี้
จะโดน ทสท หรือ รัฐบาลดำเนินการ ก่อน
ก็ประเทศไม่ใช่ของเขาคนเดียวนี่นา แต่กระเป๋าเป็นของเขาคนเดียว .... ผิดแล้ว...ของเขาและคณะ
ดังนั้น ก็เลยเกิดอาการดิ้นพลาดๆ เป็นว่า ถ้าไม่มี สามจี (ซึ่งจริงๆ คือ ๓.๙ จี) ก็จะต้องตายคาที่
โดยพยายามดันความรู้สึก คลั่งเทคโน ให้กับบรรจาขาโจ๋ ที่อยากใช้ (จนตัวสั่นพอกัน) แบบไม่ใช่ไม่ได้
ถึงตายทีเดียว
โปรดติดตามตอนต่อไป เรื่องนี้เขียนไม่จบค่ะ
ส่วนใครโชคดีที่ตายก่อน ก็คงรู้กันแล้ว เอ๊ะ หรือว่าจะโชคร้ายก็ไม่รู้ ที่อด......
วันนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมถึงเรื่องการประมูล 3จี ว่า อยากจะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับสาธารณชน หรือผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่า แม้ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ... (กสทช.) จะสามารถเร่งรัดให้เสร็จภายใน 3-5 เดือน ซึ่งเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 4-5 เดือน แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ออกมาแล้ว จะมีคณะกรรมการ กสทช.ภายใน 1-2 เดือน ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งวุฒิสภาเป็นสำนักเลขานุการในการจัดสรรหา มีกระบวนการในการจดทะเบียนของผู้ที่มีสิทธิ์เข้ามาเป็นคณะกรรมการสรรหา และก็ต้องมีการคัดเลือกกันเอง ซึ่งคาดว่า กว่าจะสรรหากรรมการ กสทช.ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือมากกว่านั้น ดังนั้น เป็นการชี้นำที่ไม่ถูกต้อง และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจผิด หรือผู้ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เชื่อว่าอีก 4 เดือน จะมีการ กสทช.
.... บอกกอ่นว่าไม่ได้ปลื้มปิติกับรัฐบาล นายกอิมพอร์ต คนนี้ แต่ก็ระอาใจกับ ความ .... ไมใช้คำหยายคายดีกว่า เขียนไปก็มีแต่จะทำให้คนเขียนเสื่อมค่าลงไป
...ร่าง กม.ที่จะตั้ง กสทช ผู้มีอำนาจในการจัดสรรคลื่น ความถี่ เรื่อง ๓ จี นี้ เขาเสนอมาตั้งแต่สมัย สมัคร รักแมวเป็นนายก และ ต่อเนื่องจนถึง สมชาย ผู้ขอบสะสมตู้(เย็น) ก็มีอันต้องตีกลับ และ ตาม รธน ปี ๕๐ บอกว่าจะต้องตั้ง คณะกรรมการภายใน ๑๘๐ วัน ในวันที่รัฐบาล ประกาศนโยบาย ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะตั้ง
เหตุผลก็คือ ไม่มีใครอยากให้ ๓ จีได้ใช้ เพราะว่า บริษัทที่เป็นคนขายคลื่น เขายังไม่อยาก แต่ตอนนี้อยากแล้ว
เนื่องจากว่า อัตราเงินที่จะคืนกำไรให้รัฐ สำหรับใบอนุญาตของ ๓ จี เป็นแค่ ร้อยละ ๖ ของค่าบริการเท่านั้น
ในขณะที่ระบบเก่า เป็น ๒๕ % และอาจจะสูงขึ้นตามระบุในสัญญาสัมปทาน
อันที่จริงมันมีดีกว่านั้น นั่นก็คือ ทสท ซึ่งเป็นเจ้าของเลขหมาย สามารถจัดสรร และให้บริการระบบสามจีนี่ได้แล้ว เพราะมีความพร้อม ทั้งระบบโครงข่าย ซึ่งบริษัท สัมปทานโทรศัพท์ระบบ ๒ จี ลงทุนและตามสัญญาจะต้อง
ตกเป็นของรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นเจ้าของเลขหมายด้วยอีกต่างหาก
ที่เขาอยากจะผลักดันให้มี ๓ จี ด้วยค่ายเอกชน ในตอนนี้จนตัวสั่นนั้น เพราะกลัวว่า ระบบโทรศัพท์นี้
จะโดน ทสท หรือ รัฐบาลดำเนินการ ก่อน
ก็ประเทศไม่ใช่ของเขาคนเดียวนี่นา แต่กระเป๋าเป็นของเขาคนเดียว .... ผิดแล้ว...ของเขาและคณะ
ดังนั้น ก็เลยเกิดอาการดิ้นพลาดๆ เป็นว่า ถ้าไม่มี สามจี (ซึ่งจริงๆ คือ ๓.๙ จี) ก็จะต้องตายคาที่
โดยพยายามดันความรู้สึก คลั่งเทคโน ให้กับบรรจาขาโจ๋ ที่อยากใช้ (จนตัวสั่นพอกัน) แบบไม่ใช่ไม่ได้
ถึงตายทีเดียว
โปรดติดตามตอนต่อไป เรื่องนี้เขียนไม่จบค่ะ
ส่วนใครโชคดีที่ตายก่อน ก็คงรู้กันแล้ว เอ๊ะ หรือว่าจะโชคร้ายก็ไม่รู้ ที่อด......
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
รอรุ่นเหลนดีกว่า (สี่จี)
MI-6 Tue Sep 21, 2010 5:02 pm
ก็ในเมื่อตอนนี้ หากจะใช้ 3G มันเป็น 3.9G ดังนั้น มิสู้รอให้เป็น 4G คือรุ่นเหลนดีกว่าหรือไม่
เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ว่า ใช้ไปปีสองปีก็๖องเปลี่ยนแปลงระบบอยู่แล้ว
ตอนแรกจะเขียนเป็นตารางแต่มีปัญหาการจัดการรูป (คือไม่ชำนาญ ทำไม่เป็น ) ต้องอาศัยท่าน sunny
กรุณาวางรูปก่อนหน้านี้ให้
ปัญหาข้อกฎหมายกับการประมูลที่หากจะจัดขึ้น
๑ จากตาราง หน่วยงาน กทช ไม่มีอำนาจ เพราะ กม.ให้ กสทช แล้วกทช จะอ้างนิ่มๆ ว่า
ในเมื่อยังไม่มี กสทช ก็ให้ กทช ดำเนินการก่อน (จะเอาเหมือนเรื่อง คตส เลย )
นักกฏหมายบอกว่า ทำไม่ได้ อ้างเช่นนันก็มิชอบด้วยข้อกม.
๒ ปัญหาสำคัญก็คือมีการทำอะไรหลายอย่าง ที่ผิดกับสัญญาสัมปทาน อาทิ บริษัท ที่จะมาประมูล
ใบอนุญาต ทำ สามจี จะเป็นบริษัทเดิม หรือ บริษัทลูกของเดิมไม่ได้ ต้องเป็นรายใหม่ เนื่องจากว่า
บริษัทที่ตั้งนี้จะต้องสร้างอุปกรณ์ และโครงข่ายใหม่ ไม่อาจใช้ของ ที่เป็นของ ทสท ได้ เพราะว่า
ผู้ให้บริการเดิมเมื่อสร้างแล้ว สมบัติเป็นของรัฐบาลไทย จะใช้ได้ก็ต้อง เช่า หรือ จ่ายเงิน ไม่มีการให้ฟรี
และเมื่อเปิดให้บริการสามจีแล้วไม่อาจดึงลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าของระบบ สองจี หรือพูดง่ายๆ
ว่าลูกค้าเก่าของบริษัทแม่ มาได้ เพราะขัดกับสัญญาสัมปทานอีกเหมือนกัน
ในขณะที่ ทสท ให้บริการได้ เพราะไม่ได้ระบุในสัญญา และที่สำคัญ ซึ่งเราอาจลืมกันไปว่า
เลขหมายโทรคมนาคม(หรือเบอร์โทร) นั้นเจ้าของคือ ทอท หรือ ทสท เดิม ซึ่งเวลาเราจ่ายเงิน
ค่าโทรศัพท์ เขาจะเก็บค่าบริการเลขหมายเราด้วย (ในระบบอนาล็อค โทรศัพท์บ้าน)
สองข้อนี้ก็ทำให้การประมูลไม่ควรจัดขึ้นแล้ว
ถ้าจะให้ดีต้องไปฟังทำแถลงของศาลปกครองกลางที่ท่านวินิจฉัย จะได้ซาบซึ้งยิ่งขึ้น
อาจมีคนบอกว่า ก็เขาจะต้องมีการประมูล เสียค่าประมูลแล้วจะมาว่า รัฐบาลจะขาดรายได้
จาก ร้อยละ ๒๕ เหลือ ร้อยละ ๖ ของระบบใหม่ได้อย่างไร
ได้สิคะ เพราะว่า เขาคาดหมายว่า การประมูลนั้น อาจเป็นระดับหลายหมื่นล้านแต่มันคราวเดียว
แต่เขาจะฟาด ค่าโทรศัพท์ที่มารองรับ ระบบใหม่ เพื่อให้โดนใจผู้ใช้บริการ ซึ่งมักจะไม่ค่อยรู้ตัวเอง
ว่าการจะไปตามเทคโนโลยี แบบไม่คิดชีวิตนั้น มันควรหรือไม่ แล้วมันได้สร้างปัญญาขึ้นมาจริง
หรือเปล่า หรือว่าเป็นอะไรสักอย่างให้เขาจุงไปเรื่อยๆ ตามทุ่งกว้าง แต่ยังไม่รู้ตัว
นี่ยังไม่ได้นึกถึงประเด็นการฮั้วนะ
เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ว่า ใช้ไปปีสองปีก็๖องเปลี่ยนแปลงระบบอยู่แล้ว
ตอนแรกจะเขียนเป็นตารางแต่มีปัญหาการจัดการรูป (คือไม่ชำนาญ ทำไม่เป็น ) ต้องอาศัยท่าน sunny
กรุณาวางรูปก่อนหน้านี้ให้
ปัญหาข้อกฎหมายกับการประมูลที่หากจะจัดขึ้น
๑ จากตาราง หน่วยงาน กทช ไม่มีอำนาจ เพราะ กม.ให้ กสทช แล้วกทช จะอ้างนิ่มๆ ว่า
ในเมื่อยังไม่มี กสทช ก็ให้ กทช ดำเนินการก่อน (จะเอาเหมือนเรื่อง คตส เลย )
นักกฏหมายบอกว่า ทำไม่ได้ อ้างเช่นนันก็มิชอบด้วยข้อกม.
๒ ปัญหาสำคัญก็คือมีการทำอะไรหลายอย่าง ที่ผิดกับสัญญาสัมปทาน อาทิ บริษัท ที่จะมาประมูล
ใบอนุญาต ทำ สามจี จะเป็นบริษัทเดิม หรือ บริษัทลูกของเดิมไม่ได้ ต้องเป็นรายใหม่ เนื่องจากว่า
บริษัทที่ตั้งนี้จะต้องสร้างอุปกรณ์ และโครงข่ายใหม่ ไม่อาจใช้ของ ที่เป็นของ ทสท ได้ เพราะว่า
ผู้ให้บริการเดิมเมื่อสร้างแล้ว สมบัติเป็นของรัฐบาลไทย จะใช้ได้ก็ต้อง เช่า หรือ จ่ายเงิน ไม่มีการให้ฟรี
และเมื่อเปิดให้บริการสามจีแล้วไม่อาจดึงลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าของระบบ สองจี หรือพูดง่ายๆ
ว่าลูกค้าเก่าของบริษัทแม่ มาได้ เพราะขัดกับสัญญาสัมปทานอีกเหมือนกัน
ในขณะที่ ทสท ให้บริการได้ เพราะไม่ได้ระบุในสัญญา และที่สำคัญ ซึ่งเราอาจลืมกันไปว่า
เลขหมายโทรคมนาคม(หรือเบอร์โทร) นั้นเจ้าของคือ ทอท หรือ ทสท เดิม ซึ่งเวลาเราจ่ายเงิน
ค่าโทรศัพท์ เขาจะเก็บค่าบริการเลขหมายเราด้วย (ในระบบอนาล็อค โทรศัพท์บ้าน)
สองข้อนี้ก็ทำให้การประมูลไม่ควรจัดขึ้นแล้ว
ถ้าจะให้ดีต้องไปฟังทำแถลงของศาลปกครองกลางที่ท่านวินิจฉัย จะได้ซาบซึ้งยิ่งขึ้น
อาจมีคนบอกว่า ก็เขาจะต้องมีการประมูล เสียค่าประมูลแล้วจะมาว่า รัฐบาลจะขาดรายได้
จาก ร้อยละ ๒๕ เหลือ ร้อยละ ๖ ของระบบใหม่ได้อย่างไร
ได้สิคะ เพราะว่า เขาคาดหมายว่า การประมูลนั้น อาจเป็นระดับหลายหมื่นล้านแต่มันคราวเดียว
แต่เขาจะฟาด ค่าโทรศัพท์ที่มารองรับ ระบบใหม่ เพื่อให้โดนใจผู้ใช้บริการ ซึ่งมักจะไม่ค่อยรู้ตัวเอง
ว่าการจะไปตามเทคโนโลยี แบบไม่คิดชีวิตนั้น มันควรหรือไม่ แล้วมันได้สร้างปัญญาขึ้นมาจริง
หรือเปล่า หรือว่าเป็นอะไรสักอย่างให้เขาจุงไปเรื่อยๆ ตามทุ่งกว้าง แต่ยังไม่รู้ตัว
นี่ยังไม่ได้นึกถึงประเด็นการฮั้วนะ
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
n-1
MI-6 Tue Sep 21, 2010 6:06 pm
ผู้จัดประมูล อาจจะบอกว่าเขาวางวิธีการไว้อย่างฉลาดแล้ว นั่นคือ ใช้เลือกรายที่ประมูล เป็น n-1
n = จำนวนผู้ประมูล
กรณีนี้มี ๓ ราย คือ AIS DTAC and TRUE ส่วน FALSE ยังไม่ได้ขึ้น
จึงกลายเป็นว่า ผู้ที่ได้รับรอบแรก ๒ ราย ส่วนรายที่ ๓ จะได้ ใน ๙๐ วัน
กลยุทธนี้เอง ที่ ผู้จัดคิดว่า จะป้องกันการฮั้วได้ (ไม่จริงมั้ง) เพราะทุกคนกลัวว่า
๑ ในอีก ๙๐ วันอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ทราบ
๒ อาจมีความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้ไม่มีการประมูลรอบสอง
๓ รอบสองอาจมีคนแข่งมากขึ้น โอกาสที่จะได้ จึงน้อยลงไป
การตั้งให้ได้ใน เดือนกันยายน อาจเป็นเพราะว่า กรรมการของ กทช นั้น มี สามคนที่จะหมดอายุใน ๓๐ กันยายน นี้ ดังนั้นหากเหลืออีก ๓ น้อยกว่าครึ่ง (คือเต็มคณะมี ๗ คน) จะไม่อาจจัดการประมูลได้
จึงพยายามเร่งรัด ทำโรดโชว์ สารพัดด้วยงบ ห้าสิบล้านบาท และหากมีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า
ไม่อาจทำหน้าที่ได้ ตามที่ร้องขอไป ปัญหาคือ ว่าใครจะหาเงิน๕๐ ล้านบาทมาคืนรัฐบาล
เงินที่จ่ายไปโดยผู้ไม่มีหน้าที่จ่าย
เหตุผลสำคัญที่ไม่ควรประมูล (และเป็นเหตุผลเดียวกันที่จะตะแบงประมูล)
ลองฟัง กรณีคัดประมูลก่อน
** หากศาลตัดสินว่า การประมูลมิชอบ แล้วในที่สุด ก็จะต้องย้อนกลับคืนทั้งหมด
ในขณะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลต่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งมันจะวุ่นวาย
ประเทศเราไม่ควรเพิ่มปัญหา ที่ไม่ก่อให้กิดปัญญาแบบนี้เลยนะ ขอบอก
หันมาดูกรณีที่ตะแบงประมูล
** เหตุผลเดียวกันเปี๊ยบ ก็ในเมื่อมีคนจำนวนมากใช้ แล้วจะปลุกกระแส สาธารณะ
ว่าหากยกเลิกจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงจะกดดันมิให้ยกเลิกในวาระต่อไป
ตามแนวทางที่ถนัด ของคนยุคนี้ ใช้กระแส เข้าแถไปวันๆ
n = จำนวนผู้ประมูล
กรณีนี้มี ๓ ราย คือ AIS DTAC and TRUE ส่วน FALSE ยังไม่ได้ขึ้น
จึงกลายเป็นว่า ผู้ที่ได้รับรอบแรก ๒ ราย ส่วนรายที่ ๓ จะได้ ใน ๙๐ วัน
กลยุทธนี้เอง ที่ ผู้จัดคิดว่า จะป้องกันการฮั้วได้ (ไม่จริงมั้ง) เพราะทุกคนกลัวว่า
๑ ในอีก ๙๐ วันอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ทราบ
๒ อาจมีความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้ไม่มีการประมูลรอบสอง
๓ รอบสองอาจมีคนแข่งมากขึ้น โอกาสที่จะได้ จึงน้อยลงไป
การตั้งให้ได้ใน เดือนกันยายน อาจเป็นเพราะว่า กรรมการของ กทช นั้น มี สามคนที่จะหมดอายุใน ๓๐ กันยายน นี้ ดังนั้นหากเหลืออีก ๓ น้อยกว่าครึ่ง (คือเต็มคณะมี ๗ คน) จะไม่อาจจัดการประมูลได้
จึงพยายามเร่งรัด ทำโรดโชว์ สารพัดด้วยงบ ห้าสิบล้านบาท และหากมีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า
ไม่อาจทำหน้าที่ได้ ตามที่ร้องขอไป ปัญหาคือ ว่าใครจะหาเงิน๕๐ ล้านบาทมาคืนรัฐบาล
เงินที่จ่ายไปโดยผู้ไม่มีหน้าที่จ่าย
เหตุผลสำคัญที่ไม่ควรประมูล (และเป็นเหตุผลเดียวกันที่จะตะแบงประมูล)
ลองฟัง กรณีคัดประมูลก่อน
** หากศาลตัดสินว่า การประมูลมิชอบ แล้วในที่สุด ก็จะต้องย้อนกลับคืนทั้งหมด
ในขณะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลต่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งมันจะวุ่นวาย
ประเทศเราไม่ควรเพิ่มปัญหา ที่ไม่ก่อให้กิดปัญญาแบบนี้เลยนะ ขอบอก
หันมาดูกรณีที่ตะแบงประมูล
** เหตุผลเดียวกันเปี๊ยบ ก็ในเมื่อมีคนจำนวนมากใช้ แล้วจะปลุกกระแส สาธารณะ
ว่าหากยกเลิกจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงจะกดดันมิให้ยกเลิกในวาระต่อไป
ตามแนวทางที่ถนัด ของคนยุคนี้ ใช้กระแส เข้าแถไปวันๆ
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
ไหนๆ ก็เป็นยุคกระแส ไม่พูดจะกลายเป็นเชย
MI-6 Tue Sep 21, 2010 6:14 pm
ดังต่อเนื่อง จนกระทั่ง จตุพร เด็จพี่โบท็อก ปลอดประสบการณ์ ฯลฯ ต้องชิดซ้ายไปเชียงใหม่นั่นเลย
รวมทั้ง กลุ่มแดง ณ ราชประสงค์ ซึ่งคนเรียกให้เขียนจดหมาย ใส่ลูกโป่ง หนีกระเจิง เพราะคุมคนไม่ได้
นั่นคือ ข่าวดารา ที่ยังเถีงกันในเรื่อง งี่เง่า กับการตรวจ ดีเอ็นเอ
เบื้องต้นไม่ต้องตรวจ ดูง่ายๆ มือ เท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า ของลูกจะต้องเหมือนพ่อ หรือ แม่คนใดคนหนึ่ง
แบบนี้แหละ หากนิ้วมือ นิ้วเท้าไม่เหมือนกัน ลักษณะมือเท้าเป็นคนละโลก นั่นก็ต้องทดสอบในประเด็นต่อไป
และ หญิงสาวในข่าวนั้นทำไมไม่ยืนกราน ว่า ไม่ให้ตรวจ(โว้ย) เอ็งนั่นแหละ เป็นตัวการ ไม่กล้ารับ
ก็ไม่ต้องรับ เพราะอีกไม่นาน คุณเธอ อาจจะรวยกว่าก็ได้ เพราะตอนนี้ข่าวว่า งานเข้าเพียบ
ส่วนใครที่อาจระอาใจกับข่าวในมุ้ง แล้วก็หาว่า เมืองไทยด้อยพัฒนา
โปรดอย่าลืมว่า ชายชื่อคลินตัน ปธน สองสมัย ที่ได้รับคะแนนท่วมท้น คนรักทั้งประเทศ
ก็เคยโดน ตรวจสอบออกทีวีเหมือนกัน เพราะดันไปเสียท่าให้ สาวรัสเซีย
ซึ่งเจ้าหล่อนเล่าว่า ของขวัญที่ให้ พี่บิล ประจำคือ เนคไท เพราะต้องการจะให้อยู่ใกล้กับหัวใจ
ของพี่บิลมากที่สุด
เรื่อง เซ็กซ์ กับ เงิน มันเป็นปัจจัยพื้นฐาน ที่นำพาความวุ่นวายในสู่โลกใบนี้ อย่างที่ปฏิเสธไม่ได้
รวมทั้ง กลุ่มแดง ณ ราชประสงค์ ซึ่งคนเรียกให้เขียนจดหมาย ใส่ลูกโป่ง หนีกระเจิง เพราะคุมคนไม่ได้
นั่นคือ ข่าวดารา ที่ยังเถีงกันในเรื่อง งี่เง่า กับการตรวจ ดีเอ็นเอ
เบื้องต้นไม่ต้องตรวจ ดูง่ายๆ มือ เท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า ของลูกจะต้องเหมือนพ่อ หรือ แม่คนใดคนหนึ่ง
แบบนี้แหละ หากนิ้วมือ นิ้วเท้าไม่เหมือนกัน ลักษณะมือเท้าเป็นคนละโลก นั่นก็ต้องทดสอบในประเด็นต่อไป
และ หญิงสาวในข่าวนั้นทำไมไม่ยืนกราน ว่า ไม่ให้ตรวจ(โว้ย) เอ็งนั่นแหละ เป็นตัวการ ไม่กล้ารับ
ก็ไม่ต้องรับ เพราะอีกไม่นาน คุณเธอ อาจจะรวยกว่าก็ได้ เพราะตอนนี้ข่าวว่า งานเข้าเพียบ
ส่วนใครที่อาจระอาใจกับข่าวในมุ้ง แล้วก็หาว่า เมืองไทยด้อยพัฒนา
โปรดอย่าลืมว่า ชายชื่อคลินตัน ปธน สองสมัย ที่ได้รับคะแนนท่วมท้น คนรักทั้งประเทศ
ก็เคยโดน ตรวจสอบออกทีวีเหมือนกัน เพราะดันไปเสียท่าให้ สาวรัสเซีย
ซึ่งเจ้าหล่อนเล่าว่า ของขวัญที่ให้ พี่บิล ประจำคือ เนคไท เพราะต้องการจะให้อยู่ใกล้กับหัวใจ
ของพี่บิลมากที่สุด
เรื่อง เซ็กซ์ กับ เงิน มันเป็นปัจจัยพื้นฐาน ที่นำพาความวุ่นวายในสู่โลกใบนี้ อย่างที่ปฏิเสธไม่ได้
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
ระวังเป็นแบบนี้
MI-6 Tue Sep 21, 2010 6:23 pm
Girl's horror as 21,000 RSVP Facebook party invite A 14-year-old girl from Hertfordshire who included her address on a Facebook invitation to her party was alarmed when 21,000 said they would be coming.
The party was cancelled when the school pupil was swamped by RSVPs from unwanted would-be guests on the social networking site.
The girl, from Harpenden, had reportedly only intended to invite 15 friends to her 15th birthday party.
Police said officers would patrol the area on the day of the planned party.
Harpenden neighbourhood officer Sgt Lewis Ducket, of Hertfordshire Police, said: "We are aware of this and have been assured that the event is no longer taking place.
'Officers on patrol'
"I would urge people who may be planning to come to Harpenden for the party to make other plans.
"We will have officers on patrol in the area on 7 October to provide a reassuring presence and who will be able to deal with any issues, should they arise."
Although the original invitation was removed from the site, a new version was visible to all Facebook users on Monday.
The event was not created by the girl herself but her address was again posted on the site for all to see and 19 people had confirmed their attendance.
The incident follows criticism of Facebook's privacy settings, with concerns being raised that they are too complicated.
A spokeswoman stressed that the privacy settings available for events created on the site are separate to those for users' profiles, on which they post information about themselves.
When someone creates an event on Facebook they can tick a box saying "anyone can view and RSVP (public event)".
... แต่คนที่อยากให้เป็นแบบนี้ น่าจะเป็นพวกนักจัดม็อบ ในอีเวนท์ต่างๆ
ทวิตเตอร์ เฟซบุคนั้น ไม่เคยจะข้องแวะเลย แค่โทรศัพท์มือถือก็คิดว่าอาจจะยกเลิกในลำดับต่อไป
แบบว่า ต้านกระแส และขวางโลก
The party was cancelled when the school pupil was swamped by RSVPs from unwanted would-be guests on the social networking site.
The girl, from Harpenden, had reportedly only intended to invite 15 friends to her 15th birthday party.
Police said officers would patrol the area on the day of the planned party.
Harpenden neighbourhood officer Sgt Lewis Ducket, of Hertfordshire Police, said: "We are aware of this and have been assured that the event is no longer taking place.
'Officers on patrol'
"I would urge people who may be planning to come to Harpenden for the party to make other plans.
"We will have officers on patrol in the area on 7 October to provide a reassuring presence and who will be able to deal with any issues, should they arise."
Although the original invitation was removed from the site, a new version was visible to all Facebook users on Monday.
The event was not created by the girl herself but her address was again posted on the site for all to see and 19 people had confirmed their attendance.
The incident follows criticism of Facebook's privacy settings, with concerns being raised that they are too complicated.
A spokeswoman stressed that the privacy settings available for events created on the site are separate to those for users' profiles, on which they post information about themselves.
When someone creates an event on Facebook they can tick a box saying "anyone can view and RSVP (public event)".
... แต่คนที่อยากให้เป็นแบบนี้ น่าจะเป็นพวกนักจัดม็อบ ในอีเวนท์ต่างๆ
ทวิตเตอร์ เฟซบุคนั้น ไม่เคยจะข้องแวะเลย แค่โทรศัพท์มือถือก็คิดว่าอาจจะยกเลิกในลำดับต่อไป
แบบว่า ต้านกระแส และขวางโลก
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
sunny- จำนวนข้อความ : 3511
Registration date : 28/06/2008
ถึงจะจนแต่ไม่ควรโง่ซ้ำซาก
MI-6 Wed Sep 22, 2010 7:15 am
คลังดันแผน2ขยับ2จี
คลังดันแผนสำรองหนุนกสท ทีโอที ขยับให้บริการ2จีเป็น3จีบนคลื่นความถี่เดิม
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีฯคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ รัฐบาล เตรียมเร่งผลักดันการแปรสัญญาสัมปทานที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของ บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ บริษัท ทีโอที ในการเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทาน จาก 2G เป็นใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่เดิม หลังไม่พบปัญหาในด้านเทคโนโลยี โดยจะมีการศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม แผนขั้นตอนดังกล่าวนั้นจะเป็นแผนสำรองหากไม่สามารถมีการประมูลใบอนุญาต 3G ได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการผลักดันกฎหมายการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ถือว่า ในขณะนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ในการออกร่างกฎหมาย โดยหากศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเป็นอย่างไร ในการประมูล 3G ของ ทาง กทช.การออกกฎหมาย กสทช.จะไม่ล้าช้าออกไปจากเดิมอย่างแน่นอน
....พิสูจน์ความจริงใจให้เห็นหน่อย ทำอะไรก็ทำ แต่ควรยึดหลักว่า
๑ ประเทศชาติ (ไทย) ได้รับประโยชนฺสูงสุด
๒ หยุดการเสียค่าโง่ซ้ำซากให้ต่างชาติ หรือ เอกชนรวยเอาๆๆๆๆ เสียที ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหน้าไหน
ขายไก่ ขายเป็ด ก็ยังรวยไม่พอ จะขายคลื่นอีกแน่ะ
๓ การหยุดเสียค่าโง่ และรู้เท่าทันต่างชาติ รวมทั้งการใช้ยุทธวิธีที่ฉลาด มันคือการประกาศศักดา
ของชาติอย่างแท้จริง จนรวยไม่สำคัญ อย่าเป็นประเภท จนแล้วยังโง่อีก
คลังดันแผนสำรองหนุนกสท ทีโอที ขยับให้บริการ2จีเป็น3จีบนคลื่นความถี่เดิม
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีฯคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ รัฐบาล เตรียมเร่งผลักดันการแปรสัญญาสัมปทานที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของ บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ บริษัท ทีโอที ในการเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทาน จาก 2G เป็นใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่เดิม หลังไม่พบปัญหาในด้านเทคโนโลยี โดยจะมีการศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม แผนขั้นตอนดังกล่าวนั้นจะเป็นแผนสำรองหากไม่สามารถมีการประมูลใบอนุญาต 3G ได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการผลักดันกฎหมายการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ถือว่า ในขณะนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ในการออกร่างกฎหมาย โดยหากศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเป็นอย่างไร ในการประมูล 3G ของ ทาง กทช.การออกกฎหมาย กสทช.จะไม่ล้าช้าออกไปจากเดิมอย่างแน่นอน
....พิสูจน์ความจริงใจให้เห็นหน่อย ทำอะไรก็ทำ แต่ควรยึดหลักว่า
๑ ประเทศชาติ (ไทย) ได้รับประโยชนฺสูงสุด
๒ หยุดการเสียค่าโง่ซ้ำซากให้ต่างชาติ หรือ เอกชนรวยเอาๆๆๆๆ เสียที ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหน้าไหน
ขายไก่ ขายเป็ด ก็ยังรวยไม่พอ จะขายคลื่นอีกแน่ะ
๓ การหยุดเสียค่าโง่ และรู้เท่าทันต่างชาติ รวมทั้งการใช้ยุทธวิธีที่ฉลาด มันคือการประกาศศักดา
ของชาติอย่างแท้จริง จนรวยไม่สำคัญ อย่าเป็นประเภท จนแล้วยังโง่อีก
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
ทำไมทุกคนกลัวล้าหลัง กะอีแค่ใช้โทรศัพท์
MI-6 Wed Sep 22, 2010 4:55 pm
ไปอ่านหลายบอร์ดมา คันมือยิกๆ อยากจะโพสต์ปะทะ แต่มันไม่อยากลงทะเบียน
เกือบทุกคน กลัวจะล้าหลัง กว่าลาว เวียดนาม ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ระบบใหม่ ที่บอกว่า
ส่งรูป เสียง อินเตอร์เน็ต ได้เร็วขึ้น
ทำไมต้องกลวขนาดนี้ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารแล้วหรือ
หากไอ้เทคโนโลยีพวกนี้มันทำให้ประเทศเราเจริญ ร่ำรวย และประชาชนมีความคิด
จิตสำนึก ใฝ่ดีได้จริงละก้อ เราคงไม่เป็นเช่นนี้
คือเต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ แล้วก็ภาคภูมิใจกันว่า นี่แหละของดี คือ รู้จักคิดนอกกรอบ
เหมือนฝรั่งเข้าไปทุกทีแล้ว
ยังไงก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่าการใช้รู้จักใช้เทคโนฯ ที่ล้ำ จะช่วยเพิ่มภูมิปัญญาของเราได้
การที่เปิดกว้างกับโลกไซเบอร์ มันเหมือนกับทำให้คนฟุ้งไปกับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะพบ
ไม่เคยรู้จัก และมีเรื่องใหม่กว่า เพื่อไปอวดกลุ่มเพื่อน หรือ คนในก๊วน ว่าเรารู้มากกว่า
แค่นั้นเอง
เกือบทุกคน กลัวจะล้าหลัง กว่าลาว เวียดนาม ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ระบบใหม่ ที่บอกว่า
ส่งรูป เสียง อินเตอร์เน็ต ได้เร็วขึ้น
ทำไมต้องกลวขนาดนี้ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารแล้วหรือ
หากไอ้เทคโนโลยีพวกนี้มันทำให้ประเทศเราเจริญ ร่ำรวย และประชาชนมีความคิด
จิตสำนึก ใฝ่ดีได้จริงละก้อ เราคงไม่เป็นเช่นนี้
คือเต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ แล้วก็ภาคภูมิใจกันว่า นี่แหละของดี คือ รู้จักคิดนอกกรอบ
เหมือนฝรั่งเข้าไปทุกทีแล้ว
ยังไงก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่าการใช้รู้จักใช้เทคโนฯ ที่ล้ำ จะช่วยเพิ่มภูมิปัญญาของเราได้
การที่เปิดกว้างกับโลกไซเบอร์ มันเหมือนกับทำให้คนฟุ้งไปกับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะพบ
ไม่เคยรู้จัก และมีเรื่องใหม่กว่า เพื่อไปอวดกลุ่มเพื่อน หรือ คนในก๊วน ว่าเรารู้มากกว่า
แค่นั้นเอง
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
DeathPower Thu Sep 23, 2010 5:59 pm
ศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับประมูล 3G
เมื่อเวลา 9.00น.ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งที่ห้องพิจารณาคดี1 ชั้น3 โดยองค์คณะที่5 กรณีการประมูล3G โดยศาลพิเคราะห์ใน 3 ประเด็นคือ
1.เรื่องอำนาจ กทช.ในการดำเนินการ ศาลวินิจฉัยโดยพิจารณาจาก พรบ.คลื่นฯ 2543 เห็นว่า น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในกรณีนี้ต่อไป
2.ขณะนี้คณะกรรมการร่วมแผนแม่บท ยังไม่มีตัวตน
3.หากปล่อยให้มีการประมูลจะเกิดผลเสียหายมากกว่า จึงจำเป็นต้องรอ กสทช. ศาลฯระบุ การไม่มี 3จี ไม่เป็นปัญหาต่อการบริการสาธารณะ ซึ่งการให้บริการจะต้องตั้งอยู่ในความชอบของกฏหมายด้วย
ศาลปกครองสูงสุด จึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ขณะที่ ดร.นที ประธานกรรมการ กทช.ได้ออกจากศาลไปทันทีที่ฟังคำสั่งศาลเสร็จสิ้น โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ และจะมีการแถลงที่กทช.ในเวลา14.00น.วันนี้
เมื่อเวลา 9.00น.ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งที่ห้องพิจารณาคดี1 ชั้น3 โดยองค์คณะที่5 กรณีการประมูล3G โดยศาลพิเคราะห์ใน 3 ประเด็นคือ
1.เรื่องอำนาจ กทช.ในการดำเนินการ ศาลวินิจฉัยโดยพิจารณาจาก พรบ.คลื่นฯ 2543 เห็นว่า น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในกรณีนี้ต่อไป
2.ขณะนี้คณะกรรมการร่วมแผนแม่บท ยังไม่มีตัวตน
3.หากปล่อยให้มีการประมูลจะเกิดผลเสียหายมากกว่า จึงจำเป็นต้องรอ กสทช. ศาลฯระบุ การไม่มี 3จี ไม่เป็นปัญหาต่อการบริการสาธารณะ ซึ่งการให้บริการจะต้องตั้งอยู่ในความชอบของกฏหมายด้วย
ศาลปกครองสูงสุด จึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ขณะที่ ดร.นที ประธานกรรมการ กทช.ได้ออกจากศาลไปทันทีที่ฟังคำสั่งศาลเสร็จสิ้น โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ และจะมีการแถลงที่กทช.ในเวลา14.00น.วันนี้
DeathPower- จำนวนข้อความ : 35
Registration date : 23/09/2010
เสียดาย แต่ไม่เสียใจ
MI-6 Fri Sep 24, 2010 7:12 am
คุณนที (ยศ ทหาร อะไรสักอย่าง ) กรรมการ กทช บอกว่า ไม่ได้เสียใจที่ศาลฯ ท่านตัดสินออกมาเช่นนั้น
และ ให้ความเคารพ พร้อมปฏิบัติการตามคำสั่งศาล
เพียงแต่เสียดายโอกาสที่คนไทยจะได้ใช้ ๓ จี
ย้ำอีกครั้งว่า กรรมการ กทช มี เจ็ดคน คนหนึ่งลาออกไปแล้ว แต่รู้สึกจะรักษาการอยู่
อีก ๓ หมดวาระ สิ้นเดือนกันยายนนี้ คงตามวาระปีงบประมาณ อายุราชการ ฯลฯ
เหลือที่จะมีผลทำงาน เพียง ๓ น้อยกว่าครึ่งของคณะกรรมการ
การรีบประมูลภายใน กันยายน ตามกำหนดเดิมคือ ๒๐ กันยายน นั่นแปลว่าอะไร
เพราะหากเหลือ ๓ หมดสิทธิแหงๆ
เวลาพูดถึง ระบบ ทำไมไม่พูดถึง ๓.๙ จี และไม่พูดให้ครบข้อมูลวา ทอท กสท นั้นมีความพร้อมที่จะ
ทำได้ เพิ่มระบบอีเลคโทรนิคอีกบางอย่างก็ทำได้ และโครงข่ายทั้งหมดที่ AIS หรือ DTAC หรือผู้ให้
บริการระบบ ๒จี ได้สร้างไว้จะต้องเป็นของรัฐบาล ตามสัญญาสัมปทาน อันนี้คือข้อตกลงเดิม ประเทศไทย
ไม่ได้เอาเปรียบพวกเอกชนพวกนี้เลย แต่มันเป็นเรื่องคำนวณได้เสีย ในการประมูลครั้งก่อนต่างหาก
ไม่อยากจะเอาวาทะ สุเทพเทือก ฯ ที่ถามนักข่าว เวลาคำถามดูแปร่งๆ ว่า
" คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ? "
เทคโนโลยีทุกเทคฯ มีข้อดี มีข้อเสีย มีคนได้ประโยชน์ และ ไม่ใช่ทุกคนจะได้ประโยชน์
ไม่ใช่ทุกคนต้องใช้มัน ขาดมันไม่ได้ ต้องตายสถานเดียว
ปัจจัยพื้นฐานของประชาชนต่างหาก อาหาร ยา เสื้อผ้า ที่คุ้มภัย ควรจะมีให้ครบ
อ้อ....โอกาสในการเรียนรู้ด้วย การเรียนรู้ไม่ใช่การศึกษาในห้องเรียน ที่จะต้องเรียนตามที่
ต้องการให้รู้ ห้าอย่างนั้นต่างหากที่ต้องจัดหาให้ได้ในเบื้องต้น
ต่อให้เป็น อินฟินิตี้ จี ก็ไม่จำเป็นสำหรับคนไทย ที่ต้องตายถ้าคนไทยไม่ได้ใช้คงเป็นนักการค้า
นักการเมือง ที่ต้องการได้สัญญาสัมปทาน และใบอนุญาต เพื่อหารายได้อย่างอื่น ที่ก็ไม่เคย
พูดออกมาดังๆ เท่านั้นเอง
และ ให้ความเคารพ พร้อมปฏิบัติการตามคำสั่งศาล
เพียงแต่เสียดายโอกาสที่คนไทยจะได้ใช้ ๓ จี
ย้ำอีกครั้งว่า กรรมการ กทช มี เจ็ดคน คนหนึ่งลาออกไปแล้ว แต่รู้สึกจะรักษาการอยู่
อีก ๓ หมดวาระ สิ้นเดือนกันยายนนี้ คงตามวาระปีงบประมาณ อายุราชการ ฯลฯ
เหลือที่จะมีผลทำงาน เพียง ๓ น้อยกว่าครึ่งของคณะกรรมการ
การรีบประมูลภายใน กันยายน ตามกำหนดเดิมคือ ๒๐ กันยายน นั่นแปลว่าอะไร
เพราะหากเหลือ ๓ หมดสิทธิแหงๆ
เวลาพูดถึง ระบบ ทำไมไม่พูดถึง ๓.๙ จี และไม่พูดให้ครบข้อมูลวา ทอท กสท นั้นมีความพร้อมที่จะ
ทำได้ เพิ่มระบบอีเลคโทรนิคอีกบางอย่างก็ทำได้ และโครงข่ายทั้งหมดที่ AIS หรือ DTAC หรือผู้ให้
บริการระบบ ๒จี ได้สร้างไว้จะต้องเป็นของรัฐบาล ตามสัญญาสัมปทาน อันนี้คือข้อตกลงเดิม ประเทศไทย
ไม่ได้เอาเปรียบพวกเอกชนพวกนี้เลย แต่มันเป็นเรื่องคำนวณได้เสีย ในการประมูลครั้งก่อนต่างหาก
ไม่อยากจะเอาวาทะ สุเทพเทือก ฯ ที่ถามนักข่าว เวลาคำถามดูแปร่งๆ ว่า
" คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ? "
เทคโนโลยีทุกเทคฯ มีข้อดี มีข้อเสีย มีคนได้ประโยชน์ และ ไม่ใช่ทุกคนจะได้ประโยชน์
ไม่ใช่ทุกคนต้องใช้มัน ขาดมันไม่ได้ ต้องตายสถานเดียว
ปัจจัยพื้นฐานของประชาชนต่างหาก อาหาร ยา เสื้อผ้า ที่คุ้มภัย ควรจะมีให้ครบ
อ้อ....โอกาสในการเรียนรู้ด้วย การเรียนรู้ไม่ใช่การศึกษาในห้องเรียน ที่จะต้องเรียนตามที่
ต้องการให้รู้ ห้าอย่างนั้นต่างหากที่ต้องจัดหาให้ได้ในเบื้องต้น
ต่อให้เป็น อินฟินิตี้ จี ก็ไม่จำเป็นสำหรับคนไทย ที่ต้องตายถ้าคนไทยไม่ได้ใช้คงเป็นนักการค้า
นักการเมือง ที่ต้องการได้สัญญาสัมปทาน และใบอนุญาต เพื่อหารายได้อย่างอื่น ที่ก็ไม่เคย
พูดออกมาดังๆ เท่านั้นเอง
MI-6- จำนวนข้อความ : 956
Registration date : 14/10/2008
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
DeathPower Thu Sep 30, 2010 3:01 am
ครม.อนุมัติลงทุน 3G อาจได้ใช้ใน 6 เดือน
ครม.อนุมัติงบ 19,980 ล้านบาท ให้ ทีโอที ลงทุน 3G คาดประชาชนได้ใช้ภายใน 6 เดือน
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณลงทุนแผนธุรกิจโครงสร้างโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3G ด้วยงบประมาณ 19,980 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจากการอนุมัติครั้งก่อน เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2551 คือ 29,000 ล้านบาท ให้กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
โดย นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งบประมาณ 19,980 ล้านบาท ในการดำเนินการ 3G ของทีโอทีนั้น แบ่งออกเป็น
1. ส่วนของการประกวดราคา 17,440 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 23,600 ล้านบาท)
2. อุปกรณ์ขยายขีดความสามารถของโครงข่าย 540 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 3,000 ล้านบาท)
3. ปรับปรุงโครงข่ายเดิมจาก 2G เป็น 3G 2,000 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 2,400 ล้านบาท)
นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจ จากเดิมเป็นการ ขายส่งควบขายปลีก เป็นการขายส่งอย่างเดียว และคาดว่าจำสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี 5 เดือน รวมถึงการประกวดราคาที่จะเปลี่ยนเป็น การประมูลแบบสากล (International Bid) ซึ่งสามารถให้ชาวต่างชาติร่วมทุนกับคนไทยประมูลได้
ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กล่าวว่า จากนี้ไปบริษัททีโอที ต้องตั้งบริษัทลูกเข้ามาบริหารงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน และจะต้องปรับปรุงสถานีฐานเดิม จาก 4,700 สถานีฐาน เป็น 5,320 สถานีฐาน โดยให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม. และจังหวัดอื่น ๆ ประมาณ 12-15 จังหวัด โดยมีเป้าหมาย 50% ของผู้ใช้บริการ และนับเป็น 80% ของจำนวนประชากร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนี้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าการอนุมัติงบประมาณดังกล่าว จะไม่สามารถทดแทนความชัดเจนในเรื่อง 3G ได้ทั้งหมด แต่ก็จะช่วยผลักดันให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ และรัฐบาลก็ได้มีการเร่งรัดให้มีหลักการอยู่แล้ว
ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย มีการตั้งคำถามถึงรัฐบาลกรณีที่ศาลมีคำสั่งระงับการประมูล 3G ออกไปก่อน ว่าเป็นเพราะรัฐบาลไม่สามารถทำให้เกิดการบริการ 3G ขึ้นได้มากกว่า และหากรัฐบาลยืนยันว่าสามารถให้บริการ 3G ได้จะต้องตอบคำถาม 5 ข้อให้ได้ ดังนี้
1. การลงทุนในการอัพเกรดระบบเป็น 3G จะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท และระยะเวลาที่เหลือของสัมปทาน ผู้ลงทุนให้บริการจะไม่สามารถคืนทุนได้ จึงไม่กล้าลงทุน ถามว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรให้ผู้บริการที่ไม่มั่นใจ มาลงทุน
2. รัฐบาลจะขยายอายุสัมปทานให้กับผู้ให้บริการในปัจจุบันอย่างไร เพราะขนาดกรรมการกฤษฎีกายังไม่ให้ความเห็นได้เรื่องนี้เลย
3. รัฐบาลทราบดีว่าคลื่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยม เพราะจะทำให้อุปกรณ์โครงข่ายและมือถือมีราคาสูงกว่าระบบ 2.1 GHz หากในอนาคตมีการเปลี่ยนเป็นระบบ 2.1 GHz ผู้ให้บริการจะทำอย่างไร
4. ผู้ให้บริการบางรายในปัจจุบัน มีช่วงคลื่นมากกว่า ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม รัฐจะทำอย่างไรไม่ให้เป็น 2 มาตรฐาน
5. หากมีการอัพเกรด 2G เป็น 3G บริการ 2G จะต้องหยุดชะงัก รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรกับผู้ที่ใช้บริการอยู่
ครม.อนุมัติงบ 19,980 ล้านบาท ให้ ทีโอที ลงทุน 3G คาดประชาชนได้ใช้ภายใน 6 เดือน
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณลงทุนแผนธุรกิจโครงสร้างโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3G ด้วยงบประมาณ 19,980 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจากการอนุมัติครั้งก่อน เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2551 คือ 29,000 ล้านบาท ให้กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
โดย นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งบประมาณ 19,980 ล้านบาท ในการดำเนินการ 3G ของทีโอทีนั้น แบ่งออกเป็น
1. ส่วนของการประกวดราคา 17,440 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 23,600 ล้านบาท)
2. อุปกรณ์ขยายขีดความสามารถของโครงข่าย 540 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 3,000 ล้านบาท)
3. ปรับปรุงโครงข่ายเดิมจาก 2G เป็น 3G 2,000 ล้านบาท (งบประมาณเดิม 2,400 ล้านบาท)
นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจ จากเดิมเป็นการ ขายส่งควบขายปลีก เป็นการขายส่งอย่างเดียว และคาดว่าจำสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี 5 เดือน รวมถึงการประกวดราคาที่จะเปลี่ยนเป็น การประมูลแบบสากล (International Bid) ซึ่งสามารถให้ชาวต่างชาติร่วมทุนกับคนไทยประมูลได้
ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กล่าวว่า จากนี้ไปบริษัททีโอที ต้องตั้งบริษัทลูกเข้ามาบริหารงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน และจะต้องปรับปรุงสถานีฐานเดิม จาก 4,700 สถานีฐาน เป็น 5,320 สถานีฐาน โดยให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม. และจังหวัดอื่น ๆ ประมาณ 12-15 จังหวัด โดยมีเป้าหมาย 50% ของผู้ใช้บริการ และนับเป็น 80% ของจำนวนประชากร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนี้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าการอนุมัติงบประมาณดังกล่าว จะไม่สามารถทดแทนความชัดเจนในเรื่อง 3G ได้ทั้งหมด แต่ก็จะช่วยผลักดันให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ และรัฐบาลก็ได้มีการเร่งรัดให้มีหลักการอยู่แล้ว
ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย มีการตั้งคำถามถึงรัฐบาลกรณีที่ศาลมีคำสั่งระงับการประมูล 3G ออกไปก่อน ว่าเป็นเพราะรัฐบาลไม่สามารถทำให้เกิดการบริการ 3G ขึ้นได้มากกว่า และหากรัฐบาลยืนยันว่าสามารถให้บริการ 3G ได้จะต้องตอบคำถาม 5 ข้อให้ได้ ดังนี้
1. การลงทุนในการอัพเกรดระบบเป็น 3G จะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท และระยะเวลาที่เหลือของสัมปทาน ผู้ลงทุนให้บริการจะไม่สามารถคืนทุนได้ จึงไม่กล้าลงทุน ถามว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรให้ผู้บริการที่ไม่มั่นใจ มาลงทุน
2. รัฐบาลจะขยายอายุสัมปทานให้กับผู้ให้บริการในปัจจุบันอย่างไร เพราะขนาดกรรมการกฤษฎีกายังไม่ให้ความเห็นได้เรื่องนี้เลย
3. รัฐบาลทราบดีว่าคลื่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยม เพราะจะทำให้อุปกรณ์โครงข่ายและมือถือมีราคาสูงกว่าระบบ 2.1 GHz หากในอนาคตมีการเปลี่ยนเป็นระบบ 2.1 GHz ผู้ให้บริการจะทำอย่างไร
4. ผู้ให้บริการบางรายในปัจจุบัน มีช่วงคลื่นมากกว่า ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม รัฐจะทำอย่างไรไม่ให้เป็น 2 มาตรฐาน
5. หากมีการอัพเกรด 2G เป็น 3G บริการ 2G จะต้องหยุดชะงัก รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรกับผู้ที่ใช้บริการอยู่
DeathPower- จำนวนข้อความ : 35
Registration date : 23/09/2010
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
DeathPower Thu Sep 30, 2010 3:09 am
สมัยโบราณรุ่น "โค-ตะ-ระ" มหาทวด ไม่เห็นมีซัก G เดียว ก็เห็นอยู่มาได้
เลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน ตั้งแต่ "ตีน" เท่าฝาหอยจนโต ไม่เห็นใครจะเดือดร้อน
ประเทศชาติ ต้องวัดกันที่ อารยะ ภาษาและวัฒนธรรม
ไม่ใช่วิทยาการทางเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่สภาวะจิตใจเสื่อมทราม
เลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน ตั้งแต่ "ตีน" เท่าฝาหอยจนโต ไม่เห็นใครจะเดือดร้อน
ประเทศชาติ ต้องวัดกันที่ อารยะ ภาษาและวัฒนธรรม
ไม่ใช่วิทยาการทางเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่สภาวะจิตใจเสื่อมทราม
DeathPower- จำนวนข้อความ : 35
Registration date : 23/09/2010
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
DeathPower Thu Sep 30, 2010 2:17 pm
กทช. สรุปผลเสียหายจากการถูกศาลสั่งระงับเปิดประมูล 3จีรวม 80 ล้านบาท
(สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)
กทช. สรุปผลเสียหายจากการถูกศาลสั่งระงับเปิดประมูล 3จี รวม 80 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการเจรจาต่อรองบรรเทาความเสียหาย ขอลดค่าใช้จ่ายในส่วนสำรองโรงแรมและอาหารที่ยังไม่ได้ใช้งาน 25 ล้านบาท
พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. กล่าวสรุปผลเสียหายทั้งหมด หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ให้ระงับการเปิดประมูลใบอนุญาต 3จี ว่า กทช.ใช้งบประมาณในการเตรียมการประมูลก่อนศาลสั่งระงับการประมูลทั้งหมดรวม 80 ล้านบาท แบ่งรายละเอียดได้ดังนี้
การเดินสายโรดโชว์เชิญชวนต่างประเทศมาร่วมลงทุน 3จี 10 ล้านบาท จัดงานมหกรรม 3.9G ที่ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร 3 จี กับประชาชน และงบประมาณอีก 50 ล้านบาท ใช้เพื่อการเตรียมการในการเตรียมเปิดประมูล
โดย 25 ล้านบาทใช้ในการเตรียมการด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ อินเทอร์เน็ตในการประมูล และกล้องวงจรปิด แต่อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ไม่ได้รับผลเสียหายเนื่องจากยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
และงบประมาณ อีก 25 ล้านบาท ที่ใช้ในการสำรองห้องพักและอาหารสำหรับการประมูล ในโรงแรมเอวาซอน หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ กทช. มองว่า ยังสามารถเจรจากับโรงแรมเพื่อขอลดหย่อนหรือขอคืนเงินได้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการเจรจาต่อรองบรรเทาความเสียหาย ประกอบด้วยบุคคลภายนอกองค์กรและบุคคลจากภายใน กทช.รวมทั้งสิ้น 5 คน เพื่อไปดำเนินการเจรจาในส่วนนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การเจรจาเพื่อขอลดหย่อนค่าใช้จ่ายกับโรงแรมเอวาซอนครั้งนี้ คณะกรรมการจะพยายามให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะได้ค่าลดหย่อนหรือเงินจากโรงแรมไม่เกิน 25 ล้านบาท
(สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)
กทช. สรุปผลเสียหายจากการถูกศาลสั่งระงับเปิดประมูล 3จี รวม 80 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการเจรจาต่อรองบรรเทาความเสียหาย ขอลดค่าใช้จ่ายในส่วนสำรองโรงแรมและอาหารที่ยังไม่ได้ใช้งาน 25 ล้านบาท
พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. กล่าวสรุปผลเสียหายทั้งหมด หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ให้ระงับการเปิดประมูลใบอนุญาต 3จี ว่า กทช.ใช้งบประมาณในการเตรียมการประมูลก่อนศาลสั่งระงับการประมูลทั้งหมดรวม 80 ล้านบาท แบ่งรายละเอียดได้ดังนี้
การเดินสายโรดโชว์เชิญชวนต่างประเทศมาร่วมลงทุน 3จี 10 ล้านบาท จัดงานมหกรรม 3.9G ที่ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร 3 จี กับประชาชน และงบประมาณอีก 50 ล้านบาท ใช้เพื่อการเตรียมการในการเตรียมเปิดประมูล
โดย 25 ล้านบาทใช้ในการเตรียมการด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ อินเทอร์เน็ตในการประมูล และกล้องวงจรปิด แต่อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ไม่ได้รับผลเสียหายเนื่องจากยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
และงบประมาณ อีก 25 ล้านบาท ที่ใช้ในการสำรองห้องพักและอาหารสำหรับการประมูล ในโรงแรมเอวาซอน หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ กทช. มองว่า ยังสามารถเจรจากับโรงแรมเพื่อขอลดหย่อนหรือขอคืนเงินได้ โดยได้ตั้งคณะกรรมการเจรจาต่อรองบรรเทาความเสียหาย ประกอบด้วยบุคคลภายนอกองค์กรและบุคคลจากภายใน กทช.รวมทั้งสิ้น 5 คน เพื่อไปดำเนินการเจรจาในส่วนนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การเจรจาเพื่อขอลดหย่อนค่าใช้จ่ายกับโรงแรมเอวาซอนครั้งนี้ คณะกรรมการจะพยายามให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะได้ค่าลดหย่อนหรือเงินจากโรงแรมไม่เกิน 25 ล้านบาท
DeathPower- จำนวนข้อความ : 35
Registration date : 23/09/2010
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
DeathPower Thu Sep 30, 2010 2:31 pm
อนาจใจกับ "คน" ในสมัยนี้ โดยเฉพาะพวกผู้ที่มีอำนาจ และแสวงหาอำนาจทั้งหลาย
เมื่อวานนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดไปหน้าสองเจอบทความคอลัมน์ชื่อ "เปิดฟ้า ส่องโลก" โดยนายนิติภูมิ นวรัตน์
หัวข้อเรื่องในครั้งนี้คือ "ประเทศที่ช้าล้าสมัย"
อ่านแล้วก็นึกสังเวชกับความคิดของชายผู้นี้ ทำนายชะตาชีวิตได้เลยว่าชาตินี้ทั้งชาติ คงเป็นได้แค่ "user & slave"
ไม่มีวันที่จะได้สัมผัสหรอกในเรื่องที่อยากจะเป็น "commander & leader".....ชิ อย่าหวัง
ใครอยากรู้ว่าเขียนอะไรไปหาอ่านกันเอาเอง
เมื่อวานนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดไปหน้าสองเจอบทความคอลัมน์ชื่อ "เปิดฟ้า ส่องโลก" โดยนายนิติภูมิ นวรัตน์
หัวข้อเรื่องในครั้งนี้คือ "ประเทศที่ช้าล้าสมัย"
อ่านแล้วก็นึกสังเวชกับความคิดของชายผู้นี้ ทำนายชะตาชีวิตได้เลยว่าชาตินี้ทั้งชาติ คงเป็นได้แค่ "user & slave"
ไม่มีวันที่จะได้สัมผัสหรอกในเรื่องที่อยากจะเป็น "commander & leader".....ชิ อย่าหวัง
ใครอยากรู้ว่าเขียนอะไรไปหาอ่านกันเอาเอง
DeathPower- จำนวนข้อความ : 35
Registration date : 23/09/2010
Re: 3 G ไม่มีไม่ได้ ถึงตายทีเดียว
ฅนไท Sat Nov 06, 2010 12:32 am
หอการค้าฯเปรี้ยง!ล้มประมูล3G กระทบแรง"แข่งขันตกต่ำ-โอกาสธุรกิจหายวับกว่า 2 แสนล้าน" ได้เวลาทุบโต๊ะ
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงานสัมมนาวิชาการ“วิกฤต 3G จุดเปลี่ยนธุรกิจไทย” เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2553 ที่ผ่านมาว่า การระงับการประมูลใบอนุญาต 3G กระเทือนถึงกำไรที่ธุรกิจและประเทศไทยควรได้ เพราะ 3G คือสิ่งที่สามารถลดต้นทุนทางธุรกิจได้ ไม่ว่าจะมาจากการอัพเดทข้อมูล หรือการสร้างระบบการประชาสัมพันธ์ การกระตุ้นการขายจึงเป็นความน่าเสียดายสำหรับเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และยังกระทบความเชื่อถือด้านการลงทุนด้วย ถ้ารัฐบาลไม่ใส่ใจก็ต้องมีการกดดันให้ใส่ใจมากกว่านี้ เพราะภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศคือการทำให้เศรษฐกิจเติบโต โดยความเสียหายดังกล่าวมีการประเมินมูลค่าไว้ที่ 200,000 กว่าล้านบาท จากการหายไปของเงินลงทุนและรายได้จากแอพพลิเคชั่นที่ต่อยอดจากการมีบริการ 3G
“การมี 3G หมายรวมถึงการทำให้คนต่างจังหวัดได้เข้าถึงคลังสมอง เข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ การทำให้ธุรกิจ SME เกิดขึ้นได้รวดเร็วทำให้มีเศรษฐีใหม่อายุไม่ถึง 30 เกิดขึ้นได้มากมาย เพราะประเทศที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือประเทศ Facebook ที่กลายเป็นช่องทางในการเจาะตลาดหาลูกค้าใหม่ วันนี้ดาต้าและออนไลน์ คือความเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้คนจะติดคำว่าสะดวก และเร็ว ระบบเศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนครั้งใหญ่ ไปสู่ดิจิทัลอีโคโนมี่ โนเลจอีโคโนมี่ ไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ ทุกอย่างต้องเชื่อมต่อกัน ความเร็วจึงเป็นเรื่องสำคัญ”
โครงสร้างของธุรกิจใหม่คือการสร้างฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีที่เข้มแข็ง เมื่อขาด 3G จึงขาดพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์ธุรกิจให้มีความโดดเด่น
จากผลสำรวจของบริษัทวิจัยไอดีซีแสดงให้เป็นว่าความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย หากเทียบประเทศในเอเชียแล้วอยู่ระดับกลางๆ แพ้มาเลเซีย สิงคโปร์ และถ้าลงลึกไปถึงดัชนีชี้วัดทางวิทยาศาสตร์ ไอซีที โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะพบว่าไทยอยู่ในอันดับต่ำมาก แม้แต่งบด้านวิจัยและพัฒนาเมื่อเทียบกับจีดีพีของประเทศแล้วใช้ไม่ถึง 2% ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลายมาก
ประเด็นที่สำคัญคือการล้มประมูล 3G กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศมาก เป็นการย้ำว่าไทยมีปัญหาด้านการดูแลทางกฎหมาย ดังนั้นตนมองว่าถึงเวลาที่ควรกดดันองค์กรอิสระและหน่วยงานอื่นๆ ให้ใช้ผลประโยชน์ของประเทศเป็นตัวตั้ง ถ้าคนที่ถูกเลือกตั้งมาจากประชาชนไม่สามารถเคลียร์ทุกปัญหาได้ก็ต้องร่วมกันกดดัน เพราะผู้นำควรทุบโต๊ะเพื่อพัฒนาประเทศ”ดร.ธนวรรธน์กล่าว
"คนมักมองว่าวงการโทรคมนาคมไทยมีปัญหาเพราะอยู่ในมือของต่างชาติ จริงๆ ต้องมองว่าเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีหรือไม่ เงินหมุนเวียนในไทยหรือไม่ จริงอยู่เขาทำกำไรได้ก็ต้องปันผล แต่เมื่อพัฒนาเทคโนโลยีแล้วทำให้ผู้ประกอบการอื่นๆ ในไทยต่อยอดได้ ก็คือประโยชน์ ประเทศจะได้ความคุ้มค่าจากภาษีที่เก็บได้ ขณะที่ประชาชน ได้ความคุ้มค่าจาการนำโทรคมนาคมไปลดต้นทุนธุรกิจหรือการเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น"
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงานสัมมนาวิชาการ“วิกฤต 3G จุดเปลี่ยนธุรกิจไทย” เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2553 ที่ผ่านมาว่า การระงับการประมูลใบอนุญาต 3G กระเทือนถึงกำไรที่ธุรกิจและประเทศไทยควรได้ เพราะ 3G คือสิ่งที่สามารถลดต้นทุนทางธุรกิจได้ ไม่ว่าจะมาจากการอัพเดทข้อมูล หรือการสร้างระบบการประชาสัมพันธ์ การกระตุ้นการขายจึงเป็นความน่าเสียดายสำหรับเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และยังกระทบความเชื่อถือด้านการลงทุนด้วย ถ้ารัฐบาลไม่ใส่ใจก็ต้องมีการกดดันให้ใส่ใจมากกว่านี้ เพราะภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศคือการทำให้เศรษฐกิจเติบโต โดยความเสียหายดังกล่าวมีการประเมินมูลค่าไว้ที่ 200,000 กว่าล้านบาท จากการหายไปของเงินลงทุนและรายได้จากแอพพลิเคชั่นที่ต่อยอดจากการมีบริการ 3G
“การมี 3G หมายรวมถึงการทำให้คนต่างจังหวัดได้เข้าถึงคลังสมอง เข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ การทำให้ธุรกิจ SME เกิดขึ้นได้รวดเร็วทำให้มีเศรษฐีใหม่อายุไม่ถึง 30 เกิดขึ้นได้มากมาย เพราะประเทศที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือประเทศ Facebook ที่กลายเป็นช่องทางในการเจาะตลาดหาลูกค้าใหม่ วันนี้ดาต้าและออนไลน์ คือความเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้คนจะติดคำว่าสะดวก และเร็ว ระบบเศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนครั้งใหญ่ ไปสู่ดิจิทัลอีโคโนมี่ โนเลจอีโคโนมี่ ไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ ทุกอย่างต้องเชื่อมต่อกัน ความเร็วจึงเป็นเรื่องสำคัญ”
โครงสร้างของธุรกิจใหม่คือการสร้างฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีที่เข้มแข็ง เมื่อขาด 3G จึงขาดพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์ธุรกิจให้มีความโดดเด่น
จากผลสำรวจของบริษัทวิจัยไอดีซีแสดงให้เป็นว่าความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย หากเทียบประเทศในเอเชียแล้วอยู่ระดับกลางๆ แพ้มาเลเซีย สิงคโปร์ และถ้าลงลึกไปถึงดัชนีชี้วัดทางวิทยาศาสตร์ ไอซีที โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะพบว่าไทยอยู่ในอันดับต่ำมาก แม้แต่งบด้านวิจัยและพัฒนาเมื่อเทียบกับจีดีพีของประเทศแล้วใช้ไม่ถึง 2% ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลายมาก
ประเด็นที่สำคัญคือการล้มประมูล 3G กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศมาก เป็นการย้ำว่าไทยมีปัญหาด้านการดูแลทางกฎหมาย ดังนั้นตนมองว่าถึงเวลาที่ควรกดดันองค์กรอิสระและหน่วยงานอื่นๆ ให้ใช้ผลประโยชน์ของประเทศเป็นตัวตั้ง ถ้าคนที่ถูกเลือกตั้งมาจากประชาชนไม่สามารถเคลียร์ทุกปัญหาได้ก็ต้องร่วมกันกดดัน เพราะผู้นำควรทุบโต๊ะเพื่อพัฒนาประเทศ”ดร.ธนวรรธน์กล่าว
"คนมักมองว่าวงการโทรคมนาคมไทยมีปัญหาเพราะอยู่ในมือของต่างชาติ จริงๆ ต้องมองว่าเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีหรือไม่ เงินหมุนเวียนในไทยหรือไม่ จริงอยู่เขาทำกำไรได้ก็ต้องปันผล แต่เมื่อพัฒนาเทคโนโลยีแล้วทำให้ผู้ประกอบการอื่นๆ ในไทยต่อยอดได้ ก็คือประโยชน์ ประเทศจะได้ความคุ้มค่าจากภาษีที่เก็บได้ ขณะที่ประชาชน ได้ความคุ้มค่าจาการนำโทรคมนาคมไปลดต้นทุนธุรกิจหรือการเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น"
ฅนไท- จำนวนข้อความ : 193
Registration date : 04/11/2008
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ|
|
|